มติชนออนไลน์ รายงานว่าวันนี้ (12 ธ.ค.2562) ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง คดีหมายเลขดำ อ.2043/2562 ที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคอนาคตใหม่ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เป็นจำเลย ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 กรณี น.ส.ปารีณา โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวกล่าวหา น.ส.พรรณิการ์ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เชื่อมโยงกับเหตุระเบิดในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
สำหรับคำฟ้องโจทก์ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2562 จำเลยได้ใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สาม ด้วยการเผยแพร่ข้อความพร้อมภาพประกอบลงในเฟซบุ๊ก "ปารีณา ไกรคุปต์" ด้วยข้อความว่า ขอให้ทุกคนที่ยั่วยุเยาวชนติดคุกทุกคน … โดยในช่วงเวลาก่อนการโพสต์ของจำเลยวันที่ 2-3 ส.ค. 2562 เกิดเหตุวางระเบิดขึ้นในพื้นที่หลายจุดของกรุงเทพมหานคร ในการโพสต์ข้อความดังกล่าว จำเลยได้ใส่ภาพประกอบ 3 ภาพ
ภาพแรก เป็นภาพโจทก์กับนายธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และบุคคลที่สาม จำเลยได้วงกลมไว้บริเวณหน้าบุคคลที่สาม เพื่อให้ประชาชนที่เข้ามาอ่านโพสต์ของจำเลยเข้าใจว่าเป็นผู้ต้องสงสัยในเหตุการณ์วางระเบิด โดยโจทก์กับนายธนาธรเป็นผู้มีส่วน จากที่จำเลยเผยแพร่ข้อความว่า "ฟ้องด้วยภาพ! มือวางระเบิดใครเป็นเจ้าภาพ!"
ภาพที่สอง เป็นภาพถ่ายโจทก์ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำเลยได้ใส่ข้อความว่า "อีช่อลงไป" ซึ่งประชาชนทั่วไปทราบกันดีว่าเป็นชื่อเล่นของโจทก์ ประกอบกับภาพข่าวผู้ต้องสงสัยในเหตุการณ์วางระเบิดพร้อมข้อความว่า "พวกนี้ขึ้นมา" เพื่อให้เห็นว่าโจทก์มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องสงสัย
ภาพที่สาม เป็นภาพจากโพสต์ของเพจเฟซบุ๊กชื่อ "จำไว้เลย" มีข้อความว่ามือบึ้มที่แท้จริงเป็นนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน … ประกอบภาพผู้ต้องสงสัยกับภาพบุคคลอื่น ซึ่งเพจดังกล่าวเผยแพร่ข่าวที่มีเนื้อความอันเป็นเท็จ จำเลยได้นำภาพโพสต์ดังกล่าวมาประกอบเพื่อเชื่อมโยงว่าโจทก์มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องสงสัย
การกระทำของจำเลยเป็นการจงใจทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง เข้าใจผิดว่าโจทก์มีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับเหตุการณ์การวางระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ วันที่ 2-3 ส.ค. 2562 และเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยในเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง อันเป็นการกระทำโดยใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามด้วยการโฆษณา
โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง โดยโจทก์อ้างตนเองเบิกความประกอบเอกสารหมาย จ. 1-6 ฟังได้ว่าโจทก์เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ จำเลยเป็นผู้ใช้บัญชีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กชื่อว่า "ปารีณา ไกรคุปต์" ได้ตั้งค่าการเข้าถึงแบบสาธารณะซึ่งประชาชนหรือบุคคลทั่วไปสามารถเข้าไปดูเฟซบุ๊กของจำเลยได้
ซึ่งจำเลยได้นำรูปภาพที่มีตัวโจทก์และบุคคอื่นถ่ายภาพร่วมกันรูปภาพขณะโจทก์ลงพื้นที่พบปะประชาชนและรูปภาพบุคคลผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้วางระเบิดในพื้นที่ที่เกิดขึ้นหลายจุดของกรุงเทพมหานคร มาลงไว้พร้อมลงข้อความในเฟซบุ๊กของจำเลย ซึ่งอาจทำให้ประชาชนหรือบุคคลทั่วไปที่เข้าไปดูเข้าใจได้ว่าโจทก์เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ดังกล่าวและมีบุคคลมาแสดงความคิดเห็นในทำนองดูหมิ่นและเกลียดชังโจทก์โดยไม่ปรากฏหลักฐานใดแสดงให้เห็นว่าโจทก์เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องการกระทำของจำเลยจึงมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 ประกอบ 326 ให้ประทับรับฟ้องไว้พิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 167 และให้หมายเรียกจำเลยมาสอบคำให้การ ตรวจพยานหลักฐานและกำหนดวันนัดสืบพยานวันที่ 17 ก.พ. 2563 เวลา 9.00 น. เพื่อกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง