ไม่พบผลการค้นหา
'อนุทิน' สั่ง 'ปภ.ช.' ประชุมสรุปรายงานผลและเตือนพื้นที่ เสี่ยงฝุ่นทุกวัน พร้อมสั่งการทุกหน่วยทำแล้วต้องรายงานผล ประกาศ 'มือเผา' ห้ามเผาทุกกรณีไม่มีข้อยกเว้น ขันน็อตทุกฝ่ายปราบถือกฎหมายต้องจับสถานเดียว ด้าน ปภ.ช. เตือน สัปดาห์นี้อากาศนิ่งอีกรอบ ค่าฝุ่นอาจขยับขึ้น

วันนี้ (29 มกราคม 2568) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ปภ.ช. ได้เชิญประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามการแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน รวมถึงฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 รวมถึงผลการดำเนินงานของทุกภาคส่วนเพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์ตามข้อสั่งการของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยบูรณาการทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาโดยเร่งด่วนผ่านกลไกที่มีตามกฎหมาย 

โดยวันนี้ กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด ให้เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ในการแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาแบบ single command ในระดับพื้นที่ โดยเฉพาะ 17 จังหวัดภาคเหนือได้ประกาศเขตเป็นพื้นที่ห้ามเผา หากพบการฝ่าฝืนจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและให้รายงานทุกวัน  ทั้งนี้ได้สั่งการให้ ปภ.ช. ประชุมสรุปสถานการณ์ทุกวันไม่มีวันหยุดตั้งแต่ 10:00 น. เป็นต้นไป โดยให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องรายงานสถานการณ์และการแก้ไขปัญหารวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดที่มีค่าฝุ่นควันที่อาจเป็นอันตรายต่อประชาชน รวมทั้งให้รายงานการดำเนินคดีทั้งในส่วนของฝ่ายปกครองระดับจังหวัด และส่วนราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และส่วนราชการที่ต้องบังคับใช้กฎหมายทั้งเกษตรกรรม ป่าไม้ และอุตสาหกรรม รวมทั้งกรุงเทพมหานคร 

'แม้ว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฝุ่นเกิดการสะสมมาจากสภาพอากาศที่ปิดในช่วงฤดูหนาว ซึ่งที่ประชุม ปภ.ช. ได้รายงานว่า ในสัปดาห์นี้ไปจนถึงวันจันทร์ที่ 3 ก.พ. 68 มีแนวโน้มว่าอากาศจะปิดอีกครั้ง จึงสั่งการให้จัดการขั้นเด็ดขาด เพื่อลดปัญหาของฝุ่นที่อาจจะทำให้ค่าฝุ่นกลับมาเกินมาตรฐานอีกครั้ง โดยกำชับผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดสั่งห้ามเผาขั้นเด็ดขาด และให้ดำเนินการจับกุมตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด'

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการวางแนวทางการแก้ปัญหาระยะยาวตลอดทั้งปีนี้ ที่ประชุม ปภ.ช. ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดผลักดันแนวทางการจัดการเศษพืช จากการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรให้เหมาะสม เช่น การฝังกลบ หรือใช้การบดอัดเพื่อนำไปผลิตเชื้อเพลิง หรือแปรรูปเป็นปุ๋ย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยมีหน่วยงานภาครัฐเข้าไปสนับสนุน รวมทั้งใช้มาตรการป้องปรามเพื่อเพิกถอนสิทธิประโยชน์และเงินช่วยเหลือเป็นระยะเวลา 2 ปี สำหรับเกษตรกรที่ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเผาในช่วงที่ ”ปภ.ช.” กำหนด ให้เป็นช่วง ”90 วันเข้มแก้ฝุ่น” ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 31 พ.ค. ปีนี้ 

สำหรับการแก้ปัญหาฝุ่นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่ปรึกษาผู้ว่า กทม. ได้รายงานว่า ได้ออก 11 มาตรการ อาทิ การประกาศเขต Low Emission Zone ในการห้ามรถ 6 ล้อขึ้นไปที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสภาพเข้าพื้นที่กรุงเทพชั้นใน การจัดทำห้องเรียนปลอดฝุ่น และการประกาศขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐและเอกชน Work from home โดยมีเครือข่ายเข้าร่วม 103,781 คน ซึ่งช่วยลดปริมาณการจราจรและลดการปล่อยควันไอเสียจากรถยนต์ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพมหานครได้ทางหนึ่ง ทั้งนี้ “ปภ.ช.” จะติดตามการแก้ไขปัญหาและรับฟังรายงานของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และเตือนประชาชนในพื้นที่ ที่มีค่าฝุ่นควันเกินมาตรฐาน พร้อมทั้งคำแนะนำจากส่วนราชการต่าง ๆ ทุกวัน