ไม่พบผลการค้นหา
หากไม่มีอุบัติเหตุทางการเมือง หรือความพยายามในการเตะถ่วง การเลือกตั้งทั่วไปของประเทศไทยกำลังเข้าใกล้มาเรื่อยๆ ท่ามกลางกระแสความเบื่อหน่ายรัฐบาลชุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งปกครองประเทศมานานเกินกว่า 8 ปีแล้ว

ในขณะที่ความเบื่อหน่ายต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ กลับเกิดกระแสเรียกร้อง “แลนด์สไลด์” ฝ่ายค้านชุดปัจจุบัน ที่แปรผันตามกันไปกับความเดือดร้อนของประชาชน กระแสแลนด์สไลด์เกิดขึ้นเพื่อความหวังว่า พรรคการเมืองฝ่ายค้านปัจจุบัน จะสามารถรับเลือกให้มีเสียงเกิน 376 ที่นั่ง ในการจัดตั้งรัฐบาลชุดหน้า และเอาชนะเสียง 250 ส.ว.ที่ พล.อ.ประยุทธ์มีในมืออยู่แต่แรกแล้ว

ไม่ใช่ว่าประเทศไทยไม่เคยเกิดชัยชนะแลนด์สไลด์ของพรรคการเมืองขั้วประชาธิปไตย เพราะในการเลือกตั้งทั่วไปยุค ทักษิณ ชินวัตร ทั้งสองสมัยในปี 2544 และ 2548 ตอกย้ำด้วยชัยชนะอีกครั้งของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี 2554 ช่วยส่งสัญญาณความหวังว่า พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยจะยังคงมีความหวังในการกลับมาบริหารประเทศอีกครั้ง แม้กลไกทางรัฐธรรมนูญปัจจุบันจะไม่เอื้อก็ตาม แต่ “เสียง” ของประชาชนย่อมเป็นตัวกำหนดอนาคตหลังการเลือกตั้งในปี 2566 ที่จะถึงนี้

เป็นเวลากว่า 11 ปี ที่ประเทศไทยห่างหายจากชัยชนะแลนด์สไลด์ของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และระหว่าง 8 ปีที่ประชาธิปไตยไทยถดถอย หลายประเทศทั่วโลกที่กลไกประชาธิปไตยทำงานเป็นปกติผ่านการเลือกตั้งนั้น เกิดชัยชนะแลนด์สไลด์หลังการเลือกตั้งในหลายแห่ง ‘วอยซ์’ ชวนย้อนดูชัยชนะแลนด์สไลด์ในประเทศเหล่านั้น เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่คนไทยจะกำปากกาในมือ ไปเลือกพรรคฝ่ายประชาธิปไตยให้เกิดผลการเลือกตั้งแลนด์สไลด์ในอนาคต

ถูกกล่าวหาว่าอ่อนประสบการณ์ ก่อน ‘ทรูโด’ คว้าแลนด์สไลด์ถล่ม รบ.เก่า

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2558 ในการเลือกตั้งทั่วไประดับรัฐบาลกลางแคนาดา ครูโรงเรียนวัย 43 ปี อย่าง จัสติน ทรูโด ลูกชายอดีตนายกรัฐมนตรี ปีแอร์ ทรูโด ระหว่างปี 2511 ถึง 2527 คว้าชัยชนะแลนดสไลด์ ด้วยการคว้าที่นั่งในรัฐสภาแคนาดาไปกว่า 184 ที่นั่ง นับเป็น 39.47% ของคะแนนทั้งหมด โค่นอดีตนายกรัฐมนตรีฝ่ายอนุรักษนิยมอย่าง สตีเฟน ฮาร์เปอร์ ที่ได้ที่นั่งไปเพียงแค่ 99 ที่นั่ง ลดลงจากที่นั่งเดิมที่ตัวเองเคยมีไปกว่า 60 ที่นั่ง ในขณะที่คะแนนที่นั่งของพรรคทรูโดคว้าที่นั่งเพิ่มขึ้นมาได้กว่า 148 ที่นั่ง

แม้ทรูโดในอดีต ซึ่งเพิ่งลงเล่นการเมืองในพรรคเสรีนิยม จะยังคงมีบาดแผลจากความพ่ายแพ้ในปี 2554 หลังจากพรรคอุดมการณ์ซ้ายกลางของเขาได้ที่นั่งย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ 34 ที่นั่ง จากที่นั่งในรัฐสภาแคนนาดากว่า 338 ที่นั่ง แต่ 184 ที่นั่งที่ทรูโดได้มาจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2558 เป็นตัวการันตีว่า นายกรัฐมนตรีหนุ่มไฟแรงของแคนาดาผู้นี้ สามารถครองเสียงข้างมากของรัฐสภาแคนดาได้สำเร็จ

317014235_1238471183731458_696775161812376320_n.jpg

ชัยชนะของพรรคเสรีนิยมแคนาดา เป็นผลงานของใครไปมิได้นอกจากทรูโดเอง นายกรัฐมนตรีหนุ่มชาวแคนาดาเดินเกมหาเสียงเชิงบวกด้วยความมีวินัยและมุ่งมั่น และต่อต้านการกล่าวโจมตีพรรคขั้วตรงข้าม รวมถึงนายกรัฐมนตรีแคนาดาในขณะนั้นอย่างฮาร์เปอร์ ซึ่งคอยหาเสียงกล่าวบริภาษทรูโดว่ายังคงอ่อนหัดประสบการณ์ทางการเมือง “เราเอาชนะความเห็นถากถางดูถูกด้วยการทำงานหนัก เราเอาชนะการเมืองเชิงลบและแตกแยก ด้วยวิสัยทัศน์เชิงบวกที่นำชาวแคนาดามารวมตัวกัน” ทรูโดกล่าวในการหาเสียงปีนั้นที่มอนทรีออล

ในขณะที่ทรูโดมีภาพของการเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง และการหาเสียงเชิงบวกที่เป็นภาพขั้วตรงข้ามกับฮาร์เปอร์ที่คอยวาดภาพว่าทรูโดเป็นคนอ่อนประสบการณ์ ฮาร์เปอร์เองที่เป็นผู้นำแคนาดามาแล้วกว่าเกือบทศวรรษ กำลังมีคะแนนนิยมที่ตกต่ำ หลังจากการใช้นโยบายที่ซ้ำซากและไม่ตอบโจทย์กับแคนาดาที่กำลังเดินไปข้างหน้า ผลสำรวจของ WorldViews ในปีนั้นพบว่า ประชาชนกว่า 71% ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล รวมถึงแนวคิดของฮาร์เปอร์เองที่มีแนวโน้มเป็นพวกเกลียดกลัวอิสลาม และไม่เชื่อเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก

ทรูโดที่หาเสียงด้วยนโยบายที่ทันสมัยและก้าวไปข้างหน้า เช่นเดียวกันกับนโยบายสีเขียว ช่วยถูกขับเน้นให้เด่นชัด หลังจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของแคนาดาในยุคฮาร์เปอร์ ผูกติดอยู่กับอุตสาหกรรมเหมืองแร่และพลังงานที่มากขึ้นเรื่อยๆ The Wall Street Journal รายงานอีกว่า แคนาดาในปี 2558 เป็นประเทศเดียวในกลุ่มชาติ G7 ที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ 2 ไตรมาสลดลงติดต่อกัน แม้ว่าฮาร์เปอร์จะออกนโยบายลดภาษีแล้วก็ตาม

ชัยชนะของทรูโดยังโค่นล้มฮาร์เปอร์ได้อย่างเด็ดขาด อดีตนายกรัฐมนตรีตัดสินใจลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมของตน เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความพ่ายแพ้ดังกล่าว นโยบายที่ทรูโดชูในการเลือกตั้งปี 2558 ยังคงค้านกันกับแนวคิดของฮาร์เปอร์ กล่าวคือ ทรูโดเสนอการขึ้นภาษีต่อคนรวย ส่งเสริมการใช้จ่ายของภาครัฐในภาคโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและโครงการใหญ่อื่นๆ และตั้งเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นวาระแห่งชาติ

