วันที่ 15 พ.ย. พิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นต่อกรณีการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งมีมูลค่า 1,600 ล้านบาท ว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ โดย พิชัย ระบุว่า ตนค่อนข้างสงสัยว่า ประเทศอื่นใช้ค่าลิขสิทธิ์น้อยกว่าไทยมาก
ขณะนี้ตนมองว่า ควรใช้จ่ายงบประมาณของชาติอย่างเหมาะสมถูกต้อง ตนอยากให้ประชาชนได้มีความสุขจากการดูการแข่งขัน แต่หากลิขสิทธิ์แพงมาก อาจพิจารณาถ่ายทอดสดเพียงบางส่วน ไม่ต้องทั้งหมดก็ได้ เช่นในช่วง 16 ทีมสุดท้าย ที่ค่อนข้างเข้มข้น ประชาชนอาจสนใจรับชมมากกว่า และเชื่อว่าคนไทยจะเข้าใจและรับได้
พิชัย ยังชี้ว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ควรเตรียมการมานานก่อนหน้าให้นานก่อนหน้านี้ ถ้าดำเนินการซื้อลิขสิทธิ์ได้ทันท่วงทีแต่แรก ค่าลิขสิทธิ์คงไม่สูงมากกว่าประเทศอื่นๆ พร้อมระบุว่า ถ้า จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ป่านนี้คงจัดการได้เรียบร้อยไปแล้ว และได้ค่าลิขสิทธิ์ที่ถูกกว่านี้
"อยากเห็นประชาชนมีความสุขในช่วงภาวะเศรษฐกิจแย่ อย่างน้อยคนได้ดูฟุตบอลให้ลืมความทุกข์ชั่วคราว แต่ค่าลิขสิทธิ์ 1,600 ล้านบาท ถือว่าแพงไป สงสัยเราติดต่อช้าไปหรือไม่ นี่ถือเป็นความบกพร่องรัฐบาล อีกไม่กี่วันจะถ่ายทอดแล้วยังสรุปไม่ได้ การทำงานของรัฐบาลเรา ถ้าไม่ถูกด่าไม่ทำ ไม่เข้าตัวก็ไม่ทำ" พิชัย กล่าว
ด้าน ศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย ในฐานะคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ย้ำว่า กรณีนี้เป็นความบกพร่องของสำนักงานกิจการการกระจายเสียง การโทรทัศน์ และการโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย (กสทช.) เพราะ กสทช. ต้องทราบอยู่แล้วว่ามีกฎ Must Have อยู่ ไม่ใช่เพิ่งมารู้สึกตัวว่าต้องซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอด
ส่วนเหตุที่หลายประเทศซื้อลิขสิทธิ์ได้ถูกกว่า เพราะทางผู้จัดการแข่งขันก็ได้บอกแล้ว ถ้าซื้อลิขสิทธิ์ก่อนหน้านี้ จะได้อีกราคาหนึ่ง ซึ่งตนทราบมาว่ามีการพูดคุยกันภายในหน่วยงานของไทย ซึ่งคิดกันว่าซื้อลิขสิทธิ์ใกล้ช่วงถ่ายทอดแล้วจะได้ราคาถูกกว่า แต่หากมองในมุมคนที่รู้อยู่แล้วว่าต้องซื้อ ก็สามารถซื้อได้ตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ ด้วยราคาที่ถูกกว่ามาก คาดว่าอยู่ที่ประมาณ 500-600 ล้านบาท ตามจำนวนประชากร ไม่ถึง 1,000 ล้านบาท