ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ขอสื่อสนใจเรื่องเศรษฐกิจมากกว่าการเมือง ยันรัฐบาลเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ยาวจนถึงปี 63 ขอสื่ออย่าเพิ่งคาดการณ์ล่วงหน้าสร้างความสับสนให้ปชช. ด้านโฆษก รบ.เผยนายกฯให้ความเชื่อมั่นกับสภานักธุรกิจสหรัฐฯ - อาเซียน ขณะที่คลังชงมาตรการแก้เศรษฐกิจระยะสั้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังให้การต้อนรับสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา - อาเซียน (U.S. - ASEAN Business Council - USABC) เมื่อเห็นผู้สื่อข่าวมายืนเพื่อรอสัมภาษณ์บริเวณทางเดินระหว่างตึกภักดีบดินทร์และตึกไทยคู่ฟ้า ว่า ขอให้สื่อมวลชนสนใจเรื่องเศรษฐกิจมากกว่าเรื่องการเมือง 

ส่วนมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะหารือในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจนัดแรกวันที่ 16 ส.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลจะหารือมาตราการสำคัญ แต่เห็นสื่อมวลชนนำเสนอคาดการณ์ ไปต่างๆ ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการนั้น มาตรการนี้ ทั้งที่ยังไม่ได้ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังหามาตรการที่เหมาะสมอยู่ ที่ผ่านมาคนไม่เข้าใจรัฐบาลก็มีมาก จะต้องอธิบายกันต่อไป พร้อมยืนยันว่า วันนี้จะต้องมีมาตรการอะไรสักอย่างที่ทำให้ประเทศไทยเดินต่อไปได้ในไตรมาส 4 ยาวไปจนถึงปีหน้า ทำอย่างไรไม่ให้เศรษฐกิจตกต่ำน้อยที่สุด จึงขอให้รอความชัดเจนในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจวันพรุ่งนี้ (16 ส.ค.)


ประยุทธ์ นักธุรกิจ 815171902000000.jpgนฤมล 56000000.jpg

โฆษกรัฐบาล เผยคลังชงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น

ด้าน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย หลังสภาธุรกิจสหรัฐอาเซียน หรือ USABC เข้าเยี่ยมคาราวะนายกรัฐมนตรี ว่า นักธุรกิจ USABC ได้แสดงความยินดีที่นายกรัฐมนตรี ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีขอให้นักธุรกิจเชื่อมั่นในเสถียรภาพของรัฐบาล และมั่นใจแนวทางการปฏิรูปเศรษฐกิจประเทศไทย และขอให้ช่วยยกระดับสินค้าเกษตร เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร โดยคำนึงถึงโมเดล BCG หรือ ไบโออีโคโนมิก เศรษฐกิจชีวภาพ ขณะที่สภาธุรกิจสหรัฐให้ความมั่นใจกับเสถียรภาพของรัฐบาลโดยไม่มีความกังวลใดๆ และจะลงทุนเพิ่มในประเทศไทย โดยในวันพรุ่งนี้จะไปดูพื้นที่อีอีซี เพื่อดูทิศทางการลงทุน

ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจในวันพรุ่งนี้ โดยมีเพียงวาระเดียว คือ มาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ที่กระทรวงการคลัง จะเสนอต่อที่ประชุม โดยยังไม่ทราบรายละเอียดว่าจะเป็นไปตามที่สื่อเสนอหรือไม่