ไม่พบผลการค้นหา
3 รัฐมนตรี 'ทวี-จิราพร-จุลพันธ์' จับมือลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี แถลงผลจับกุมลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า ล็อตใหญ่กว่า 2 แสนชิ้น (ของต้องห้ามตามประกาศกระทรวงพาณิชย์)

วันนี้ (10 มีนาคม 2568) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร และนายฐิตินันท์ สิงหา รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมลงพื้นที่ ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ร่วมแถลงข่าว “กรมศุลกากรขานรับนโยบายปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า” โดยการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง กองสืบสวนและปราบปรามกรมสอบสวนคดีพิเศษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบตู้สินค้าผ่านแดน จำนวน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ ณ ท่าเรือ LCMT โดยมีการขนส่งต้นทางจากประเทศจีนไปยังประเทศเมียนมา มีการนำเข้าสินค้าผ่านท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อไปทำการตรวจปล่อยลงที่ด่านศุลกากรแม่สอด สำนักงานศุลกากรภาคที่ 3 

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 23,400 ชิ้น น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 6,000 ชิ้น หัวพอดบุหรี่ไฟฟ้าที่ภายในบรรจุน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 172,000 ชิ้น รวมจำนวนทั้งสิ้น 210,300 ชิ้น คิดเป็น มูลค่ากว่า 33 ล้านบาท ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 และยังถือเป็นของต้องห้ามตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง สินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. 2559 เจ้าหน้าที่จึงทำการยึดของกลางทั้งหมดไว้เบื้องต้น 

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะตัวหัวเชื้อ ระยะหลังพบว่ามีการนำไปใช้ประกอบเป็นสารร่วมกับยาเสพติด โดยจะมีการใช้กฎหมายในการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นหลัก ซึ่งมีอัตราโทษค่อนข้างสูง เบื้องต้นบุหรี่ไฟฟ้าไม่อนุญาตให้มีการผลิตในประเทศไทย แต่มีผลิตในต่างประเทศ จึงเป็นเรื่องที่กรมศุลกากรจะมีการนำมาตรการเข้ามาป้องกันเพื่อไม่ให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกลักลอบเข้ามาและมาแพร่ระบาดใช้ภายในประเทศ พร้อมย้ำว่าจะไม่มีการระงับคดี แต่จะดำเนินการจนถึงที่สุดกับผู้ค้าทุกราย

นางสาวจิราพร เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้แก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่หรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะในเด็กและเยาวชนอย่างจริงจัง โดยให้มีการบูรณาการทุกภาคส่วน ซึ่งเน้นการปราบปราม 2 ส่วน คือ

1) การ Seal ชายแดน ป้องกันการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยทุกเคสที่จับได้จากด่านศุลกากรจะไม่มีการระงับคดี โดยจะส่งต่อไปยังตำรวจสอบสวนกลางเพื่อดำเนินคดีและจะส่งไปยัง ปปง. เพื่อขยายผลจับกุมต่อไป

2) การปูพรมกวาดล้าง โดยความร่วมมือของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากร สคบ. และกระทรวงมหาดไทย ซึ่งข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ - 9 มีนาคม 2568 สามารถจับกุมได้ 906 คดี ของกลางจำนวน 734,037 ชิ้น คิดเป็นมูลค่า 85,808,255 บาท

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า กรมศุลกากรได้เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังการลักลอบการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าทุกช่องทาง เพื่อตอบสนองนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ได้สั่งการให้ปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ซึ่งกรมศุลกากรได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการทำงานอย่างต่อเนื่องจนนำมาสู่การจับกุมสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าล็อตใหญ่ที่มีการลักลอบนำเข้ามาในประเทศเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 ซึ่งของกลางที่ตรวจยึดได้ดังกล่าว กรมศุลกากรจะได้ประเมินราคาเพื่อแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อดำเนินคดีต่อไป