ต่างประเทศ
ชาวฮ่องกงมาใช้สิทธิแค่ 27.5% หลัง “คนรักชาติ” เท่านั้นที่ลงสมัครได้
จากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดในฮ่องกงเมื่อปี 2562 มีจำนวนประชาชนผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งต่างสนับสนุนผู้สมัครที่สนับสนุนประชาธิปไตย อย่างไรก็ดี หลังจากการประท้วงครั้งใหญ่ในฮ่องกง ซึ่งในบางการประท้วงมีการใช้ความรุนแรงโดยเจ้าหน้าที่ ส่งผลให้ฝ่ายค้านในฮ่องกงได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งครั้งนั้น
หลังจากชัยชนะของฝ่ายค้านในสภานิติบัญญัติฮ่องกง ทางการจีนได้ออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อเข้าแทรกแซงและปรับเปลี่ยนการเลือกตั้งของฮ่องกง ซึ่งส่งผลให้มีการกีดกันใครก็ตามที่มีแนวคิดอันไม่จงรักภักดีต่อรัฐ ให้ไม่สามารถลงรับสมัครเลือกตั้ง หรือแม้แต่กระทั่งถูกตัดสินโทษจำคุก
การเลือกตั้งสภาเขตฮ่องกงเมื่อวันอาทิตย์ กินเวลายาวนานออกไปจนถึงช่วงเที่ยงคืน เนื่องจากทางการขยายเวลาปิดหีบเลือกตั้งออกไปอีก 90 นาที ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หลังจากเกิดความล้มเหลวในระบบดิจิทัลที่ใช้เพื่อยืนยันสิทธิของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
อย่างไรก็ดี แม้จะมีการต่อเวลาพิเศษเพื่อขยานเวลาการปิดหีบเลือกตั้ง แต่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของรัฐบาลฮ่องกงระบุเมื่อวันจันทร์ (11 ธ.ค.) ว่ามีผู้ออกมาใช้สิทธิขั้นสุดท้ายอยู่ที่ 27.54% โดยมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงทะเบียนในฮ่องกงมีไม่ถึง 1.2 ล้านคน จากผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งทั้งหมด 4.3 ล้านคน
ฮ่องกงเคยมีจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ต่ำสุดก่อนหน้านี้อยู่ที่ 35.8% ในปี 2542 นอกจากนี้ จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิยังลดลงในการเลือกตั้งสภานิติบัญญติที่จัดขึ้นอย่างล่าช้าเมื่อปีที่แล้ว อันเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้งฮ่องกง ที่มีทางการจีนเข้ามาแทรกแซง
จากการเปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้งฮ่องกง ส่งผลให้จำนวนที่นั่งของสมาชิกสภาเขตฮ่องกงแบบระบบเลือกตั้งโดยตรง ถูกตัดลงเกือบ 80% จาก 462 เหลือ 88 ที่นั่ง โดยที่นั่งที่เหลือถูกควบคุมโดยรัฐบาลฮ่องกง ผู้จงรักภักดีต่อรัฐบาล และเจ้ากรรมสิทธิที่ดิน ทั้งนี้ มีผู้สมัครมากกว่า 70% ที่ได้รับเลือกผ่านการเลือกตั้งกันเองของคณะกรรมการ
ผู้ลงรับสมัครเลือกตั้งทุกคนจะต้องผ่านการตรวจสอบ ตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ และได้รับการเสนอชื่อจากคณะกรรมการ ที่เป็นฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลฮ่องกงจำนวน 2 ชุด อย่างไรก็ดี กลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยและกลุ่มไม่สนับสนุนฝ่ายอำนาจอย่างน้อย 3 กลุ่ม รวมถึงกลุ่มสายกลาง และแม้แต่กลุ่มสนับสนุนรัฐบาลจีนบางกลุ่มก็ไม่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าว
เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา จอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง กล่าวขอบคุณผู้มีสิทธิเลือกตั้ง “มากกว่า 1 ล้านคน” ที่ออกมาลงคะแนนเสียง โดยลีกล่าวปกป้องความชอบธรรมของการเลือกตั้งในครั้งนี้ ด้วยการกล่าวอ้างถึงความจำเป็นในการรักษาเสถียรภาพในฮ่องกง ซึ่งถูกคืนสู่การปกครองของจีนเมื่อปี 2540 ที่ผ่านมา
ระหว่างการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ ทางการฮ่องกงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยล้อมรอบหน่วยเลือกตั้งอย่างเข้มงวด โดยมีตำรวจมากกว่า 10,000 นายสนธิกำลังเพื่อรักษาความสงบในการเลือกตั้ง ทั้งนี้ ตามคำแถลงของตำรวจและหน่วยงานต่อต้านการทุจริตฮ่องกง มีผู้ถูกจับกุมตัวอย่างน้อย 6 คนในข้อหากระทำความผิด ซึ่งรวมถึงการโพสต์ข้อความทางออนไลน์ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนทำบัตรเสีย หรือยุยงให้ผู้อื่นขัดขวางการเลือกตั้ง
สมาชิก 3 คนของพรรคสันนิบาตสังคมประชาธิปไตย (LSD) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยกลุ่มสุดท้ายที่ยังไม่ถูกทางการฮ่องกงยุบ เป็นหนึ่้งในกลุ่มผู้ถูกติดตามและจับกุมตัว ก่อนที่พวกเขาจะวางแผนประท้วงต่อต้าน "การเลือกตั้งในกรงนก" และ "การก้าวถอยหลังครั้งใหญ่" สำหรับการเลือกตั้ง และสิทธิตามระบอบประชาธิปไตยในฮ่องกง
ตำรวจฮ่องกงระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้ถูกจับกุมตัวทั้ง 3 คนต้องสงสัยว่าพยายาม "ยุยงผู้อื่น" เพื่อขัดขวางการเลือกตั้ง ในขณะที่พรรค LSD ระบุว่าการจับกุมตัวสมาชิกของพรรค LSD ในครั้งนี้ “เป็นเรื่องที่น่าขันและไร้สาระอย่างยิ่ง”
ก่อนหน้าการเลือกตั้งในครั้งนี้ เมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจความมั่นคงแห่งชาติฮ่องกงได้จับกุมตัวชายวัย 77 ปี “ฐานพยายามก่อการปลุกปั่น” และเมื่อวันอังคาร (5 ธ.ค.) มีชายวัย 38 ปีคนหนึ่งถูกตั้งข้อหาโพสต์วิดีโอของผู้วิจารณ์รัฐบาลฮ่องกงที่อยู่ในต่างประเทศ ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีเนื้อหายุยงให้ประชาชนคว่ำบาตรการเลือกตั้ง
ที่มา:
