วันที่ 15 ก.ย. 2565 ที่อาคารรัฐสภา สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ออกจากระเบียบวาระการประชุมเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า ไม่ใช่เรื่องการเมือง หรือการขัดแข้งขัดขากันแต่อย่างใด และการถอนร่างฯ ไม่ได้ทำให้กระบวนการพิจารณากฏหมายฉบับดังกล่าวจบไป
สาทิตย์ ย้ำว่า กฎหมายฉบับนี้ยังไม่จบ ยังอยู่ในสภาฯ และให้คณะกรรมาธิการปรับปรุงแก้ไขให้มีความรอบคอบ รัดกุม ป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าถึงกัญชาได้โดยง่าย เช่น การแก้ไขมาตรา 18 ที่ว่าด้วยการปลูกกัญชาได้ไม่เกิน 15 ต้นต่อครัวเรือน หากได้มีการแก้ไขแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมจะสนับสนุนกฎหมายฉบับนี้
สาทิตย์ ยังกล่าวว่า การถอนร่างฯ ก็ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง เพราะว่าก่อนพรรคประชาธิปัตย์จะมีมติขอให้ถอนร่างฯ นี้ออกไปนั้น ไม่ได้มีการประสานกับพรรคการเมืองใดเลย เพียงแถลงข่าวตอนเช้า และเสนอญัตติในที่ประชุมสภา โดยไม่ทราบเลยว่าจะมี ส.ส.หรือพรรคการเมืองใดสนับสนุนญัตติบ้าง
"198 เสียง ที่เห็นว่าควรถอนมีทั้ง เพื่อไทย พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ประชาชาติ เสรีรวมไทย ส่วนเสียงที่บอกว่าควรพิจารณาต่อ มีทั้ง ก้าวไกล ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ดังนั้น สมการของ ส.ส. มีทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลผสมอยู่ทั้ง 2 ข้าง จึงไม่ใช่ประเด็นการเมือง" สาทิตย์ ระบุ
ส่วนการถอนร่างถือเป็นการเอาคืนกฎหมาย กยศ. หรือไม่ สาทิตย์ ชี้แจงว่า กฎหมาย กยศ. เป็นร่างของคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยปกติ พรรคร่วมรัฐบาลทุกท่านต้องเห็นด้วยตรงกัน และเข้าใจว่าได้มีการพูดคุยกันก่อนแล้ว แต่พรรคภูมิใจไทยเข้าใจว่ามีความคิดเป็นของตัวเอง และเสนอในสภาฯ ซึ่งสภาฯ เห็นด้วย พรรคประชาธิปัตย์ก็เคารพความเห็นของท่าน แต่ของร่าง พ.ร.บ.กัญชา เป็นของพรรคภูมิใจไทยและพรรคพลังประชารัฐ ดังนั้น การที่ใครคนใดคนหนึ่งจะมีความเห็นต่างออกไป ก็เป็นเรื่องปกติ จึงขอให้ตัดประเด็นการเมืองออกไป
"โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าดูระยะเวลา จะถอนหรือไม่ถอนร่างฯ ก็ใช้เวลาใกล้เคียงกัน ถ้าเมื่อวานพิจารณาได้ 2 มาตรา ก็จะค้างอยู่อีก 93 มาตรา ต้องมาพิจารณาอีกครั้งในสมัยประชุมหน้า แต่ในช่วงปิดสมัยนี้ยังสามารถไปปรับแก้ได้ หากต้องรอคิว วิปก็สามารถขอเสียงในสภาเพื่อขอให้เลื่อนระเบียบวาระได้อยู่แล้ว" สาทิตย์ กล่าว
สาทิตย์ ทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นการเมืองของพรรคในรัฐบาลกันเอง แต่เกี่ยวเนื่องกับอนาคตของเยาวชนและการปกป้องลูกหลานของเราให้อยู่ดีทางที่เหมาะสมแก่สิ่งที่อาจจะเป็นอันตรายต่อเขาได้ ทั้งนี้ ไม่ส่งผลต่อการทำงานร่วมกันต่อของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล