อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ประกาศคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (ซีพีไอ) ปี 2020 จำนวน 180 ประเทศ ว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ไทยได้คะแนนลดลง คือเรื่องการติดสินบนและการทุจริตจากผู้บริหารระดับสูง พบว่าได้คะแนนลดลงจากปี 2562 ที่ได้ 45 คะแนน เพราะเห็นว่ายังมีปัญหาการให้และรับสินบน การทุจริตคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่รัฐ เช่น การลักลอบเปิดบ่อนการพนัน และลักลอบเข้าประเทศของแรงงานผิดกฎหมาย
อีกทั้งการลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐทุจริตไม่มีประสิทธิภาพ อันดับที่ประกาศออกมาจึงสอดรับกับผลงานการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อยู่มาเกือบ 7 ปี ไม่สามารถไปโยนบาปให้รัฐบาลไหนได้แล้ว
"รัฐบาลต้องตอบคำถามว่า เหตุใดอันดับในเรื่องความโปร่งใส ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของประเทศไทยจึงตกต่ำลงเรื่อยๆ ไม่พัฒนา ทั้งที่รัฐบาลมีเครื่องมือ ทรัพยากร และทุ่มงบประมาณลงไปเป็นจำนวนมาก" อนุสรณ์ ระบุ
ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.ยังออกมายอมรับสถานการณ์คอร์รัปชันไทยเข้าขั้นวิกฤติ เปิดตัวเลขรับเรื่องทุจริต ปี 62 มี 10,382 เรื่อง คิดเป็นเงินงบประมาณกว่า 238,209 ล้านบาท จัดซื้อจัดจ้างโกงสุดแตะ 2 แสนล้าน มาซ้ำด้วยคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (ซีพีไอ) ปี 2020 ที่ออกมาย้ำ ฝังรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ตกต่ำในการต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น ประชาชนตั้งคำถาม ที่อ้างว่ามาปราบคนอื่นโกง แต่เอาเข้าจริงตัวเองโกงมากกว่า โกงแบบแบบห้ามตรวจสอบ โกงจนธนาคารโลกประเมินจีดีพี เศรษฐกิจไทยถดถอยที่สุดในอาเซียน หรือไม่
“สาเหตุที่โควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ ปัญหาหลักมาจากการบริหารจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพ รับสินบน การทุจริตคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งการลักลอบเปิดบ่อนการพนัน ลักลอบเข้าประเทศของแรงงานผิดกฎหมาย จนองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ยังปรับตก รัฐบาลจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร” อนุสรณ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :