ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจภาคที่ 4 ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 กำลังจะอุบัติคิวชำแหละขึ้นในระหว่างวันที่ 19-22 ก.ค. 2565 ซึ่งนับว่าเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ‘ครั้งสุดท้าย’ ของรัฐบาลชุดนี้ หลังรอด ‘หวุดหวิด’ ด้วยบารมี ‘หลวงพ่อป้อม’ (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) มาหลายครั้งหลายครา และอภินิหารเสียงงูเห่าในสภาฯ
‘วอยซ์’ ชวนอ่านความเห็นของประชาชนคนทั่วไปที่มีต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่จะเกิดขึ้น ‘ความหวัง’ ภายใต้เกมการเมืองที่ปะทุคุโชนทั้งฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคฝ่ายค้าน แล้ว ‘ประชาชน’ จะอยู่ตรงไหนในสมการนี้
ยุทธการ ‘เด็ดหัว สอยนั่งร้าน’ คือหนึ่งในปฏิบัติการของพรรคฝ่ายค้าน นำโดย ‘พรรคเพื่อไทย’ ที่หวังจะเผยหลักฐาน และข้อมูลของรัฐบาลสืบทอดอำนาจที่ฉ้อฉล กัดกินประชาชน
ภายใต้กระแสความนิยมของรัฐบาลที่ดูจะแผ่วเบาลงไปทุกปี ผสมโรงกับขั้วตัวแปรอย่าง ‘ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า’ ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ที่ประกาศชัดว่าจะ ‘คานงัด-งัดข้อ’ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในศึกอภิปรายครั้งนี้ หลังสั่งคนในพรรคเศรษฐกิจไทยลาออก ‘วิปรัฐบาล’ แต่ก็ยัง ‘แทงกั๊ก’ หนุน ‘พล.อ.ประวิตร’
วิกฤต ‘พลังงาน’ - ‘ผีอีแพง’ ระบาดหนัก ชอกช้ำ ‘โควิด-19’
หนึ่งในทัศนะของผู้ประกอบการรถตู้สาธารณะรายหนึ่ง บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเปิดเผยว่า ในช่วงรอบปีที่ผ่านมาต้องประสบปัญหาความคล่องตัวของการเดินรถ ปัจจุบันต้องมีการเดินรถวันเว้นวันเพราะผู้โดยสารน้อย ส่วนรถตู้ของตนเองนั้นนำไปส่งคืนแล้ว เพราะติดมาสี่งวด ไม่มีเงินส่ง
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่รัฐบาลมักจะอ้างอิงราคาตามต่างประเทศ เมื่อเขาขึ้นเราก็ต้องขึ้นตาม อยากให้ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ดูแลเรื่องเชื้อเพลิงให้ดีกว่านี้ เพราะถ้าไม่มีการจัดการที่ดีกว่านี้ ประชาชนคงแย่ ธุรกิจรถตู้คงไปไม่รอด
ขณะที่ความเห็นของพ่อค้าขายกุ้ยช่าย บริเวณตลาดนัดอนุสาวรีย์ชัยฯ ในฐานะผู้ประกอบการค้าขายกล่าวว่า ไม่ใช่เพียงแค่น้ำมันรถที่แพง แต่น้ำมันที่ใช้ทำอาหารก็แพง เสียภาษีไปทุกวันนี้ไม่มีอะไรเลย ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รัฐมนตรีก็ซื้อกันแต่เรือดำน้ำ ถามหน่อยว่ามันป้องกันโควิด-19 ได้หรอ เอาเงินส่วนนั้นมาช่วยประชาชนดีกว่า
พ่อค้าคนเดียวกัน ยังกล่าวอีกว่า เศรษฐกิจตอนนี้มันแย่ไปหมด ค้าขายก็ไม่ดี วัคซีนที่รัฐบาลจัดหาให้ก็เอามาแต่ของถูกๆ อยากให้ซักฟอกรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข (อนุทิน ชาญวีรกูล) ด้วย แต่พล.อ.ประยุทธ์ ต้องหนักกว่า
“คุณอยู่แต่ข้างในฟังแต่ข่าวก็ไม่ทำอะไรเลย ต้องลงมาเดินดูด้วยตาของตัวเอง คุณต้องเข้ากับประชาชนให้ได้ ทำให้คนรักเรา ไม่ใช่ทำให้คนมาเกลียดเรา ต้องใส่ใจประชาชนบ้าง ไม่ใช่มัวแต่เอาเรื่องตัวเอง” พ่อค้าขายกุ้ยช่าย กล่าว
ด้านพนักงานออฟฟิศคนหนึ่ง ให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจแบบนี้ ข้าวยากหมากแพง น้ำมันขึ้น แม้แต่ค่ามอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ขึ้น ทุกวันนี้ใช้ชีวิตลำบากมาก อยากฝากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ควบคุมราคาสินค้า และพัฒนาเศรษฐกิจให้มันดีกว่านี้ ไม่ใช่แค่นิดหน่อย แต่ต้องพัฒนาให้มันมากๆ
ประชาชนสอนมวย ‘ประยุทธ์’ 8 ปีที่อยู่มา ศรัทธาไม่เหลือ
“อยู่มาก็นานแล้วนะ…ให้คนอื่นเขาทำดูไหม เผื่อมีอะไรดีขึ้น ออกเถอะค่ะลุง” คำอ้อนวอนของหญิงวัยรุ่นที่ประกอบอาชีพขายเสื้อผ้ากล่าว
เธอกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่มาไม่มีอะไรดีขึ้น การค้าขายมันแย่ลง ขายของยากมากๆ เพราะคนไม่ค่อยใช้เงิน ประกอบกับเงินเฟ้อด้วย ค่าเงินบาทแข็ง โลกมีสงคราม หรือจะเป็นเรื่องโควิด-19 ที่กระทบตั้งแต่ปี 2562 แต่ไม่เข้าใจว่าจะเอาเงินไปซื้ออาวุธทำไม แทนที่จะเอาเงินตรงนั้นมาเยียวยาประชาชนก่อน ครอบครัวละกี่บาทก็ว่าไป
ด้านพนักงานสาวทำงานออฟฟิศรายหนึ่งก็ให้ความเห็นว่า ตอนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาในตำแหน่งนี้ก็ค่อนข้างคาดหวังให้มันมีสิ่งที่ดีขึ้น แต่ด้วยระยะเวลามันทำให้เราเห็นอะไรค่อนข้างชัด เวลาเป็นตัวตอบทั้งหมด บางสิ่งที่เขาทำประชาชนตรวจสอบไม่ได้ด้วยซ้ำว่าถูกหรือผิด
“มันมีหลายสิ่งที่อยู่ข้างใน ไม่รู้จะบรรยายความเป็นเขาได้อย่างไร ด้านที่ดีก็ไม่มี มันไม่สามารถบรรยายได้”
หวัง ‘ฝ่ายค้าน’ จัดหนักศึกซักฟอกให้อยู่หมัด ไล่บี้นายกฯ
“ยากมากเลยนะ มันเป็นเรื่องที่ไม่รู้จะมีอะไรอยู่ในนั้น แต่ก็ยังมีความหวัง แม้ลึกๆ ในใจจะรู้อยู่แล้วว่ามันรอดแน่นอน” เสียงกล่าวตัดพ้อของพนักงานสาวที่ทำงานออฟฟิศ
ทางด้านผู้ประกอบการรถตู้สาธารณะกล่าวว่า ขอให้ฝ่ายค้านจับมือเป็นหนึ่ง อยู่ที่พวกเราคนรุ่นใหม่ๆ ที่ทำให้ประเทศไทยพัฒนาไปได้ไกล มองให้ไกล มองให้ลึก มองให้กว้าง ไม่ใช่เอาแต่พรรคพวกเพื่อนฝูง อยากให้การซักฟอกครั้งนี้มีเนื้อหาที่มองภาพออกได้ ไม่ใช่เอาของซ้ำๆ มาพูด เอาอะไรที่มันใหม่ๆ ออกมาให้ประชาชนเห็นบ้าง
