จากความชื่นชอบของกลุ่มแฟนนางงาม นำมาสู่การเปิดเพจ บอร์ด หรือกลุ่มเฟซบุ๊กพูดคุยเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง หลายคนกลายเป็นกูรูหรือบางครั้งกลายเป็นบุคคลสำคัญในการปั้นนางงามส่งออกเวทีโลก แต่ขณะเดียวกันการวิพากษ์วิจารณ์ตัวนางงามของเหล่าแฟนคลับก็เคยเกิดเป็นประเด็นดราม่า หรือเป็นแรงผลักดันสำคัญของตัวนางงามก็ได้ แล้วในทางกลับกัน แฟนนางงามล่ะ? คิดอย่างไรกับแฟนคลับนางงามและการวิพากษ์วิจารณ์ของพวกเขา?
'วอยซ์ออนไลน์' พูดคุยกับเหล่าสาวงามเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ เจ้าของมงกุฎมากประสบการณ์ ที่สามารถคว้ารางวัลรองอันดับ 1 มิสเวิลด์ปี 2018 ที่ผ่านมาได้ ‘นิโคลีน - พิชาภา ลิมศนุกาญจน์’ เปิดเผยมุมมองเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
“ส่วนตัวนิโคลคิดว่า แฟนนนางงามที่มีความคิดเห็นที่ดี แล้วเราสามารถนำมาปรับปรุงได้ ก็เป็นเรื่องที่ดี คนกลุ่มนี้เป็นผู้สนับสนุนและรักเรา
ขณะเดียวกันในโลกออนไลน์ก็จะเห็นการโจมตีจากคนกลุ่มนี้เช่นกัน หากเรามองในแง่ดี ก็คือเขาพยายามช่วยเราอยู่ เขาเห็นข้อบกพร่องของเรา แม้อาจจะใช้วิธีที่ผิด เราสามารถนำมาใช้หรือปรับปรุงได้ แต่ไม่ใช่นำมาทำร้ายจิตใจของเรา สมัยนี้เป็นสังคมเปิดกว้าง นิโคลคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ตัวนางงามจะโดนตัดสิน หรือโจมตี สิ่งสำคัญที่ทำให้เราไม่เครียดและไม่เหนื่อย ก็คือต้องมองโลกให้เป็นแง่บวก ถ้าเรามัวแต่คิดว่าทุกคนต่อต้านเรา เราจะไม่สามารถเชื่อใจใครได้ในโลกนี้ นิโคลคิดว่าการที่เราเปิดใจยอมรับ และเชื่อใจคน มันจะทำให้เราเป็นคนที่จริงใจ”
ด้าน แพรวนิต เรืองทอง รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 เผยประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า ส่วนตัวในช่วงก้าวแรกที่เข้ามาประกวดในเส้นทางนางงาม ก็เคยโดนตัดสินเหมือนกัน ตอนที่โดนก็รู้สึกแย่ในตอนแรก เพราะแพรวเชื่อว่าไม่มีใครชอบถูกตัดสินทั้งๆ ที่ยังไม่รู้จักกันเลย แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปแพรวก็นำสิ่งที่พวกเขาพูดมาคิดและทบทวน ว่าเป็นความจริงหรือไม่ และเราสามารถปรับปรุงได้อย่างไร
“ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะตัดสินคนอื่นอยู่แล้ว แต่คุณต้องตัดสินคนในพื้นฐานของความเป็นจริง ไม่ใช่เอาตามความต้องการ เช่นในใจคุณอยากได้นางงามที่มีบุคลิกรูปร่างแบบนี้ สมองแบบนี้ การศึกษาแบบนี้ แต่พอคุณเห็นผู้หญิงคนนี้ คุณก็ตัดสินไปเลย โดยไม่รอให้เขาแสดงศักยภาพของเขาออกมา
หรือหากคิดจะตัดสินจริงๆ ก็ควรจะให้เป็นคำแนะนำมากกว่า อันนี้แพรวคิดว่าคนที่ถูกตัดสินสามารถยอมรับได้ในจุดนั้น ขณะเดียวกันพี่ๆ กลุ่มแฟนนางงามก็สามารถวิเคราะห์นางงามแต่ละคนได้อย่างถูกจุด หรือข้อเสนอแนะต่างๆ สามารถนำไปใช้ได้จริง ที่สำคัญพวกเขาจริงใจมาก"
ขณะที่นางงามรุ่นพี่ เฟร้นฟราย-ธันยชนก มูลนิลตา มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2015 แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์ของแฟนนางงามว่า
“ส่วนตัวมองว่าคำแนะนำจากแฟนนางงามมีคุณค่ามาก เพราะว่าเพศชายก็มีหน้าที่ของผู้ชาย ซึ่งบางอย่างเราไม่สามารถทำได้เหมือนเขา ขณะเดียวกันผู้ชายก็ไม่สามารถทำอะไรเหมือนผู้หญิงได้เหมือนกัน ดังนั้นการที่นำคำตัดสินของคนอื่นเกี่ยวกับตัวเรามาคิด มันก็เหมือนกับว่า เราเองไม่เข้มแข็งพอ และเราก็ไม่เข้าใจว่า เป้าหมายจริงๆ ในการประกวดของเราคืออะไร
อย่างเฟร้นฟราย เป้าหมายในการมาประกวด คือต้องการมีประสบการณ์ด้านการประกวดนางงาม ซึ่งไม่เคยประกวดเวทีไหนมาก่อนเลย ซึ่งในช่วงนั้นก็มีคนที่ต้องการมาดูแลเยอะ ขณะเดียวกันก็บอกว่าไม่อยากเสียอัตลักษณ์ของตัวเองไป จึงตัดสินใจว่าในเมื่อความตั้งใจแรกมาคือมาด้วยตัวเอง ก็จะทำเองทุกอย่างด้วยตัวเองเช่นกัน แต่ก็จะมีคนที่หวังดี ซึ่งเรามองว่าเขาหวังดีจริงๆ คอยให้คำแนะนำ เพราะเขาอาจจะมีประสบการณ์มากกว่าเรา ก็รับฟัง และนำมาดูว่าสามารถปรับใช้ได้หรือเปล่า ซึ่งเรามองว่ามันเป็นเรื่องราวที่ดี
จริงๆ แล้วการโดนเปรียบเทียบระหว่างนางงามคนอื่นเป็นเรื่องธรรมดา แต่แค่ตัวเองต้องมีสติพอ และทบทวนว่าเราเป็นอย่างที่เขาพูดหรือเปล่า เราเข้าใจตัวเองมากน้อยแค่ไหน หากเราเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ทำมันดีแล้ว ผลลัพธ์ออกมาอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล สิ่งจำเป็นคือเราต้องมีจุดยืน ไม่อ่อนเอนไปตามกระแสหรือคำพูด คำตัดสินของใคร
แฟนนางงาม โดยเฉพาะ กลุ่ม LGBT หลายคนมาเป็นหนึ่งในทีมงานที่ร่วมสร้างนางงาม หรือพี่เลี้ยงนางงาม เฟร้นฟรายมองว่าเป็นข้อดีมากกว่า เพราะพี่ๆ กลุ่มนี้มีมุมมองที่ละเอียดมากกว่า มันดีแค่ไหนที่คนๆ หนึ่งมีเพศเดียว แต่มีมุมมองทั้งผู้หญิงและผู้ชาย สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนางงาม คืออย่านำสิ่งที่คนอื่นตัดสินเก็บมาคิด เพราะการที่คุณมาประกวด คุณมีพื้นที่ในการแสดงความคิดเห็น ทัศนคติ ที่แสดงออกว่ามีดีมากกว่าภายนอก อยู่ที่ว่าเราจะใช้โอกาส พื้นที่นี้แสดงความเป็นตัวตนของคุณออกมาอย่างไร”
อย่างไรก็ตาม 19 มิ.ย. เวทีการประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์จัดการแถลงข่าว กับความพร้อมของประเทศไทยที่พร้อมฟาด 'มงแรก' ใน เวที 'มิสเวิลด์' ร่วมเฟ้นหาสาวเก่ง มุ่นมั่น เด่นจิตอาสา
สำหรับการประกวด 'มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019' ปีนี้ ภายใต้แนวคิด 'The Quest for The Crown ภารกิจพิชิตมงฟ้า' เพื่อเฟ้นหาสาวงามอายุตั้งแต่ 16 ปี 6 เดือน ถึง 26 ปี ที่มีปฏิภาณไหวพริบ ความสามารถ ทัศนคติที่ดี มีจิตอาสา ตั้งใจทำงานเพื่อสังคม รวมถึงมีความมุ่งมั่นเป็นตัวแทนสาวไทยเข้าประกวดเวทีระดับโลก 'มิสเวิลด์ 2019'
สำหรับปีนี้ นิโคลีน-พิชาภา ลิมศนุกาญจ์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 ที่จะรับหน้าที่ โค้ช ทำงานร่วมกับทีมอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน คัดเลือก ให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำแก่ผู้เข้าประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ตั้งแต่ต้นจนถึงรอบตัดสิน
ซึ่งปีนี้กองประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ ได้มีการปรับรูปแบบการสมัคร ดังนี้
- ผู้สมัครต้องลงทะเบียนสมัครทาง www.missthailandworld.net โดยกรอกรายละเอียดตามขั้นตอน
- นำเอกสารพร้อมหลักฐานการสมัคร มายื่นด้วยตัวเองในวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น. ณ ห้องเชลซี มีตติ้งรูม ชั้น 5 โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ ซึ่งปีนี้จะเปิดรับสมัครเพียง 1 วันเท่านั้น!!!
