สำนักข่าว CNN รายงานอ้างอิงคำแถลงของกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของจีนซึ่งระบุว่า พลเรือนจีนที่สามารถให้ข้อมูลต่อรัฐบาลจีนได้สำเร็จถึงบุคคลที่มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ จะสามารถเลือกรับรางวัลได้สองประเภทคือ 'รางวัลทางจิตใจ' อย่างใบประกาศจากภาครัฐ หรือ 'รางวัลที่เป็นสิ่งของ' ซึ่งหมายถึงการรับรางวัลเป็นเงินสด
หากผู้ให้ข้อมูลกับภาครัฐเลือกรับรางวัลเป็น 'เงินสด' จะมีการประเมินจากผู้ออกกฎว่าสมควรได้รับเงินจำนวนเท่าใด ขึ้นอยู่กับคุณค่าของข้อมูลเบาะแสที่แจ้งไปยังรัฐบาล ท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลจีนในการกำจัดการบ่อนทำลายชาติและการจารกรรมจากต่างชาติ โดยรางวัลแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ระดับ ระดับสูงสุดมีมูลค่า 100,000 หยวน หรือราว 512,200 บาท
ลักษณะการแจ้งเบาะแสบุคคลที่มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติจะต้องเป็นข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับ 'บุคคล' หรือ 'การกระทำ' และจะต้องเป็นข้อมูลใหม่ที่ 'รัฐบาลจีนไม่เคยรู้มาก่อน' ผู้ให้เบาะแสสามารถแจ้งด้วยตัวเอง แจ้งผ่านทางออนไลน์ แจ้งผ่านทางไปรษณีย์ หรือช่องทางสายด่วนฮอตไลน์ของรัฐบาลจีน
มาตรการนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ รัฐบาลจีนพยายามผลักดันให้ประชาชนแจ้งข้อมูลสำคัญลักษณะนี้ต่อภาครัฐเสมอมาผ่านโครงการโฆษณาชวนเชื่อและการมอบรางวัลต่างๆ ให้กับผู้แจ้งเบาะแส เพื่อ "กำจัดสายลับต่างชาติและสายลับที่ทำงานให้กับต่างชาติ"
ในปี 2560 รัฐบาลปักกิ่งเริ่มประกาศโครงการมอบรางวัลให้ประชาชนสูงสุด 500,000 หยวน หรือราว 2.58 ล้านบาท สำหรับการแจ้งเบาะแส 'สายลับ' ในจีนได้สำเร็จ
ขณะนั้นมีการแจ้งเบาะแสมากกว่า 5,000 ครั้ง โดยสำนักข่าว Beijing News รายงานว่ามีการมอบรางวัลจริงเกิดขึ้นจำนวนหลายครั้ง ผู้ที่ได้รับรางวัลจากการแจ้งเบาะแสมีตั้งแต่นักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ ไปจนถึงคนขับรถแท็กซี่