ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเชื่อมั่นว่า ประเทศไทย - จีนจะเห็นความสำเร็จสะท้อนจากตัวเลขการท่องเที่ยวที่มั่นใจว่าจะมีจำนวนสูงขึ้น กระตุ้นการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหลังจากการลงนามความตกลงยกเว้นการลงตราซึ่งกันและกันสำหรับนักท่องเที่ยวไทยและจีน หรือ วีซ่าฟรี (Visa Free) ไทย – จีน อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2567 โดยความตกลงดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป ส่งผลให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวกับประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่าจากปกติ ผ่าน Ctrip (https://www.ctrip.com) เว็บไซต์บริการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของจีน โดยระบุว่า 5 จุดหมายในไทยที่ถูกค้นหามากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ เกาะสมุย และ พัทยา
ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวชาวไทยก็ค้นหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศจีนมากขึ้นเช่นเดียวกัน โดยพบว่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 4 เท่าเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า บนแพลตฟอร์ม Trip.com (https://Trip.com) เว็บไซต์จองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน และการท่องเที่ยวแบบออนไลน์ โดยเมืองที่นักท่องเที่ยวชาวไทยค้นหามากที่สุด ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู ฮาร์บิน เซินเจิ้น ปักกิ่ง เทียนจิน ฉงชิ่ง และจางเจียเจี้ย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทย (ข้อมูลล่าสุด 28 มกราคม 2567) ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาในไทยเฉลี่ยกว่า 20,000 คนต่อวัน เป็นอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยในปี 2567 โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 28 มกราคม 2567 ประเทศไทยรับนักท่องเที่ยวชาวจีนแล้ว 444,702 คน และไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวแล้วกว่า 2,743,147 คน
นอกจากนี้ China International Travel Service (Qingdao) CO.,Ltd. (CITS) ยังระบุว่า ผลจากมาตรการดังกล่าว ได้ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวชิงต่าวของประเทศจีนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งมีปริมาณการจองเที่ยวบินไปยังประเทศไทยมากที่สุด ซึ่งนโยบายดังกล่าวจะเป็นประโยชน์และช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวประเทศไทยเป็นอย่างมาก
“นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เชื่อมั่นว่าการสนับสนุนการท่องเที่ยวไม่เพียงจะส่งสริมการกระชับความสัมพันธ์ระดับประชาชน แต่ยังช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจ พัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในไทย กระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบจากนักท่องเที่ยวที่ส่งตรงถึงพ่อค้าแม่ค้าในไทย กระตุ้นรายได้ประชาชนได้ถึงระดับรากหญ้า ซึ่งเชื่อว่าผลจากการดำเนินมาตรการวีซ่าฟรี (Visa Free) ไทย – จีน จะช่วยส่งเสริมการเดินทางระหว่างสองประเทศ และยกระดับความสำคัญของหนังสือเดินทางไทยตามแนวทางที่รัฐบาลให้ความสำคัญ” ชัย กล่าว