"ต้องเข้าใจว่า ถึงแม้คะแนนเสียงของประชาชนจะไม่ผ่าน แต่ในสภาฯ มันมีอีก 250 เสียง จะทำอย่างไรก็ไม่หลุดสักที เพราะเขาเอาคนเหล่านั้น (ส.ว.) มาเป็นตัวค้ำบัลลังก์ มันยากที่จะบอกว่าเขาจะอยู่หรือไป"
ด้านแม่ค้าขายเสื้อผ้าให้ความเห็นในประเด็นนี้ว่า การซักฟอกในครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะสำเร็จกี่เปอร์เซ็นต์ แต่มันก็มีความหวังอยู่แล้ว อยากให้ประชาชนรอด แต่พวกมันออกไป ส่วนพวกงูเห่า เขาอาจจะแปรพักตร์ เพื่อความอยู่รอด แม้ไม่รู้ว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร แต่เมื่อเขาโดนด่ายันวงศ์ตระกูลก็สมควรแล้ว
เสียงปลุกเร้า ‘ผู้กองธรรมนัส’ เลิกแทงกั๊ก แล้วเลือกข้างประชาชน !
หน่ึงในผู้ให้สัมภาษณ์กล่าวถึง ร.อ.ธรรมนัส ว่า การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขตเลือกตั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2565 เป็นตัววัดผลที่ทำให้เขารู้แล้วว่า คนไทยส่วนใหญ่ไม่เอาแล้ว เขาถึงไม่ชนะ ทุกอย่างมันเบนไปหมดเลย ทั้งที่เขาเอาคนเก่าไปลง สุดท้ายก็ไม่ได้
ขณะที่เสียงส่วนใหญ่เห็นพ้องตรงกันในแง่ที่ว่า อยากให้ ร.อ.ธรรมนัส เลือกข้างประชาชน แม้จะออกมาจากพรรคร่วมรัฐบาลแล้วก็ตาม หากอยู่ในจุดนี้แล้วขอให้เลือกประชาชนเป็นหลัก อย่าคิดแต่พรรคพวกตัวเอง เพราะในอนาคตเพราะประชาชนจะเป็นตัวกำหนดเส้นทางของประเทศได้เอง
“มันอยู่ที่จิตสำนึกของคนด้วย ถ้าอยากให้อะไรดีขึ้นก็คิดดีๆ มองหลายๆ มุมมอง รู้ว่าอะไรดีก็ควรทำเพื่อประชาชน” หนึ่งในผู้ให้สัมภาษณ์ เผย
‘เยาวชน’ มองศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ขณะที่ หนึ่งในเยาวชนรายหนึ่งที่ร่วมให้สัมภาษณ์กับ 'วอยซ์' เผยว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ถ้าถามว่าประชาชนมีความหวังไหม ต้องบอกเลยว่า พวกคนใหญ่คนโตในพรรคเขาต้องมีที่ทางให้ตัวเองรอด และสนับสนุนพรรคฝ่ายค้านที่ทำให้ประเทศไทยดีขึ้น เพื่อที่ประชาชนจะเป็นอิสระมากกว่านี้ ไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่อยู่ใต้มือของผู้มีอำนาจ
เยาวชนคนดังกล่าว เผยอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เหมาะกับตำแหน่งนายกฯ ทำให้ประชาชนหรือเด็กใช้ชีวิตอยากไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการออกความเห็น หรือส่งเสียง อยากให้เขาตาสว่างสักนิด เพราะตอนนี้ทุกอย่างมันยาก แค่คำว่าประเทศไทย ประชาชนก็ดูไร้ค่า
“ในส่วนของสภาฯ นั้น ดูจากหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา มันไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์อะไรขนาดนั้น มันบอกไม่ถูก มันดูยาก เรายืมมือเขาไม่ได้ หรือพูดง่ายๆ ประชาชนพึ่งอะไรจากสภาฯ ไม่ค่อยจะได้”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง