อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการร่วมรับประทานอาหารกับพรรคเล็ก ว่าให้อยู่ช่วยรัฐบาลทำงานไปถึงช่วงการประชุมเอเปค ช่วงเดือน พ.ย. แล้วจะยุบสภาฯ มีการเลือกตั้ง ว่า ตนเคยพูดแล้วว่าการยุบสภาเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตรไม่เคยพูดในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเช่นเดียวกัน ซึ่งตนไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจในการยุบสภา มองไปก็เท่านั้น จะมองให้เสียเวลาทำไม ในเมื่อทำเองไม่ได้
อย่างไรก็ตามพรรคภูมิใจไทยเตรียมการเลือกตั้งอยู่ทุกวันตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.62 ซึ่งต้องมีการเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา
อนุทิน ระบุว่า ขณะนี้ไม่เพียงสร้างเสถียรภาพรัฐบาลเพียงเท่านั้น ต้องสร้างเสถียรภาพให้ประเทศไทยในช่วงที่มีสงครามด้วย ซึ่งเราทุกคนต้องช่วยกัน อย่างเช่น การพึ่งพาตนเอง ซื้อของในประเทศ การสร้างอุปสงค์ในประเทศ จะได้ไม่ต้องกังวลสถานการณ์ภายนอกประเทศเพราะประเทศไทยมีของดีหลายอย่าง และที่ผ่านมาใช้ความเป็นชาตินิยมในการข้ามผ่านวิกฤติต่างๆ ประเทศมหาอำนาจต่างๆก็ผ่านความลำบากจากภัยสงครามมาแล้วทั้งนั้น โดยใช้วิธีการพึ่งพาตนเอง
อนุทิน ยังระบุว่า ได้รับคำเชิญจากนายกรัฐมนตรีในการร่วมรับประทานอาหารเย็นในวันที่ 17 มี.ค.นี้ ซึ่งตนก็ต้องไปพร้อมกับแกนนำพรรคภูมิใจไทย ถือเป็นความร่วมมือกันไม่ให้เกิดความขัดแย้ง
อนุทิน กล่าวว่า การร่วมรับประทานอาหารครั้งนี้ไม่ได้มีความคาดหวังอะไร ไม่ใช่การสังสรรค์ แต่เป็นการที่พรรคร่วมรัฐบาลไปหารือวิธีการในสิ่งที่เป็นปัญหาของบ้านเมืองให้ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ซึ่งประชาชนไม่ควรมากังวลกับปัญหาพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลยังสามารถบริหารประเทศได้เป็นอย่างแน่นอน เรื่องในสภาไม่เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน หากทุกกระทรวงดำเนินการบริหารราชการแผ่นดินด้วยความสำนึกในหน้าที่ มีความสุจริต ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องสภา
อนุทิน ระบุอีกว่า ตนไม่ได้มองว่าพรรคเศรษฐกิจไทยเป็นปัญหา และไม่เคยสร้างปัญหาอะไรให้กับรัฐบาล และพรรคนี้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล
ส่วนแนวคิดของพรรคเศรษฐกิจไทยจะสวนทางกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น อนุทิน ระบุว่า ขอให้รอวันอภิปรายก่อน ตนไม่รู้ว่ารัฐบาลจะถูกอภิปรายในประเด็นใดบ้าง แต่ทุกวันนี้ก็ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และเป็นไปตามกระบวนการตรวจสอบการทำหน้าที่
ทั้งนี้ หากในวันที่ 17 มี.ค.นี้ ไม่มีพรรคเศรษฐกิจไทยจะสะท้อนปัญหาหรือไม่ก็ขอให้ถามทางเจ้าภาพ แต่ตนจะเป็นเจ้าภาพในเดือนหน้าและจะเชิญทุกพรรคเข้าร่วม ซึ่งการนัดพบปะกันเดือนละครั้งก็ไม่มากเกินไป
ส่วน 30 เสียงของพรรคเศรษฐกิจไทยจะเป็นสาเหตุของการยุบสภาหรือไม่นั้น ขอให้ไปถามทางนายกรัฐมนตรี และการนัดร่วมรับประทานอาหารไม่มีการเสี้ยมอะไรกันอยู่แล้ว