รอยเตอร์ รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตรวมสะสมอย่างน้อย 65 รายในฉนวนกาซา หลังความรุนแรงยกระดับในวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากการปะทะกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลและกลุ่มผู้ประท้วงปาเลสไตน์ ณ สถานที่สำคัญทางศาสนาอิสลามและสถานที่สำคัญทางศาสนาของชาวยิวในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

หนึ่งในชนวนสำคัญของการยกระดับความรุนแรงคือวันที่ 4 พ.ค. ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนรอมฎอน ชาวปาเลสไตน์จำนวนมากรวมตัวกันที่มัสยิดอัลอักซอเพื่อประกอบศาสนกิจ ซึ่งขัดต่อความต้องการของอิสราเอลถึงขั้นพยายามปิดกันไม่ให้ผู้คนเข้าไปยังมัสยิดได้ นำไปสู่การที่กองทัพอิสราเอลปฏิบัติการสลายการชุมนุมด้วยอาวุธ มีการยิงกระสุนโลหะหุ้มยาง แก๊สน้ำตา เข้าไปในพื้นที่ของมัสยิดที่มีผู้คนกำลังละหมาดอยู่ภายใน

‘ฮามาส’ ซึ่งควบคุมฉนวนกาซาขีดเส้นตายให้อิสราเอลยุติความรุนแรง แต่ไม่เป็นผล ท้ายที่สุดจึงตอบโต้ด้วยการยิงจรวดเข้าไปยังพื้นที่ของอิสราเอลจำนวนหลายร้อยลูก สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับผู้คนและอาคารบ้านเรือนในเยรูซาเลมและพื้นที่อื่นๆ

ขณะที่กองทัพอิสราเอลนั้นก็ตอบโต้อย่างรุนแรง ด้วยการโจมตีทางอากาศ มุ่งเป้าไปที่เขตอิทธิพลของรัฐบาลฮามาสอย่าง 'ฉนวนกาซา'

อาคารสูงสำคัญของฉนวนกาซาได้รับความเสียหายอย่างหนักในวันที่ 11 พ.ค. หนึ่งในผู้เสียชีวิตคือ ‘ผู้บังคับบัญชาการอาวุโสกลุ่มติดอาวุธฮามาส’ ทำให้กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ยิงจรวดกลับเข้าไปยังพื้นที่กรุงเทลอาวีฟ เมืองหลวงของอิสราเอล

จำนวนผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาที่มีการรายงานแล้วคือ 65 ราย มีเด็กรวมอยู่ในจำนวนนี้ราว 14 ราย ขณะที่ฝั่งอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย

ความวุ่นวายดำเนินอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของอิสราเอล โดยมีการก่อจลาจลของชาวอิสราเอลเชื้อสายอาหรับ มีการเผยแพร่ภาพการจุดไฟเผาสิ่งของต่างๆ ทั้งรถยนต์และยางรถในเมืองล็อด หลายคนได้ขว้างปาก้อนหินใส่ฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเจ้าหน้าที่ใช้ ‘ระเบิดแสง’ ในการตอบโต้กลับ มีรายงานการเผาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิว และมีชาวยิวปาก้อนหินใส่รถยนต์ที่คนขับเป็นชาวอาหรับ

การประท้วงในเมืองล็อดนั้นมีขึ้นหลังจาก ‘ชายชาวอิสราเอลเชื้อสายอาหรับ’ เสียชีวิตลงในเหตุการปะทะกัน

นายกเทศมนตรีของเมืองเปรียบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นดั่ง "สงครามกลางเมือง" ทำให้ขณะนี้รัฐบาลอิสราเอล ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ได้ประกาศสภาวะฉุกเฉินในเมืองล็อดเรียบร้อยแล้ว นับเป็นครั้งแรกที่มีการบังคับใช้กฎหมายนี้กับชุมชนชาวอาหรับใน ประเทศอิสราเอลในรอบ 55 ปี