- หลังจากตรวจสอบเอกสารการสมัครเรียบร้อยแล้ว ผู้สมัครจะต้องเข้าห้องสัมภาษณ์จากคณะกรรมการ ในวันเดียวกัน เพื่อคัดเลือกผู้ผ่านเข้ารอบ 60 คน
จากนั้นจะเป็นการคัดเลือกรอบที่ 2 ให้เหลือผู้เข้ารอบ 48 คน ก่อนจะเข้าไปขับเคี่ยวกันต่อ ในรอบที่ 3 โดยจะมีการนำรูปแบบการแข่งขัน Head to Head Challenge จากเวทีแม่ 'มิสเวิลด์' มาปรับใช้เพื่อให้ผู้เข้าประกวดได้โชว์ศักยภาพการพูดในที่สาธารณะ จากนั้นคณะกรรมการจะคัดเลือกผู้ผ่านเข้ารอบ 24 คน เพื่อแถลงข่าวเปิดตัว 24 คน สุดท้ายมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019
หลังจากนั้น ผู้เข้าประกวด 24 คนสุดท้ายมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 จะได้เข้าสู่กระบวนการทำกิจกรรมที่สามารถเพิ่มโอกาสการต่อยอดไปสู่มงแรกและกิจกรรมอันเกิดประโยชน์ต่อสังคม อาทิ การพัฒนาบุคลิกภาพ การเรียนแต่งหน้า การแข่งขันเก็บคะแนนรางวัลฟาสแทร็กส์ 5 รางวัล การเก็บตัวต่างจังหวัด ที่ปีนี้จะเข้าพักที่ เคนซิงตัน เขาใหญ่ และปีนี้กองประกวดฯ ผุดโครงการ 'รักษ์ป่า รักน้อง มอบโอกาสให้น้อง' โดยจะเดินทางไปยังชุมชนเขายายเที่ยง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เพื่อปลูกป่าลอยฟ้า บนพื้นที่ป่าอนุรักษ์เขายายเที่ยง และทำกิจกรรมเลี้ยงอาหารน้องๆ กลุ่ม ด.เด็กเฮ็ดดี รวมถึงผู้สูงอายุที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร โดยผู้สนใจสามารถบริจาคอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา เสื้อผ้า รองเท้า เพื่อนำไปสู่น้องๆ ทั้งนี้บริจาคหรือส่งมาได้ที่ ชั้น 26 แผนกประชาสัมพันธ์ อาคารมาลีนนท์ทาวเวอร์ ถ.พระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพ 10110
รางวัลฟาสต์แทร็กในปีนี้ มี 5 รางวัล ที่จะส่งให้ผู้เข้าประกวดเข้ารอบ 12 คนสุดท้ายแบบอัตโนมัติ ประกอบด้วย
1. รางวัลนางงามจิตอาสา
2. รางวัลความสามารถพิเศษ
3. รางวัลความสามารถด้านทักษะนางแบบ
4. รางวัลความสามารถด้านทักษะกีฬา
5. รางวัลมิสพีเพิลส์ ชอยซ์
สำหรับผู้คว้ามงกุฏ “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019” จะได้รางวัลดังนี้ เงินรางวัล 1,000,000 บาท, มงกุฎเพชรประดับ Pink Sapphire จาก สยามเจมส์ เฮอริเทจ มูลค่า 1,500,000 บาท ,รถยนต์ Hyundai รุ่น IONIQ Electric มูลค่า 1,749,000 บาท ซึ่งรอบตัดสินจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2562 ณ พาลาเดียม ฮอลล์ โรงแรม เดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ
สามารถติดตามรายละเอียด ข่าวสาร ความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้ที่ www.missthailandworld.net,
www.facebook.com/MissthailandworldBectero , www.facebook.com/MissWorldThailand ,
IG : MISSTHAILANDWORLD_OFFICIAL หรือโทร 064 – 418 5822