ไม่พบผลการค้นหา
ม็อบราษฎรทยอยรวมตัวที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ด้านบช.น.แนะเลี่ยงถนนรัชดา และยังไม่ยกตู้คอนเทรนเนอร์ออก รอฝ่ายความมั่นคงประเมินสถานการณ์ ขณะที่แกนนำปลุกทวงคืนสมบัติชาติ ลั่นดัน พ.ร.บ.จัดการทรัพย์สิน

บรรยากาศหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) สำนักงานใหญ่ รัชโยธิน มวลชนกลุ่มราษฎรได้ทยอยเดินทางมารวมตัวตามนัดหมายของคณะราษฎรในเวลา 15.00 น. โดยมีแกนนำทยอยเดินทางมาถึงแล้ว อาทิ พริษฐ์ ชิวารักษ์ , ภาณุพงศ์ จาดนอก เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีรัชโยธิน ซึ่งมีทางเชื่อมเข้าห้างสรรพสินค้าเมเจอร์รัชโยธิน และธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ พบว่า มีมวลชนจำนวนมากทยอยเดินทางออกจากรถไฟฟ้าบีทีเอสเพื่อมุ่งหน้าไปสมทบมวลชนที่ธนาคารไทยพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง

โดยหนึ่งในมวลชน ระบุว่า การเดินทางโดยรถไฟฟ้ายังคงสะดวกสะบายที่สุด แต่ต้องแลกกับค่าโดยสารที่แพง ซึ่งถือเป็นความเหลื่อมล้ำของคนในประเทศ ดังนั้นการเดินทางมาชุมนุมวันนี้ จึงหวังว่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงความเหลื่อมล้ำดังกล่าวไม่มากก็น้อย

ขณะที่วันนี้รถไฟฟ้าบีทีเอส แจ้งว่า ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ไม่มีการปิดสถานีรถไฟฟ้าแต่อย่างใด

เพนกวิน เป็ดเหลืองธนาคารไทยพาณิชย์ รัชโยธิน ม็อบ คณะราษฎร SCB_2011d25_3.jpg


แแแแแ.jpg


บช.น.แนะเลี่ยงถนนรัชดา

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ระบุ กรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมนัดรวมตัวบริเวณหน้าอาคารธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ (SCB) ในเวลา 15.00 น. ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่การจราจรหนาแน่น เป็นเส้นทางสายหลัก โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไปจนกว่าเสร็จสิ้นการชุมนุม

ซึ่งเส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบ ได้แก่ ถนนรัชดาภิเษก (ขาออก) ตั้งแต่ แยกรัชโยธิน – แยกรัชวิภา แนะนำให้ประชาชนไปใช้อุโมงค์รัชโยธิน นอกจากนี้ยังมีถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนลาดพร้าว ถนนกำแพงเพชร 2 ทางยกระดับโทลล์เวย์ ส่วนกรณีไปแยกประชานุกูล หรือ ถนนกำแพงเพชร 2 ให้ใช้ถนนวิภาวดีรังสิต และเลี้ยวซ้ายบริเวณต่างระดับรัชวิภาจะเป็นการสะดวกกว่าเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านการจราจร

ทั้งนี้ตำรวจกองบัญชาตำรวจนครบาล ได้จัดเตรียมกำลังตำรวจจราจรคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้แก่พี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนในภาพรวม เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด


ตร.ยังไม่ยกตู้คอนเทนเนอร์ออก

พล.ต.ต.จิรสันต์ ระบุว่า สำหรับการวางสิ่งกีดขวางเป็นแนวกั้น เพื่อปิดแยกและเส้นทางต่างๆในรัศมี 1 กิโลเมตร โดยรอบพื้นที่ ยังคงปิดต่อตามปกติ ซึ่งต้องรอฝ่ายการข่าวของฝ่ายความมั่นคงประเมินสถานการณ์ หากแจ้งว่าให้เปิดได้ก็จะทำการเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อเปิดการจราจรทันที เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

อย่างไรก็ตาม ปัญหาจราจรที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าเป็นการสัญจรระหว่างฝั่งธนบุรีกับฝั่งพระนคร และพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน เนื่องจากมีปริมาณรถมาก ประกอบกับการปอดการจราจรวางสิ่งกีดขวางเป็นแนวกั้นพื้นที่โดยรอบ แนะนำประชาชนให้หลีกเลี่ยงหรือเผื่อเวลาอย่างน้อย 45 นาที หากเลิกงานกลับบ้านก่อนเวลาปกติก็จะไม่กระทบมาก แต่หากเป็นเวลาเร่งด่วนหากจะข้ามฝั่งแนะนำให้ใช้สะพานพระราม 7 สะพานพระราม 5 ฝั่งนนทบุรีจะสะดวกกว่า โดยอีกทางที่แนะนำคือสะพานสาทร สะพานกรุงเทพ

เพนกวิน เป็ดเหลือง พริษฐ์ ชิวารักษ์ คณะราษฎร ม็อบ SCB_201125_6.jpgรุ้ง ปนัสยา 2.jpg

'เพนกวิน-รุ้ง' สวมชุดเป็ดเหลือง-ถือไก่โอ๊กสร้างสีสัน

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศสีสันการชุมนุมของมวลชนคณะราษฎร 2563 ที่บริเวณด้านหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ สาขารัชโยธิน เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเย็น โดยแกนนำผู้ชุมนุมนำโดย พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ทยอยเข้าร่วมชุมนุมตามเวลานัดหมายเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (25 พ.ย.) โดยแกนนำต่างสวมชุดเป็ดเหลือง และนำไก่โอ๊กมาร่วมชุมนุมเพื่อสร้างสีสันให้กับการชุมนุม

'เป็ดเหลือง' สัญลักษณ์ม็อบราษฎร

นอกจากนี้ บรรดาพ่อค้า-แม่ค้า ต่างนำพวงกุญแจเป็ดเหลือง หมวกเป็ดเหลือง ปากกาเป็ดเหลือง มาวางจำหน่ายกันอย่างหลากหลายนอกจากนี้ภายในสถานที่ชุมนุม ผู้ชุมนุมยังนำธนบัตรที่มีรูปเป็ดเหลือง มูลค่า 10 บาทนำมาใช้เพื่อซื้อ-ขายสินค้า 

ทั้งนี้ สัญลักษณ์ 'เป็ดเหลือง' ผู้พิทักษ์ความปลอดภัยของคณะราษฎร ถูกนำมาเป็นไฮไลต์ของกิจกรรมการชุมนุมครั้ง ด้วยการแจกธนบัตร 'เป็ดเหลือง' ชนิดราคา 10 บาท จำนวน 3,000 ใบ ให้ผู้ร่วมชุมนุมสามารถนำไปใช้ซื้อของกับรถ CIA ภายในพื้นที่ชุมนุม 

'เพนกวิน' ย้ำทวงคืนสมบัติชาติ

ด้าน 'เพนกวิน' - 'พริษฐ์ ชิวารักษ์' ปราศรัยตอนหนึ่งว่าวันนี้เราจัดแกงหม้อใหญ่ให้เผด็จการไดโนเสาร์หม้อใหญ่ ด้วยเหตุผลที่ฝ่ายเผด็จการ ต้องการใช้ความรุนแรง ถึงขั้นใช้คนเสื้อเหลืองซ้อมปาหินที่สำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ทว่าสิ่งที่พวกเราเคลื่อนไหวด้วยการใช้สันติ เราจะไม่ให้การต่อสู้ของเราไปตกหลุมพรางพวกเผด็จการ พร้อมย้ำเตือนว่าการต่อสู้ของประชาชน คือการทวงคืนภาษีที่พระมหากษัตริย์ถือครอง ผ่านการถือหุ้นบริษัทปูนซีเมนต์รวมถึงธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งควรเป็นเงินของแผ่นดิน และควรนำงบประมาณเหล่านั้น แปลงเป็นรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของทักคนในประเทศนี้ให้ดีขึ้น 

"นี่ไม่ใช่ปฏิบัติการของคนชังชาติ ที่เราออกมาเรียกร้อง เพราะผลประโยชน์ของทุกคน เราจึงออกมาทวงคืนสมบัติชาติคืน" พริษฐ์ ระบุ

ทนายอานนท์ เป็ดเหลือง

'อานนท์' ลั่นมีชุมนุม สนง.ทรัพย์สินฯ แน่

ด้าน อานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร 2563 ปราศรัยว่าการต่อสู้ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมาทำให้ประเด็นการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเพียงของเล่นสำหรับพวกชนชั้นนำ อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้คืนทูลเกล้าฯ ให้พระมหากษัตริย์ใช้จ่ายได้ตามพระราชอัธยาศัย ซึ่งในทางกฎหมายมีปัญหา เนื่องจากมอบอำนาจในการตัดสินใจโอนทรัพย์สินซึ่งเป็นสมบัติชาติได้ ซึ่งเป็นเหตุผลให้ตนออกมาเคลื่อนไหว เพราะอยากเห็นประเทศนี้ไม่ต้องตกอยู่กับผู้ใดผู้นึง เพราะประชาชนล้วนแต่ต้องเสียภาษี 

อานนท์ ยืนยันว่าราษฎรต้องการปฏิรูปไม่ได้ต้องการล้มล้างอย่างที่คนเสื้อเหลืองใส่ความ และอยากเสนอทางออกตามกฎหมาย เราต้องการพระราชบัญญัติจัดการทรัพย์สินฉบับใหม่ ด้วยการโอนคืนงบประมาณที่สูญเสียไปด้วยกระบวนการผ่านรัฐสภา ไม่ต้องเสียเลือดเนื้อกันอีกต่อไป โดยให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้ดูแลทรัพย์สิน สามารถส่งต่องบประมาณส่วนนี้ให้เกิดผลประโยชน์ต่อส่วนรวม 

นอกจากนี้ อานนท์ ประกาศว่าจะมีการชุมนุมที่สำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์แน่นอน อย่าคิดว่าแท่งแบริเออร์หรือการแก๊สน้ำตา จะทำให้ประชาชนหวาดกลัว และจะทำให้ประเทศนี้รัฐประหารไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า "ก่อนสิ้นปีนี้ พบกันแบบเบิ้มๆแน่นอน"

'ส.ศิวรักษ์' ย้ำในหลวง ร.9 รับสั่งไม่ต้องการใช้ ม.112

เวลา 19.00 น. แกนนำได้เปิดบิ๊กเซอร์ไพรส์ คือ สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ นักคิด นักเขียน ร่วมปราศรัยต่อหน้าผู้ชุมนุมในประเด็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศให้ใช้กฎหมายทุกฉบับดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยเฉพาะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 112 ว่า พระมหากษัตริย์ในสมัยรัชกาลที่ 9 รับสั่งไม่ต้องการให้ใช้ มาตรา 112 รวมถึง รัชกาลที่ 10 ที่รับสั่งเช่นเดียวกัน แต่พล.อ.ประยุทธ์ กลับนำมาใช้ถือว่าเป็นการกระทำชั่วร้าย ขัดพระบรมราชโองการ จึงขอให้ประชาชนร่วมกันไล่ พล.อ.ประยุทธ์ออกไปด้วยความเคารพ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :