ไม่พบผลการค้นหา
กองทัพอากาศส่งเครื่องบินแอร์บัส เอ340-500 บินเที่ยวแรกรับ 137 คนไทยอพยพอิสราเอล ใช้เวลาเดินทางไป-กลับ 24 ชม. เผยถึงไทยเช้ามืด 16 ต.ค. ‘พล.อ.อ.พันธุ์ภักดี’ ผบ.ทอ. ยัน นักบินมีความพร้อม-น้ำมันเพียงพอ

วันที่ 15 ต.ค. 2566 เวลา 00.30 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ดอนเมือง (บน.6) พล.อ.อ.พันธุ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พร้อมด้วย พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องบินแอร์บัส เอ340-500 จำนวน 1 ลำ ของกองทัพอากาศ ออกเดินทางจากท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติเบนกูเรียน กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เพื่อรับชาวไทยจำนวน 137 คนกลับประเทศ 

โดยจะบินผ่านน่านฟ้าประมาณ 10 ประเทศ และเดินทางถึงกรุงเทลอาวีฟในเวลา 12.00 น.ของวันที่ 15 ต.ค. 2566 และออกจากกรุงเทลอาวีฟในเวลา 13.00 น. โดยคาดว่าจะเดินทางถึงท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 ในวันที่ 16 ต.ค. 2566 เวลา 04.40 น. 

ด้าน พล.อ.อ.พันธุ์ภักดี ให้สัมภาษณ์ก่อนเครื่องบินขึ้นเทคออฟว่า กองทัพอากาศได้กำลังใจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และทุกคนก็มีความพร้อม ความตั้งใจ โดยเฉพาะภาคปฏิบัติงานในภารกิจช่วยเหลือประชาชนชาวไทยอพยพจากประเทศอิสราเอลให้เร็วที่สุด 

โดยเที่ยวบินแอร์บัส เอ340-500 จะใช้เวลาเดินทางทั้งขาไป และขากลับประมาณ 12 ชั่วโมง 30 นาที โดยผ่านน่านฟ้าทั้งสิ้น 10 ประเทศ ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศได้ใช้เวลาในการประสานงานเพียง 1-2 วัน จากปกติประมาณ 1 อาทิตย์ และการประสานกับภาคกองทัพในประเทศอิสราเอลนั้นก็เป็นหน้าที่หลักของกระทรวงการต่างประเทศด้วยเช่นกัน 

ทั้งนี้อาจมีการปรับเส้นทางให้มีระยะสั้นขึ้นเพื่อความเหมาะสม แต่ก็ต้องมีการเดินทางตามแผนการบินที่ต้องผ่าน 10 ประเทศไว้ก่อน และหากได้เส้นทางที่สั้นขึ้นก็จะย่นเวลาได้เหลือประมาณ 8 ชั่วโมง 

พล.อ.อ.พันธุ์ภักดี ยืนยันว่า นักบินสำหรับเที่ยวบินดังกล่าวมีความพร้อมทุกคน โดยครั้งนี้ได้มีการวางแผนที่จะอพยพถึง 7,000 คน ซึ่งนักบินเองก็ต้องทำความเข้าใจเรื่องของกฎการบินที่มีมาตรฐาน และมีการเตรียมการเรื่องของกำลังพล ย้ำว่า มีความพร้อม โดยตามกฎการบินก็จะต้องมีการพัก 48 ชั่วโมงซึ่งอาจจะเป็นวันเว้นวันได้ 

พล.อ.อ.พันธุ์ภักดี กล่าวต่อว่า จากรายงานข่าวล่าสุดก็ได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่า มีความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องในการนำเครื่องลงจอดที่ประเทศอิสราเอล ส่วนกรณีการเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ปิดน่านฟ้ากระทันหัน ก็มีน้ำมันเพียงพอที่จะใช้เส้นทางบินอ้อม รวมถึงแผนลงจอดในสนามบินสำรอง

สำหรับการช่วยเหลือชาวไทยนั้นจะเป็นการสลับใช้เครื่องบินของกองทัพอากาศสลับกับเครื่องบินพาณิชย์ โดยใช้แอร์บัส เอ340 จำนวน 1 ลำ และเครื่องบินจากการบินไทย 1 ลำ โดยที่อุปกรณ์ที่ขนขึ้นเครื่องไปด้วยจะเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ทางกองทัพไม่สามารถเปิดเผยได้  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เที่ยวบินนี้จะเป็นเที่ยวบินแรกที่กองทัพอากาศจะส่งไปรับคนไทยกลับจากประเทศอิสราเอล ซึ่งเป็นกลุ่มผู้อพยพที่ลงทะเบียนไว้กับสถานเอกอัครราชทูต โดยจะมีคณะแพทย์ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษ ลูกเรือและนักบิน รวม 41 คน ร่วมเดินทางไปกับเที่ยวบินนี้ด้วย