พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีเครือข่ายครูออกมาแสดงจุดยืนต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนในการแสดงออกทางการเมืองของเยาวชนในสถานศึกษาจะบานปลายหรือไม่ ว่า เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้บานปลาย ซึ่งความคิดมีสองทางเสมอไม่ว่าจะครูหรือนิสิตนักศึกษา จึงคิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องเข้าใจกันในการแสดงออกทางการเมืองที่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่ข้อสำคัญที่สุดคือต้องเคารพกฎหมาย ซึ่งมีกฎหมายลูกในรัฐธรรมนูญทุกมาตรา จึงขอให้ดูในส่วนนี้ด้วยไม่ใช่การละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่ให้มีการชุมนุมเลย แต่ชุมนุมได้อย่าทำผิดกฎหมายก็แล้วกัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 ต.ค. นี้ ว่าคาดหวังไม่อยากให้เกิดความรุนแรงขึ้น เพราะจะไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ ยิ่งช่วงที่ประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาโควิด-19 ด้วย และเรื่องในสภาเองมีการเดินหน้า ดำเนินการเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ ขอให้รับฟังกันด้วย
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงเหตุการณ์ นสพ.ภูวดล สุวรรณะ หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ วิจัย และสุขภาพสวนสัตว์สงขลา ก่อเหตุยิงสุริยา แสงพงค์ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์เสียชีวิต จากปม เก้งเผือกสายพันธุ์พระราชทานหายและตาย ซึ่งอาจมีขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่านั้น เชื่อยังมีขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าอยู่ จึงได้สั่งการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ติดตามเรื่องนี้เป็นพิเศษ และสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ต้องสูญเสียบุคลากรถึงสองคน คนหนึ่งก็ลงตรวจสอบยังไม่ได้ทำอะไร อีกคนคือ นสพ.ภูวดลที่ถูกย้ายอาจมีความไม่เข้าใจ ซึ่งตนได้สอบถามแล้วว่าไม่ได้ย้ายขาดแต่ย้ายเพื่อสอบสวน อาจเป็นเรื่องของอารมณ์ ซึ่งไม่เป็นผลดี และได้เน้นย้ำไปแล้วว่า เก้งสายพันธุ์พระราชทานที่หายไปจะต้องหาคำตอบให้ได้
พร้อมย้ำว่า ขอแสดงความเสียใจกับสองครอบครัวและกำชับหน่วยงานที่รับผิดชอบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร และต้องไม่เกิดเหตุซ้ำรอยเกิดขึ้นอีก ต้องรักษาเก้งเผือกสายพันธุ์พระราชทานที่เหลืออยู่ตัวเดียว จากนี้ไปขอให้เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนกับทุกองค์กรให้ดูแลเอาใจใส่ให้มากยิ่งขึ้น เพราะเหตุการณ์นี้มีการสูญเสียมากมาย โดยเฉพาะชีวิตและทรัพย์สินที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