ในการหาเสียงของแคนาดา พรรคอนุรักษนิยมยังโจมตีพรรคเสรีนิยมในกรณีการรับผู้อพยพมุสลิม และการต่อต้านการก่อการร้าย อย่างไรก็ดี แนวทางของพรรคอนุรักษนิยมดังกล่าวกลับไม่ได้ทำให้่ชาวแคนาดาหันไปเลือกพรรคที่ครองอำนาจมานานกว่าเกือบทศวรรษ ในทางตรงกันข้าม ทรูโดกลับได้รับความนิยมมากขึ้น หลังเขาขึ้นปราศรัยระบุว่า ข้อหาการกล่าวโจมตีชาวมุสลิม เป็นภาพสะท้อนขบวนการต่อต้านชาวยิวที่เคยเกิดขึ้นในแคนาดา ทรูโดเปิดรับความหลากลายทางสังคมมากขึ้น ส่งผลให้เขาได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งมากขึ้นตามไปด้วย เขายังระบุว่าแคนาดาภายใต้การบริหารงานของตน จะเป็นไปเพื่อ “คนแคนาดาทุกคน”

‘อาร์เดิร์น’ คว้าแลนด์สไลด์ เหตุประชาชนไว้ใจ คุมโควิดอยู่หมัด

จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เพิ่งคว้าชัยชนะอีกครั้ง จากผลการเลือกตั้งแลนด์สไลด์ระดับชาติ จนทำให้พรรคแรงงานของเธอสามารถจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ที่มีเสียงเกินครึ่งของรัฐสภาเพียงพรรคเดียวในรอบ 2 ทศวรรษของนิวซีแลนด์ ชัยชนะอย่างถล่มทลายของอาร์เดิร์น เป็นผลมาจากนโยบายการควบคุมการระบาดโควิด-19 ของนิวซีแลนด์ ภายใต้รัฐบาลของเธอที่มีประสิทธิภาพ

ในการเลือกตั้งเมื่อ 2 ปีก่อนของนิวซีแลนด์ พรรคแรงงานของอาร์เดิร์นคว้าเสียงรับเลือกจากประชาชนมากกว่า 2 เท่าตัวจากพรรคคู่แข่งของพวกเธออย่างพรรคเนชันแนล ซึ่งมีอุดมการณ์อนุรักษนิยม ชัยชนะของอาร์เดิร์นเป็นการยืนยันมติของประชาชนที่ไว้วางใจพรรคแรงงาน ในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ตลอดจนนโยบายด้านเศรษฐกิจอื่นๆ ที่ส่งเสริมให้เกิดความเป็นธรรมเท่าเทียมทางสังคม

313914575_1195700187690240_4424345793105004250_n.jpg

ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2563 ของนิวซีแลนด์ นอกจากผลงานจากการควบคุมการระบาดโควิด-19 แล้ว อาร์เดิร์นยังชูนโยบายการเพิ่มการเก็บภาษีต่อคนรวย 2% ในขณะที่พรรคอนุรักษนิยมกลับเสนอนโยบายการลดภาษีคนรวยชั่วคราว เพื่อหวังว่าการลดภาษีดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ซึ่งยังผลมาถึงการประกาศปิดพรมแดนและล็อกดาวน์ประเทศ

สำหรับประชาชนชาวนิวซีแลนด์ในการเลือกตั้งครั้งนั้น ส่วนใหญ่มุ่งความสนใจของตนไปที่นโยบายการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ประชาชนตบรางวัลให้แก่อาร์เดิร์น ด้วยการเลือกเธอกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกรอบ หลังจากที่รัฐบาลพรรคแรงงานสามารถควบคุมการระบาดด้วยการปิดเมือง แต่เธอกลับจ่ายเงินชดเชยให้แก่ภาคธุรกิจและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งช่วยป้องกันประชาชนให้รอดพ้นจากการถูกบอกเลิกจ้างงานในช่วงการระบาดได้ดี

