นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการน้ำเฉพาะกิจกล่าวว่าศูนย์อำนวยการน้ำเฉพาะกิจ ได้ออกประกาศฉบับที่ 5 เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำเนื่องจากอิทธิพลของดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ หลังกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดหมายลักษณะอากาศมีพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณเกาะไหหลำประเทศจีนอยู่ห่างประมาณ 400 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ ของเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ 3 (พายุโซนร้อน) ในระยะต่อไป โดยพายุดังกล่าวไม่ได้เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ส่งผลให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ช่วงวันที่ 2-3 ก.ย. 2562 ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและด้านตะวันตกของประเทศ 

ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยการน้ำเฉพาะกิจ ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำที่ผ่านมามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากอิทธิพลพายุโซนร้อน "โพดุล" บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบันมีน้ำล้นตลิ่ง คือ แม่น้ำยม จ.แพร่ ลำน้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ แม่น้ำน่าน จ.พิษณุโลก ลำน้ำเข็ก จ.พิษณุโลก แม่น้ำป่าสัก จ.เพชรบูรณ์ ห้วยหลวง จ.อุดรธานี แม่น้ำสงคราม จ.สกลนคร ลำน้ำยัง จ.กาฬสินธุ์ จ.ร้อยเอ็ด จ.ยโสธร และลำเซบาย จ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี พร้อมคาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ดังกล่าวส่งผลให้สถานการณ์น้ำทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ประกอบกับ สปป.ลาว และไทยยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่องทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันระดับต่ำกว่าตลิ่ง 1.68 เมตรส่งผลให้ระดับน้ำล้นตลิ่งภายใน 24 ชั่วโมง

ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการน้ำเฉพาะกิจ กล่าวย้ำว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศ และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง พร้อมพิจารณาความเหมาะสมการระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำมากกว่าเกณฑ์ควบคุมระดับน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve) ป้องกันการเกิดเหตุการณ์น้ำล้นอ่างเก็บน้ำ ที่จะส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ท้ายอ่างเก็บน้ำ โดยเร่งระบายน้ำในลำน้ำต่างๆ รองรับปริมาณฝนที่ตกหนัก สนับสนุนเครื่องจักรเครื่องมือในการให้ความช่วยเหลือ พร้อมประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบด้วย เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ฝนที่จะตกหนักช่วงวันที่ 2-4 ก.ย. นี้