วันที่ 15 มิ.ย. 2565 ที่อาคารรัฐสภา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ที่จะมีร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิตของคณะรัฐมนตรีมาประกอบว่า พรรคก้าวไกลมีการต่อสู้และยื่นร่างมาตั้งแต่ปี 2563 จนถึงวันนี้ต้องขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนร่วมและคณะทำงาน ในการผลักดันให้เข้าสู่การพิจารณา ซึ่งการที่จะมีสมรสเท่าเทียมจะต้องมีกฎหมายกำกับเป็นกฎหมายเดียวกัน ไม่ควรมีกฎหมายเฉพาะ ซึ่งผลในวันนี้จะเป็นเช่นไรพาก้าวไกลก็พร้อมที่จะยอมรับ
ด้าน ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เผยว่า จากการสอบถามความเห็นหน่วยงานราชการเช่น กระทรวงยุติธรรม กรมคุ้มครองสิทธิ์ และหน่วยงานด้านการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีความเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม และไม่เห็นในการปัญหาการปฏิบัติงาน แต่มีปัญหาคือกฤษฎีกา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ไม่ได้มีความปฏิสัมพันธ์ในการทำงานกับคน และทำในเรื่องกฎหมายเท่านั้นแต่ไม่รับฟังความเห็น สะท้อนว่าประเทศไทยชินกับระบบจากบนลงล่าง และนี่คือการสื่อสารแบบโครงสร้างอำนาจนิยม
ธัญวัจน์ เรียกร้องไปยังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่าน ถึงแม้ว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) และวิปรัฐบาลจะไม่รับร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมแต่ ส.ส.ทุกคนมีเอกสิทธิ และรู้ดีว่าประชาชนต้องการอะไร ย้ำว่าเราไม่ได้ขอสิทธิ แต่ขอทวงสิทธิที่ถูกพรากออกไป ซึ่ง ส.ส.ทุกคนที่ยึดมั่นในเอกสิทธิของตนเอง คือ ส.ส.ที่เป็นความหวังของประเทศ ขออย่าให้ประชาชนสิ้นศรัทธากับระบบกลไกรัฐสภา เพราะนั่นหมายถึงความมั่นคงของ ส.ส.ทุกท่านก็ไม่มีความหมาย
พิธา ยังยืนยันว่า จุดยืนของพรรคก้าวไกลจะเปิดใจรับฟัง ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต หลังวิปฝ่ายค้านไม่เห็นชอบการประกอบร่างทุกฉบับพิจารณาร่วมกัน ส่วนท่าทีการโหวตก็จะมีการพิจารณาอีกครั้ง แต่คงคิดว่าจะไม่แตกต่างจากมติฝ่ายค้าน