ในห้วงของการระบาดของโควิด-19 ในนิวซีแลนดเ์ ซึ่งค่อนข้างมีบริบทการแพร่ระบาดของเชื้อแตกต่างจากประเทศในเอเชีย อาร์เดิร์นเดินตามแผนการการขจัดไวรัส แทนการชะลอการแพร่ระบาดของเชื้อแทน นิวซีแลนด์ในห้วงการเลือกตั้งเมื่อปี 2563 มีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพียงแค่ 1,500 ราย และเสียชีวิตเพียงแค่ 25 ราย จากจำนวนประชากรประเทศที่มีอยู่ประมาณ 5 ล้านคน ตัวเลขดังกล่าวเอื้อให้พรรคแรงงานของอาร์เดิร์นมีความชอบธรรม และพรรคเนชันแนลซึ่งเป็นฝ่ายค้านไม่มีช่องว่างในการโจมตีรัฐบาลของอาร์เดิร์น ในเรื่องความล้มเหลวต่อการจัดการกับการแพร่ระบาด

การประกาศล็อกดาวน์ของนิวซีแลนด์ใน 2 ปีก่อน ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศหดตัวลงเป็นประวัติการณ์ที่ 12.2% ในไตมาสที่ 2 ของปี แต่รัฐบาลพรรคแรงงานกลับพยายามช่วยผู้ตกงาน ที่ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือ จนอัตราการว่างงานของนิวซีแลนด์กลับไม่ได้ปรับตัวพุ่งขึ้นสูงมาก รัฐบาลของอาร์เดิร์นยังจ่ายเงินสนับสนุนค่าจ้าง และเงินชดเชยต่างๆ ที่ทำให้ประเทศมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นกว่า 20% จากอัตรา GDP อย่างไรก็ดี มาตรการดังกล่าวช่วยลดตวามบอบช้ำของประชาชนจากการระบาดได้ดี จนผลสำรวจคะแนนนิยมของนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์พุ่งขึ้นสูงถึง 60% ก่อนการเลือกตั้ง 

ในการแถลงถึงชัยชนะของอาร์เดิร์น เธอตระหนักได้ถึงคะแนนจากประชาชนจำนวนมาก ซึ่งปกติแล้วไม่ได้โหวตเสียงตัวเองให้กับพรรคแรงงาน จนทำให้พรรคของเธอคว้าชัยชนะแลนด์สไลด์มาได้อย่างง่ายดายว่า “เรากำลังอยู่ในโลกที่มีการแบ่งขั้วมากขึ้น สถานที่ที่ผู้คนจำนวนมากสูญเสียความสามารถในการมองเห็นมุมมองของกันและกัน” อาร์เดิร์นกล่าว “ดิฉันหวังว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ นิวซีแลนด์ได้แสดงให้เห็นว่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราเป็น ในฐานะประเทศที่เราสามารถรับฟังและถกเถียงกันได้”

อาร์เดิร์นยังได้รับคะแนนนิยมหลังจากที่เธอกลายมาเป็นแม่ของลูก ขณะกำลังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์ เธอยังตอบรับกับเหตุการกราดยิงในมัสยิดไครสต์เชิร์ชเมื่อปี 2562 ด้วยความเห็นอกเห็นใจต่อเหยื่อของผู้ก่อการร้าย ภาพของอาร์เดิร์นในการแถลงแต่ละครั้ง สะท้อนภาวะการส่งข้อความจากใจจริงและจริงใจของเธอในฐานะผู้นำมายังประชาชนของตัวเอง

ตอกหน้าจีนแผ่นดินใหญ่ ‘ไช่’ คว้าแลนด์สไลด์ต้าน “จีนเดียว”

ในปีเดียวกันก่อนชัยชนะของอาร์เดิร์น รัฐบาลภายใต้การนำของ ไช่อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน คว้าชัยชนะแลนด์สไลด์ หลังท่าทีที่แข็งกร้าวและการประกาศต่อต้านการรวมชาติจีนอย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลให้มีประชาชนกว่า 8 จาก 14 ล้านคนที่ออกมาเลือกตั้งทั่วประเทศ ตัดสินใจลงคะแนนเสียงให้แก่ไช่และพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าของเธอ ซึ่งเป็นคะแนนรับเลือกประธานาธิบดีไต้หวันที่สูงที่สุด เท่าที่ไต้หวันเคยมีมา นับตั้งแต่การจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีทางตรงในปี 2539 ทั้งนี้ พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าของไช่ยังคว้าเสียงข้างมากในรัฐสภาไต้หวันอีกด้วย

