ไม่พบผลการค้นหา
‘เสรี’ อภิปราย ‘เศรษฐา’ ทำตัวเป็น ‘เซลล์แมน’ โดยไม่จำเป็น ภาวนาให้นายกฯ อยู่ครบเทอม หลังมีข่าวถูกเลื่อยเก้าอี้ทุกวัน ด้าน 'นายกฯ' ลุกชี้แจงบอกไม่น้อยเนื้อต่ำใจ ชี้เป็นหน้าที่ หลังทำงานได้ 7 เดือนก็โดนซักฟอก ต่างกับรัฐบาลก่อน อยู่ 8-9 ปี รอด ยันก่อนหน้านี้ทำงานได้แม้ไร้งบ มั่นใจผลงานคืบ

วันที่ 25 มี.ค. ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ครั้งที่ 28 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) ในญัตติการขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงข้อเท็จจริง หรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติตาม ม.153 โดยมี เสรี สุวรรณภานนท์ สว. กับคณะ เป็นผู้เสนอ

เวลา 09.30 น. เสรี กล่าวถึงสาเหตุในการเปิดอภิปราย โดยระบุถึงการเดินทางไปต่างประเทศอยู่บ่อยครั้งของนายกรัฐมนตรีว่า การที่ท่านไปต่างประเทศ และทำตัวเป็น ‘เซลล์แมน’ ไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจ แต่ท่านต้องไปแบบ CEO หรือผู้บริหารระดับสูง ส่วนเซลล์แมนนั้นต้องให้ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพาณิชย์รับผิดชอบ เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์มีทูตพาณิชย์อยู่ในแต่ละประเทศ

“มันกลับหัวกลับหางไปหมด รัฐมนตรีหลายท่านออกมาเชียร์นายกรัฐมนตรีกันยกใหญ่ว่า เป็นเซลล์แมนดีอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ผลที่ออกมากลับไม่ได้ประโยชน์ และผมไม่ได้ดูถูกดูแคลนเซลล์แมน แต่ท่านต้องทำตัวเป็นผู้บริหารระดับสูง หรือซีอีโอ” เสรี กล่าว

เสรี.jpg

เสรี ยังกล่าวถึงเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่ถูกตั้งคำถามในรัฐบาลว่า เรื่องกระบวนการยุติธรรมที่รัฐบาลทำแล้วประสบความสำเร็จเพียงเรื่องเดียวคือ การช่วยคนทำผิดให้ไม่ต้องรับโทษ โดยให้กรมราชทัณฑ์ออกระเบียบหลายฉบับ เอื้อต่อการช่วยคนไม่ให้ต้องรับโทษ แม้จะมีคำพิพากษาศาลออกมาแล้ว แต่กรมราชทัณฑ์กลับออกกฎหมาย และระเบียบเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อใครบางคน จนทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ซึ่งถือว่า เป็นผลงานโดดเด่น แต่ทำให้กระบวนการยุติธรรม “เสียหาย”

เสรี ยังกล่าวถึงกระบวนการยุติธรรมข้างต้นอีกว่า รัฐบาลนี้ทำไปเพราะอาจจะแสดงอำนาจ และแสดงถึงความยิ่งใหญ่ว่า กลับมาประเทศแล้วไม่ต้องติดคุกสักวันเดียว นั่นจึงทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เยอะ แต่ยืนยันว่า ตนพูดในหลักการ ไม่ได้พูดในตัวบุคคล และขอภาวนาให้นายกรัฐมนตรี อยู่ครบ 4 ปี ไม่ใช่มีข่าวถูกเลื่อยขาเก้าอี้ทุกวัน


ยันก่อนหน้านี้ทำงานได้แม้ไร้งบ - มั่นใจผลงานคืบ

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลุกขึ้นตอบภิปรายสมาชิกวุฒิสภาหรือ สว.ครั้งแรก ในการประชุม หลัง เสรี สุวรรณภานนท์ ลุกขึ้นอภิปรายคนแรก ว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มายืนในสถานที่อันทรงเกียรติที่นี้ และรับฟังความคิดเห็นคำติชมของ สว.ทุกคนพร้อมยืนยันว่า รัฐบาลนี้ภายใต้การนำของตนและรัฐมนตรีทุกคนให้เกียรติกับฝ่ายนิติบัญญัติทั้งสองสภา เพราะเรามีหน้าที่บริหาร แต่เมื่อไหร่ที่ฝ่ายนิติบัญญัติเกิดข้อสงสัยพร้อมเสนอแนะที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เราก็ยินดีมาตอบ พร้อมยืนยันว่า 8-9 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีการอภิปรายมาตรา 153 นี้ แล้วทำไมมาแค่ 7 เดือนถึงมี เพราะเราทราบดีว่ามีหน้าที่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยน้อยเนื้อต่ำใจ เพราะเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องมาทำงานและตอบคำถามให้ทุกท่านกระจ่าง

