วันที่ 25 มี.ค. สมศักดิ์ เทพสุทิน​ รองนายก​รัฐมนตรี​ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี​ จะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย ในวันพรุ่งนี้ (26 มี.ค.67) ซึ่งอาจจะถูกข้อครหาในการครอบงำพรรค ซึ่งมีโทษถึงยุบพรรค​ ว่า​ จะครอบงำได้อย่างไร เพราะ หลังจากนายทักษิณออกมาจากโรงพยาบาลก็เหมือนกับเป็นบุคคลธรรมดา ไม่ต้องถูกควบคุมตัวแล้ว และไม่ได้ผิดเงื่อนไข ของกรมคุมประพฤติ สามารถทำได้ทุกอย่าง ทำให้คำปรึกษาให้คำแนะนำ หรือพูดคุยต่างๆ สามารถทำได้ทั้งหมด เมื่อทำได้ก็ไม่ได้ผิดเงื่อนไขอะไร เพราะไม่ได้มีการเขียนข้อห้ามของคนที่อยู่ระหว่างการคุมประพฤติ ระหว่างการพักโทษ ซึ่งนายทักษิณก็ทำตามกติกา

ส่วนการเดินทางไปที่พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคการเมือง ซึ่งแยกออกจากกันลำบาก ถึงความเชื่อมโยงกัน สมศักดิ์​ กล่าวว่า ก็ไม่ได้มีข้อห้ามอะไร ถ้าเป็นบุคคลที่หนีคดีความ หรือมีคำพิพากษาของศาลแล้ว ให้ต้องโทษอะไรต่างๆ ถ้าเราเป็นรัฐมนตรี ไปพูดคุยกับบุคคลดังกล่าวนี้ก็อาจจะมีเรื่องของวินัยมาเกี่ยวข้อง แต่กรณีนี้ไม่ใช่ มันเลยพ้นระยะเวลานั้นแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น และพรรคไม่ได้มีการเป็นห่วงอะไรในประเด็นนี้ ไม่ได้มีข้อห้ามไม่ได้มีกฎหมาย

เมื่อถามว่าหากมีคนไปร้องมั่นใจว่าสามารถชี้แจงได้ใช่หรือไม่ สมศักดิ์​ กล่าวว่า ไม่มีใครไปร้องหรอก เพราะมันไม่มีความผิด​ ถ้าเป็นผู้ต้องขังที่หนี แล้วมีรัฐมนตรีไปพูดคุย ก็อาจจะถูกร้องเรื่องวินัย แต่กรณีนี้ไม่มีความผิด

เมื่อถามว่าการที่ ทักษิณออกมาเคลื่อนไหวขณะนี้ถือว่าอาการป่วยหายแล้ว 100% ใช่หรือไม่ สมศักดิ์​ ระบุว่า คนอายุ 70 กว่าจะไปแข็งแรงได้อย่างไร มีผมคนเดียวที่แข็งแรง​ เตะบอลได้

เมื่อถามถึงกรณีที่ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือเจี๊ยบ อดีต สส.พรรคก้าวไกล​ ออกมาระบุว่า ทักษิณ น่าจะเกรงใจหมอที่ให้การรับรองว่าป่วย ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการพักโทษ สมศักดิ์​ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เขาก็อาจจะอิจฉา ซึ่งคนที่เป็นรัฐมนตรีอาจจะไปขอคำปรึกษาได้

เมื่อถามว่าแม้จะไม่มีกฎหมายห้าม แต่คนอาจจะมองถึงเรื่องของความเหมาะสม สมศักดิ์กล่าวว่าก็ไม่เป็นไร ถามมาก็ตอบไป แต่ส่วนตัวเห็นว่าเหมาะสม อย่างตนก็จะไปขอคำปรึกษาเกี่ยวกับงานที่รับผิดชอบ​ 

ส่วนการเคลื่อนไหวของ ทักษิณ บอกว่าเป็นการดึงกระแสความนิยมของรัฐบาลให้ลดลง สมศักดิ์​ กล่าวว่า ไม่หรอก ตรงกันข้ามกระแสความนิยมของรัฐบาลดีขึ้น เวลาตนไปไหน ตนก็จะบอกเสมอว่า คนที่ก่อตั้งหน่วยงานต่างๆที่ตนกำกับดูแลอยู่มาแล้ว ดังนั้นจึงมั่นใจว่า การทำอะไรของตนจะไม่ผิดเงื่อนไข ทุกคนรู้ดีว่านายทักษิณทำประโยชน์ให้บ้านเมือง และได้รับความนิยมมายาวนาน และมากกว่านักการเมืองคนอื่นๆ และปัจจุบันพรรคการเมืองต่างๆ เท่าที่เห็นก็เล็กลงเล็กลงกันหมด เริ่มต้นก็ใหญ่ และจะเล็กลงตามระยะเวลา ดังนั้นการบริหารการเมือง หรือการทำอะไรที่ตรงกับความต้องการของประชาชน ตนมั่นใจว่า ทักษิณทำได้ดี และมั่นใจว่าจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กับรัฐมนตรีทุกคน และตนเห็นว่า เศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ยินดีที่จะไปปรึกษาทักษิณ เพราะเห็นว่าได้ประโยชน์

เมื่อถามถึงกรณีที่นิด้าโพลเผยผลสำรวจความนิยมล่าสุดว่า พรรคเพื่อไทยมีคะแนนความนิยมตกลง สมศักดิ์​ กล่าวว่า คอยดูต่อไปเถอะ เวลาเลือกตั้งจะวิ่งกันเข้ามาช่วยพรรคเพื่อไทยเต็มไปหมด

เมื่อถามต่อว่าที่บอกว่าให้รอดูจะมีคนวิ่งเข้าพรรคเพื่อไทยหมายความว่าอย่างไร​ สมศักดิ์กล่าวว่า ก็ตอนเลือกตั้งไง สส.จะวิ่งแย่งกันมาสมัครพรรคเพื่อไทย​อีก​

เมื่อถามว่าไม่ได้เกี่ยวโยงกับกรณีที่มีข่าวว่าจะมีการยุบพรรคก้าวไกล อาจทำให้มีสมาชิกก้าวก่ายแพรแตก วิ่งเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย สมศักดิ์​ ระบุว่า ไม่เกี่ยวผมยังไม่รู้เลยว่าจะยุบพระก้าวไกลหรือไม่

เมื่อถามต่อว่าหากพรรคก้าวไกลถูกยุบก็พร้อมที่จะอ้าแขนรับใช่หรือไม่ สมศักดิ์กล่าวว่า ไม่ทราบ​ ตนพูดแทนพรรคไม่ได้ ต้องรอดูจะยุบหรือไม่ยุบตนไม่ทราบ

เมื่อถามว่าการที่ ทักษิณเข้ามา จะสามารถทำให้พรรคเพื่อไทย มีคะแนนนิยม นำพักก้าวไกลได้ใช่หรือไม่ สมศักดิ์​ กล่าวว่า​ อย่าไปเปรียบเทียบกับพรรคการเมืองอื่นเลย เพราะพรรคการเมืองอื่นเขายังไม่เคยทำงาน​ เพราะฉะนั้นเขาก็พูดได้ทุกมุม

เมื่อถามว่าในอนาคตมีโอกาสที่ไหนทักษิณ จะเข้ามาดูแลพรรคเพื่อไทยเต็มตัวหรือไม่ สมศักดิ์กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ตนไม่ใช่ผู้บริหาร​พรรค​ แต่ดีใจที่ ทักษิณ จะไปให้คำแนะนำ และพูดคุยกับสมาชิกพรรค

ส่วนกังวลหรือไม่ที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา​ 152 ในกรณี ทักษิณ​ ด้วย​ สมศักดิ์​ กล่าวว่า​ การอภิปรายของฝ่ายค้านตามมาตรา 152 ไม่มีการลงมติ เมื่อไม่มีการลงมติ จะไปอะไรมากมาย และการอภิปรายของสมาชิกวุฒิสภา​ หรือ​ สว.ก็ไม่ได้ลงมติ เพราะฉะนั้นไม่น่าห่วงอะไรถามมาก็ตอบไป เหมือนกับเป็นการแนะนำสอบถาม อะไรดีรัฐบาลก็รับไป

เมื่อถามว่าแม้ไม่มีการลงมติ แต่อาจจะทำให้ประชาชนได้รู้อีกด้านหนึ่งของรัฐบาล สมศักดิ์ กล่าวว่า ดีมากเลย เพราะวันนี้เราต้องเปิดเผย เราจะไปปิดบังหรืองุบงิบทำนู่นทำนี่ไม่ได้ ต้องมีเหตุผลที่ดี การเปิดเผยดีที่สุด การไม่เปิดเผยแย่ที่สุด

ส่วนมั่นใจหรือไม่ว่าเมื่อไหร่ทักษิณกลับมาจะทำให้คะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยเกิดแลนสไลด์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า สมศักดิ์ กล่าวว่า ตนว่าดีขึ้น แต่จะดีเท่าไหร่ขอให้รอดู เพราะถ้าไปพูดก่อนก็จะเป็นการกดดัน ไม่ดี และมันเป็นการกดดันตัวผมด้วย

เมื่อถามว่ามีโอกาสที่พรรคเพื่อไทย จะเป็นรัฐบาลพรรคเดียวเหมือนในสมัยนายทักษิณหรือไม่ สมศักดิ์กล่าวว่า เขาก็อยากได้กันแบบนั้น แต่จะทำได้หรือไม่ได้ก็ต้องดูผลงานในขณะนี้

เมื่อถามว่าในตอนนี้การเลือกตั้ง การเคลื่อนไหวของ ทักษิณจะมีส่วนต่อสนามการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือ อบจ. หรือไม่ สมศักดิ์​ กล่าวว่า​ อย่าเอาไปโยงกันเลย แต่ละพรรคก็ต้องมีคนของตัวเอง สำหรับพรรคเพื่อไทยก็มีคน ที่จะลงสมัคร ก็ขอให้รอดู