ไม่พบผลการค้นหา
เผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ร่วมเวที Money Expo 2025 ชูแนวคิด 'สลาก กอช' ปฏิรูประบบการออม ลุ้นล้านทุกสัปดาห์ รับมือสังคมสูงวัยอย่างเท่าเทียม

กอช. จัดงานเสวนา “สลาก กอช.นวัตกรรมใหม่การออม” ภายในงานมหกรรมการเงิน กรุงเทพ ครั้งที่ 25 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยได้รับเกียรติจาก ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง มาร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิด และวิสัยทัศน์ผ่านนโยบาย “สลากออมทรัพย์เพื่อการดำรงชีพในยามชราภาพ”

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) จัดงานเสวนา “สลาก กอช นวัตกรรมใหม่การออม” ภายในงานมหกรรมการเงิน กรุงเทพ ครั้งที่ 25 (MONEY EXPO 2025 BANGKOK) ณ เวทีกลางชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยได้รับเกียรติจาก ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง, นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ,พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และ ดร.วโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง มาร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิด และวิสัยทัศน์ผ่านนโยบาย “สลากออมทรัพย์เพื่อการดำรงชีพในยามชราภาพ” หรือ “สลาก กอช”

​ดร.เผ่าภูมิ กล่าวว่า ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ สัดส่วนประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรนี้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบเศรษฐกิจ สวัสดิการ และความมั่นคงทางการเงินของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีหลักประกันด้านรายได้หลังเกษียณ ภายใต้บริบทนี้ “สลาก กอช” จึงเป็นหมุดหมายใหม่ของการปฏิรูประบบการออมของคนไทย ที่มุ่งเน้นการสร้างแรงจูงใจเชิงพฤติกรรม เปลี่ยนวิธีคิดจาก “ต้องออม” เป็น “อยากออม”

“สลาก กอช เป็นมากกว่านโยบายส่งเสริมการออม เพราะผสานแนวคิดออมแล้วลุ้น เพื่อสร้างแรงจูงใจที่จับต้องได้ ช่วยให้ประชาชนเห็นคุณค่าของการออมมากยิ่งขึ้น ถือเป็นก้าวสำคัญในการวางรากฐานวัฒนธรรมการออมอย่างยั่งยืนของไทย” ดร.เผ่าภูมิ กล่าว

ดร.เผ่าภูมิ กล่าวอีกว่า สลาก กอช เปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนที่มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปมีสิทธิซื้อสลากได้ โดยไม่จำกัดอาชีพ เพื่อความเท่าเทียมและครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม จำหน่ายในรูปแบบสลากขูดดิจิทัล ผ่านแอปพลิเคชัน กอช. ซื้อได้สูงสุดคนละไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน ออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น. ประกอบด้วย รางวัลที่ 1 มูลค่า 1,000,000 บาท จำนวน 5 รางวัล และรางวัลที่ 2 มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล ผู้ที่ถูกรางวัลสามารถรับเงินได้ทันที ทั้งนี้ ไม่ว่าผู้ซื้อจำถูกรางวัลหรือไม่ เงินที่ใช้ซื้อสลากทุกบาทจะถูกนำฝากเข้าบัญชีเงินออมส่วนบุคคล และได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนตามที่เงื่อนไขกำหนด และสำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ต้องถือเงินออมไว้อย่างน้อย 5 ปี จึงจะสามารถถอนเงินทั้งหมดได้

ด้าน นางสาวจารุลักษณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการพิจารณาร่างแก้ไข พ.ร.บ. กอช. เพื่อรองรับการดำเนินงาน “สลาก กอช” ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในขั้นกรรมาธิการวิสามัญฯ หากพิจารณาแล้วเสร็จจะส่งกลับไปยังสภาฯ ในช่วงเปิดสมัยประชุมสภาฯ จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป

​นางสาวจารุลักษณ์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการวางแผนการเงินถือเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ทันที โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจมีความผันผวนอย่างรวดเร็ว และประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ การบริหารจัดการเงินอย่างมีระเบียบจะช่วยสร้างวินัยทางการเงิน และวางรากฐานความมั่นคงในระยะยาวได้ จึงขอแนะนำแนวทางง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน โดยการแบ่งรายได้ออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1. 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น 2. 30% สำหรับการใช้จ่ายเพื่อสร้างความสุข 3. 20% สำหรับเก็บออม เพราะหากเราสามารถวางแผนการเงินอย่างมีวินัยตั้งแต่วันนี้ ไม่เพียงแต่จะรับมือกับภาวะเศรษฐกิจได้ดี แต่ยังสามารถสร้างความมั่นคงในชีวิตและเตรียมพร้อมเข้าสู่สังคมสูงวัยได้อย่างมีคุณภาพ

นางสาวจารุลักษณ์ กล่าวว่า กอช. จึงถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคนไทยที่ไม่มีสวัสดิการบำเหน็จบำนาญจากรัฐ เช่น ผู้ประกอบอาชีพอิสระ พ่อค้าแม่ค้า แรงงานนอกระบบ ที่มีอายุระหว่าง 15 – 60 ปี สามารถสมัครเป็นสมาชิกได้ และเริ่มต้นออมได้ตั้งแต่ 50 บาทต่อครั้ง สูงสุด 30,000 บาทต่อปี และยังได้รับการออมสมทบเพิ่มจากรัฐตามช่วงอายุสูงถึง 100 % ดังนี้

- อายุ 15 – 30 ปี รัฐสมทบให้ 50 % ของเงินออม แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี

- อายุ >30 – 50 ปี รัฐสมทบให้ 80% ของเงินออม แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี

- อายุ >50 – 60 ปี รัฐสมทบให้ 100% ของเงินออม แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี

“กอช. ไม่เพียงแต่ช่วยให้ประชาชนออมเงินได้อย่างยืดหยุ่นและได้รับเงินสมทบจากรัฐ แต่ยังมีโอกาสได้รับเงินบำนาญรายเดือนตลอดชีพ เมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และรัฐค้ำประกันผลตอบแทนการลงทุนไม่ต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน เฉลี่ย 7 ธนาคาร ซึ่งเงินออมยังสามารถ นำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 30,000 บาทต่อปี จึงขอเชิญชวนคนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป เริ่มต้นออมกับกอช. ตั้งแต่วันนี้เพื่ออนาคตที่มั่นคงและคุณภาพชีวิตที่ดีในภายภาคหน้า” นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว

​สำหรับผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบสิทธิ สมัครสมาชิก กอช. และส่งเงินออมได้ทุกวันผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ อาทิ แอปพลิเคชัน “กอช”, เป๋าตัง, ทางรัฐ, MyMo, กรุงไทยเน็กซ์, ทรูมันนี่, เคพลัส, myAIS, ShopeePay หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กอช. 02-049-9000 ได้ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.30 น.