ไม่พบผลการค้นหา
รมว.ยุติธรรม เป็นประธานลงนาม mou ระหว่างกรมบังคับคดี THAC และ กยศ. เพื่อแก้ไขหนี้ กยศ. ให้แก่ประชาชน และสนับสนุนความร่วมมือในการดำเนินงานด้านการระงับข้อพิพาททางเลือก

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกรมบังคับคดี สถาบันอนุญาโตตุลาการ (Thailand Arbitration Center : THAC) และกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เพื่อช่วยเหลือแก้ไขหนี้ กยศ. ให้แก่ประชาชน และสนับสนุนความร่วมมือในการดำเนินงานด้านการระงับข้อพิพาททางเลือก โดยมี นายเสกสรร สุขแสง อธิบดีกรมบังคับคดี และนายสุริยพงศ์ ทับทิมแท้ ผู้อำนวยการสถาบันอนุญาโตตุลาการ และนายชัยณรงค์ กัจฉปานนท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นผู้ลงนาม

โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งต้องได้รับการแก้ไขอย่างรอบด้าน โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงยุติธรรมได้จัดมหกรรมแก้หนี้ฯ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการแก้หนี้ภาคครัวเรือน และหนี้ กยศ. รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ กยศ. กลุ่มผู้ต้องขัง พักการชำระหนี้ ปลดการค้ำประกัน ดังนั้น เพื่อยกระดับการแก้ไขหนี้ กยศ.ให้คลอบคลุมทั่วประเทศ จึงได้มีการลงนาม MOU ในครั้งนี้ขึ้น โดยกรมบังคับดดีที่มีสำนักงานบังคับคดีอยู่ทั่วประเทศจะประสานกับ กยศ. ในการปรับโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้ กยศ. ให้มีความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย โดยไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางมายังส่วนกลาง รวมทั้งสถาบันอนุญาโตตุลาการที่จะสนับสนุนความร่วมมือในการดำเนินงานด้านการระงับข้อพิพาททางเลือก โดยปรับรูปแบบการดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนยุคปัจจุบัน โดยการระงับข้อพิพาททางออนไลน์ 

ด้านนายเสกสรร สุขแสง อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือกับ กยศ. ในครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง จากเมื่อปี 2558กรมบังคับคดีได้มีการลงนามบันทึกข้อความร่วมมือว่าด้วยการไกล่เกลี่ยลูกหนี้ตามคำพิพากษาในชั้นบังคับคดี ตามนโยบายรัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือน และหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา กรมบังคับคดีพร้อมตอบสนองนโยบายดังกล่าว ซึ่งตามภารกิจของกรมบังคับคดีจะเป็นการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งศาล และการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทหลังศาลมีคำพิพากษาซึ่งเป็นกระบวนการยุติธรรมทางเลือก ประกอบกับกรมบังคับคดีมีความพร้อมเนื่องจากมีหน่วยงานทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ จึงมีศักยภาพที่จะทำหน้าที่ประสานงานระหว่างกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาและผู้กู้ยืมที่อยู่ในส่วนภูมิภาค และเชื่อมั่นว่าการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ จะสามารถช่วยให้ลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ให้ได้รับโอกาสในการทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งผลของการปรับโครงสร้างหนี้จะทำให้ช่วยลดการถูกฟ้องเป็นคดีแพ่ง รวมถึงการถูกบังคับคดี และเป็นการขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลและนโยบายกระทรวงยุติธรรมในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องปัญหาหนี้สินครัวเรือนและเป็นการลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสในการเข้าถึงการให้บริการงานยุติธรรมแก่ประชาชน อย่างเสมอภาค และเท่าเทียมต่อไป