นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณีที่ไม่มีรายชื่อตนอยู่ใน ส.ส. บัญชีรายชื่อของพรรค ว่า ตนไม่มีความเชี่ยวชาญด้านนิติบัญญัติ และเห็นว่าในพรรคมีขุนพลที่มีความสามารถด้านนี้หลายคน ประกอบกับกฎหมายการเลือกตั้งแบบใหม่จะทำให้พรรคที่มี ส.ส. เขตจำนวนมาก ได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อน้อย ดังนั้นจึงควรเปิดทางให้คนอื่นได้เข้ามาทำงานที่เขาถนัด พร้อมปฏิเสธว่าไม่กลัวเปลืองตัวทางการเมือง เพราะวันนี้ลาออกจากหลายตำแหน่งมาลงพื้นที่ทำงานการเมืองเต็มตัว พร้อมย้ำว่า “เราไม่ต้องเล่นทุกบทบาท แต่เรารู้ตัวว่าเราเก่งตรงไหน ไม่เก่งตรงไหน รู้จักตัวเองว่าไม่ได้เก่งทุกเรื่อง เล่นเฉพาะบทบาทที่เราถนัด”

เมื่อถามต่อว่าหากเพื่อไทยไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล ตนจะไปอยู่ในตำแหน่งใด นายชัชชาติระบุว่า ตนยังคงอยู่กับพรรคเพื่อไทย เป็นทีมงานคอยช่วยเหลือ และยังมีบทบาทอื่นๆ ที่ตนจะได้เข้ามาช่วยเหลือประเทศชาติได้อีกเยอะ เช่น การลงสมัครเป็นผู้ว่า กทม. 

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการยื่นรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีว่า พรรคเพื่อไทยส่งรายชื่อ ส.ส. บัญชีรายชื่อ 97 คน ซึ่งในนั้นไม่มีรายชื่อของนายชัชชาติ เพราะทางพรรคมอบหมายให้นายชัชชาติทำงานด้านบริหาร แต่เสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคร่วมกับ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง และนายชัยเกษม นิติสิริ อดีตอัยการสูงสุด ทั้งนี้ขอให้มองการทำงานเป็นทีมและให้ประชาชนเลือกเป็นพรรคโดยดูจากโลโก้พรรคในบัตรเลือกตั้ง พร้อมปฏิเสธว่าการส่งผู้สมัคร ส.ส. กทม. ไม่มีการฮั๊วะกับพรรคไทยรักษาชาติ แต่เป็นเรื่องของกลยุทธการเลือกตั้ง

โดยรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. 15 อันดับได้แก่ 

1.พลตำรวจโท วิโรจน์ เปาอินทร์

2.คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

3.นายชัยเกษม นิติสิริ 

4.นายภูมิธรรม เวชยชัย

5.นายเสนาะ เทียนทอง

6.ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง 

7.นายปลอดประสพ สุรัสวดี 

8.นายโภคิน พลกุล

9.นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล

10.นายเกรียง กัลป์ตินันท์

11.นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง 

12.นายชูศักดิ์ ศิรินิล 

13.นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา 

14.นายนพดล ปัทมะ

15.นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