ไช่เอาชนะ หานกั๋วหยู หัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งปัจจุบันมีนโยบายที่ใกล้ชิดกับจีนคอมมิวนิสต์แผ่นดินใหญ่ ไปได้อย่างง่ายดาย โดยหลังชัยชนะซึ่งประกาศเจตนารมณ์ของคนไต้หวันว่า พวกตนไม่ต้องการรวมชาติกับจีนแผ่นดินใหญ่ ไช่ได้ออกมากล่าวสุนทรพจน์ว่า “การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับว่า เราเลือกเสรีภาพและประชาธิปไตยหรือไม่” ก่อนกล่าวย้ำว่า “เราต้องลงแรงเพื่อรักษาประเทศของเราให้ปลอดภัย และปกป้องอธิปไตยของเรา”

312216983_868672480806823_8565147971097517480_n.jpg

อย่างไรก็ดี ชัยชนะของไช่เกิดขึ้นหลังจากความพ่ายแพ้ของเธอและพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ในการเลือกตั้งกลางสมัยของไต้หวันเมื่อปี 2561 ทั้งนี้ ชัยชนะแลนด์สไลด์ของไช่เมื่อ 2 ปีก่อน นับเป็นการกลับมาอีกครั้งของไช่ หลังจากเธอสามารถบริหารให้เศรษฐกิจของไต้หวันกลับมาดีขึ้นเรื่อยๆ ตลอดจนความผิดพลาดของฝ่ายค้านในไต้หวัน และการปราบปราบการประท้วงอย่างหนักในฮ่องกง ซึ่งทำให้คนรุ่นใหม่ของไต้หวันหยาดแขยง หากไต้หวันจะต้องตกไปอยู่ภายใต้การปกครองของจีนแผ่นดินใหญ่

ความก้าวร้าวของจีนที่เพิ่มมากขึ้น หลังไช่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งสมัยแรกเมื่อปี 2559 ผ่านการส่งเรือรบเข้ามายังช่องแคบไต้หวัน กลับช่วยผลักดันให้ชาวไต้หวันสนับสนุนการขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีต่อในอีกสมัยของไช่ และการครองเสียงข้างมากในรัฐสภาของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ในการปกครองไต้หวันวาระแรก จีนแผ่นดินใหญ่ตัดการพูดคุยกับไต้หวัน และพยายามดึงดูดให้ประเทศต่างๆ เลืกยอมรับสถานะไต้หวันเป็นประเทศ และหันมารับรองว่าในโลกนี้มีเพียงแค่จีนเดียว

“ผลการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น พวกเขาแสดงให้เห็นว่า เมื่ออำนาจอธิปไตยและประชาธิปไตยของเราถูกคุกคาม ชาวไต้หวันจะตะโกนกลับไป ถึงความมุ่งมั่นของเราให้ดังกว่าเดิม” ไช่กล่าว “ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีแต่ละครั้ง ไต้หวันจะแสดงให้เห็นว่าเราทะนุถนอมวิถีชีวิตประชาธิปไตยแบบเสรีของเรามากเพียงใด และเรารักชาติของเรามากเพียงใด” ประธานาธิบดีไต้หวันกล่าวย้ำ

คู่แข่งของไช่อย่างหานจากพรรคกีกมินตั๋ง ซึ่งเคยเป็นพรรคเผด็จการปกครองไต้หวันและต่อต้านจีนคอมมิวนิสต์ ก่อนการเปลี่ยนแปลงประเทศสู่ระบอบประชาธิปไตย และการที่ก๊กมินตั๋งค่อยๆ มีท่าทีที่ประนีประนอมกับจีนมากขึ้น ด้วยส่งเสริมนโยบายการรวมชาติ ยิ่งทำให้หานมีคะแนนนิยมในการเลือกตั้งระดับชาติที่ตกต่ำลง รวมถึงผู้ท้าชิงตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาไต้หวันที่สนับสนุนการรวมชาติ ก็ต่างได่รับคะแนนนิยมที่ตกต่ำลงด้วยเช่นกัน