เศรษฐา กล่าวอีกว่า หลายเรื่องที่ท่านอภิปรายมาเราก็ดำเนินการต่อไปแล้วอย่างกรณีเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศหลาย ครั้งที่เดินทางไปเป็นเรื่องความจำเป็น และการประชุมใหญ่อย่างอาเซียนหลายครั้งเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่ผู้นำใหม่รับตำแหน่งต้องไปเยือน อย่างประเทศเพื่อนบ้าน สิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา สปป.ลาว ซึ่งเรื่องเหล่านี้เราให้ความตระหนักดีถึงการใช้เวลาการบริหารราชการแผ่นดินให้เป็นประโยชน์สูงสุด พร้อมเข้าใจและรับทราบถึงข้อกังวล แต่ถึงอย่างไรตนเข้าใจดีว่าเราใช้เทคโนโลยีในการบริหารราชการรวมถึงประสานงานกับคณะรัฐมนตรีข้าราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำพาประเทศผ่านวิกฤตไปได้เพราะบางครั้งอาจไม่ต้องมาเจอตัวต่อตัว

ส่วนที่เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่หลายหน เพื่อไปแก้ปัญหาฝุ่นถึงแม้จะมีอยู่แต่ก็ลดไป 30%-70% แต่ละพื้นที่ สามารถพิสูจน์ได้ว่าลดลงและเปรียบเทียบกว่าปีที่ผ่านมา และการเดินทางไปเชียงใหม่ครั้งล่าสุดก็ลงหลายพื้นที่ ก่อนประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดพะเยา ส่วนที่มีคนพูดว่าตนลงไปทานไวน์นั้นปกติทาน แต่วันนั้นตนไม่ได้ทานเพราะไม่สบาย ซึ่งอาจจะมีการสับสนในเรื่องการจัดวางแก้ว

ส่วนเรื่องงบประมาณที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบไม่ได้เป็นข้อแก้ตัวในการบริหารราชการ หรือข้ออ้างที่จะไม่อยู่ช่วยเหลือประชาชน แต่นโยบายหลักๆ ของรัฐบาล อาทิการพักหนี้เกษตรกร ฟรีวีซ่าหลายประเทศ ลดค่าใช้จ่าย ลดราคาสินค้าการเกษตร ก็เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยไม่ต้องพึ่งงบประมาณ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลให้ความสำคัญ รวมถึงเปิดตลาดสินค้าการเกษตรใหม่ เห็นจากราคายางวันนี้สูงขึ้นกว่า 100 บาทแล้ว

ส่วนเรื่องการลงทุนต่างประเทศ ตนขอยืนยันว่า รัฐบาลก่อนก็มีการทำไว้บ้าง และหลายเรื่องที่รัฐบาลนี้คิดว่าเขาทำมาดี และรัฐมนตรีหลายคนก็เคยอยู่มาก่อนเราก็ให้เกียรติ พร้อมย้ำว่า อะไรที่ทำดีเราก็ทำต่อ ไม่ใช่ไปปรับตกทุกเรื่อง ทั้งนี้ตนขอความกรุณาว่าการลงทุนมูลค่าแสนล้าน หรือล้านล้านบาท มันต้องใช้เวลามากกว่า 7 เดือนที่ผ่านมาเพราะต้องมีการตกลงแต่ถึงอย่างไรตนมั่นใจว่าจากการทำงานของผู้แทนการค้าและทีมงานจะมีการแถลงพรุ่งนี้ประมาณ 11:30 น. ซึ่งจะทำให้ทราบถึงความก้าวหน้าในการเดินทางไปต่างประเทศ นำนักลงทุนมายกระดับอุตสาหกรรมไทย ซึ่งเรื่องเหล่านี้รัฐบาลให้ความสำคัญถึงแม้งบประมาณจะยังไม่ออกมา แต่ช่วงเวลานั้นงบประมาณเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถทำให้เราผลักดันได้อย่างเต็มที่

ส่วนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเราต้องมีการฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อนำมาประกอบเป็นนโยบายที่ดีที่สุด ซึ่งวันนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จะแถลงถึงไทม์ไลน์ที่มีการรับฟังมา เพื่อให้เห็นถึงรูปธรรม

ส่วนเรื่องการแก้หนี้นอกระบบ ตนเห็นด้วยกับการที่ สว.บอกว่ายังไม่จบ โดยเสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมาตนก็เยี่ยมชมโรงพักในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดก็ทราบดีและมีการกำชับไปว่าไม่ใช่คอยให้ประชาชนมาแจ้ง แต่เจ้าหน้าที่และฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคงต้องลงไปในพื้นที่เพื่อเรียกร้องให้ประชาชนมาแจ้งด้วย พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลนี้เข้ามาและจะแก้ปัญหานี้จริงๆ ไม่ใช่แค่ให้ฝ่ายปกครองหรือฝ่ายความมั่นคงดำเนินการอย่างเดียว ซึ่งที่ผ่านมามีความคืบหน้าพร้อมยืนยันว่า ตนรับฟังและเห็นด้วยว่าปัญหายังไม่ถูกแก้อย่างบูรณาการ แต่ถึงอย่างไร 7 เดือนมีความคืบหน้าในการแก้ไขเรื่องนี้

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลเราพร้อมชี้แจง สว. ซึ่งหลายคนก็จะตามมาสมทบเพื่อชี้แจงในเรื่องที่ถูกอภิปราย ซึ่งตนเชื่อว่าทุกคนให้เกียรติและพร้อมที่จะชี้แจง สว.