พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน เปิดการประชุมประจำปี 2562 ของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในหัวข้อ การพัฒนาเชิงพื้นที่ เชื่อมไทย ก้าวไกล เชื่อมโลก
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันที่ดีอีกวันหนึ่ง ที่ได้มาร่วมงานกับสภาพัฒน์ ซึ่งการสัมมนาครั้งนี้ ก็เพื่อหาจุดอ่อนจุดด้อย อุปสรรคต่างๆ ในการกำหนดแผนพัฒนาประเทศ ทั้งเรื่องฝนแล้งน้ำท่วม ประชาชนจะต้องปรับตัว ซึ่งการที่ไทยตั้งอยู่ศูนย์กลางภูมิภาค มีความได้เปรียบในการเชื่อมโยงกับภูมิภาคต่างๆ โดยยอมรับนโยบายพรรคทุกการเมืองดี แต่จะหาเงินมาจัดทำนโยบายจากไหนต้องทำความเข้าใจ คนไทยเก่งทุกคน สติปัญญาไม่ได้ด้อย แต่จะทำอย่างไรให้ร่วมมือกันได้ แต่สังคมปัจจุบันไม่ซ้ายก็ขวา ไม่ผิดก็ถูก แต่ทุกอย่าง จะต้องมีกฏหมายเป็นตัวกำหนด พร้อมยกตัวอย่างการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่บอกให้ไปทำแก้มลิง ไม่ได้หมายความว่า แก้มลิงขนาดเล็กแล้วให้ไปเลี้ยงปลา แต่ให้หาพื้นที่ทำแก้มลิงขนาดใหญ่ เหมือนทำทะเลสาบและช่วงรับน้ำ นอกจากจะเยียวยาแล้ว ให้เลี้ยงปลา แต่ข่าวกลับน้ำเสนอตรงกันข้าม ไม่ใช่สิ่งที่ตนถ่ายทอด ซึ่งหากคิดแบบนั้น ตนคงไม่ต้องมาเป็นนายกรัฐมนตรี หรือแต่เป็นผู้หมู่ก็ยังเป็นไม่ได้
และโอกาสนี้นายกรัฐมนตรี ยังขอให้ทุกหน่วยงานช่วยชี้แจง ไม่ใช่ให้นายกรัฐมนตรีพูดเอง ซึ่งเมื่อพูดแล้วตนก็พูดแรง เช่นเดียวกับถนน 6 เลน ไทยถือว่าดีสุดในอาเซียน แต่สื่อกลับเสนอแต่ถนนที่พังหรือถนนในชนบท ดังนั้นการเสนอข่าวต้องเสนอสิ่งที่ดี มีจรรยาบรรณ ประเทศไทยอยู่ตรงไหนไม่รักประเทศ พร้อมถามกลับไม่รักประเทศกันหรือ แต่ตนยืนยันรักประเทศ มีบางคนเท่านั้นที่ไม่รักประเทศ เช่นเดียวกับปัญหารถติดใน กทม.ซึ่งคนใจร้อน พอตำรวจมาแก้ปัญหาก็ถูกด่า จึงทำให้ไม่มีใครอยากทำงาน
ขณะเดียวกัน ตำหนิข้าราชการที่ไม่แก้ปัญหาเพราะบางเรื่องไม่จำเป็นต้องถึงนายกรัฐมนตรี เพราะบางเรื่องไม่ใช่เรื่องที่จะมาด่านายกรัฐมนตรี หรือ รัฐบาล สามารถชี้แจงแทนได้ แค่อ่านเอกสารหรือหนังสือ ไม่ใช่นั่งอยู่บนหอคอยช้าง พร้อมบอกว่า วันนี้สังคมต้องลดความขัดแย้ง ไม่ใช่สาดน้ำมาแล้วสาดกลับ ก็เปียกทั้งสองฝ่าย แต่สาดข้างเดียวใครจะทนได้ เหรียญมีสองด้าน ไทยต้องเป็นเหรียญดีทั้งสองด้าน สังคมจะแยกแยะได้เอง ใครทำดีไม่ได้
อย่างไรก็ตาม หลังเปิดงานสัมมนา นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปชี้แจงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ มาตรา 152 ปมถวายสัตย์ปฏิญานตน โดยนายกรัฐมนตรีบอกว่าจะอยู่ฟังอภิปรายให้มากที่สุดเท่าที่มีเวลา ขณะเดียวกันในช่วงเย็นนายกรัฐมนตรีและภริยา จะเข้าร่วมพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่พระลานพระราชวังดุสิต จะต้องจับตาดูว่า หลังจากเสร็จพิธีนายกรัฐมนตรีจะกลับเข้าสภาในช่วงค่ำหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