ชัยชนะของไช่และพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าอย่าวแลนด์สไลด์ของเธอ เป็นข้อพิสูจน์การเติบโตทางประชาธิปไตยของไต้หวัน แม้ว่าในช่วงก่อนการเลือกตั้งจะมีการปล่อยข่าวปลอม และการรณรงค์ในทางการเมืองที่ดูแปลกๆ จนประชาชนตั้งข้อสงสัยว่า โฆษณสชวนเชื่อต่างๆ อาจถูกส่งมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ 

หานที่นำพรรคก๊กมินตั๋ง ประกาศความใกล้ชิดกับจีนด้วยเหตุผลทางด้านเศรษฐกิจ เป็นที่ถูกใจของประชากรกลุ่มสูงวัยของไต้หวัน ในขณะที่ไช่ซึ่งนำพรรคประชาธิปไตยประกาศนโยบายของพรรคอย่างชัดเจนว่า ตัวเธอและพรรคจะเดินหน้าปกป้องประชาธิปไตยของไต้หวัน สามารถดึงแรงสนับสนุนและคะแนนเสียงจากคนรุ่นใหม่มหาศาลมาในการเลือกตั้งเมื่อ 2 ปีก่อนอย่างง่ายดาย เพื่อต่อต้านการปกครองที่เรียกว่า “หนึ่งประเทศ สองระบบ” จากจีนคอมมิวนิสต์แผ่นดินใหญ่ ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งระดับท้องถื่นที่ผ่านมา พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าประสบกับความพ่ายแพ้อีกครั้ง เนื่องจากการชูนโยบายต่อต้านจีนเดียวในระดับท้องถิ่นไม่เป็นผลเท่าการชูนโยบายเศรษฐกิจปากท้อง ส่งผลให้ไช่ตัดสินใจลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค

“ทำเบร็กซิทให้แล้วเสร็จ” ‘จอห์นสัน’ คว้าแลนด์สไลด์สหราชอาณาจักร

ก่อนที่การเมืองสหราชอาณาจักรจะเกิดความวุ่นวายในรอบปีที่ผ่านมา บอริส จอห์นสัน อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เพิ่งนำชัยชนะแลนด์สไลด์มาให้แก่พรรคอนุรักษนิยมของตน จากการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2562 ส่งผลให้พรรคแรงงานฝ่านค้านประสบกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ ชัยชนะแลนด์สไลด์ของพรรคอนุรักษนิยมภายใต้การนำของจอห์นสัน ด้วยการได้เก้าอี้ ส.ส.มากว่า 365 ที่นั่ง นับเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของพรรค นับตั้งแต่ยุคสมัยของ มาร์กาเรต แทตเชอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรในปี 2530

อย่างไรก็ดี ชัยชนะของจอห์นสันได้รับอิทธิพลจากการรณรงค์ว่า ตนจะกลับมา “ทำเบร็กซิทให้แล้วเสร็จ” หลังจากการเจรจาเพื่อหาข้อตกลงจากการออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรยังคงค้างคา ก่อนที่สหราชอาณาจักรจะออกจากสหภาพยุโรปได้สำเร็จในปีต่อมา หลังผลการเลือกตั้งแลนด์สไลด์ของจอห์นสัน

315421882_682186643313850_2497797763111303002_n.jpg

ชัยชนะของจอห์นสัน ส่งผลให้ เจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคแรงงาน ที่เป็นรู้จักกันดีในวงกว้าง ตัดสินใจลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคทันที เนื่องจากผลการเลือกตั้งในครั้งนั้น พรรคแรงงานเสียที่นั่ง ส.ส.ของตนเองไปกว่า 59 ที่นั่ง และเก้าอี้ส่วนใหญ่ที่พรรคแรงงานเสียไป กลับตกไปเป็นพรรคอนุรักษนิยม ที่ชูนโยบายการเดินหน้านำสหราชอาณาจักรออกจา่กสหภาพยุโรป หลังผลประชามติเมื่อปี 2559 ชี้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศต้องการนำสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป

การเมืองสหราชอาณาจักรในช่วง 3 ปีหลังจากผลประชามติการนำสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป พบเข้ากับทางตันมากมาย ส่งผลให้นายกรัฐมนตรีจากพรรคอนุรักษนิยมอย่าง เดวิด คาเมรอน และ เทเรซา เมย์ ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เนื่องจากตนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเบร็กซิทได้ 

อย่างไรก็ดี ภายใต้การขึ้นมาของจอห์นสันในฐานะหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมและนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และการชูนโยนบายว่า ตนจะนำสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปให้ได้ กลับทำให้เขาชนะการเลือกตั้ง และหลุดออกจากทางตันที่พรรคอนุรักษนิยมประสบมาตลอด 3 ปี  การชูนโยบายที่เด่นชัดว่า ตนจะบรรลุการนำสหราชอาณาจักรออกจาหสหภาพยุโรป ท่ามกลางความแตกแยกกันในชาติ ทำให้พรรคอนุรักษนิยมภายใต้จอห์นสันคว้าที่นั่ง ส.ส. 365 จาก 650 ที่นั่งของรัฐสภาสหราชอาณาจักร กลายเป็นชัยชนะแลนด์สไลด์อย่างง่ายดาย

หลังจากชัยชนะแลนด์สไลด์ จอห์นสันสามารถเดินหน้านำสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปได้ภายใต้เส้นตาย 31 ต.ค. อย่างไรก็ดี รัฐบาลของจอห์นสันกับเจอกับภัยคุกคามใหม่ หลังจากโควิด-19 เริ่มระบาดในสหราชอาณาจักร รัฐบาลจอห์นสันถูกมองว่าล้มเหลวในการจัดการสถานการณ์ของการระบาดและเศรษฐกิจประเทศ ที่รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ อย่างไรก็ จอห์นสันสามารถประคองรัฐบาลของตนให้อยู่รอดต่อไปได้ เช่นเดียวกันกับตัวเขาเองที่หายดีจากการติดเชื้อโควิด-19

จอห์นสันเจอกับข้อกล่าวหาการทุจริตในเรื่องกองทุนที่ใช้จ่ายค่าปรับปรุงบ้านเลขที่ 11 ถนนดาวนิง ซึ่งเป็นบ้านพักจริงของนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ติดกันกับบ้านหมายเลขที่ 10 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสำนักนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร โดยคณะกรรมการสอบสวนพบว่า พรรคอนุรักษนิยมของจอห์นสันไม่ได้รายงานการรับเงินบริจาคอย่างถูกต้อง ส่งผลให้พรรคของเขาถูกปรับเงินร่วม 8 แสนบาท จอห์นสันยังถูกกล่าวหาว่าปกป้องพันธมิตรของตนเองจากข้อหาการทุจริตอีกด้วย

จุดจบของจอห์นสันในฐานะหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมและนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรเกิดขึ้น หลังจากเกิดมหกรรมการแฉนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรอย่างรุนแรงว่า จอห์นสัน ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลที่ประกาศกฎการล็อกดาวน์และการกักตัว กลับเป็นคนแหกกฎดังกล่าวด้วยการจัดงานเลี้ยง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ในสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีของพรรคอนุรักษินยมเข้ามารวมตัวกันอย่างใกล้ชิด คณะสืบสวนพบว่าจอห์นสันมีความผิดในการแหกกฏคุมโควิด-19 จริงจากการจัดงานฉลองสังสรรค์ ในขณะที่มีประชาชนเสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวนมหาศาล

การแหกกฎโควิด-19 ของจอห์นสัน ถูกซ้ำเติมด้วยภาวะเงินเฟ้อจากการระบาดโควิด-19 และสงครามในยูเครน ผลกรรมของจอห์นสันกลับมาเล่นงานเขาในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ซึ่งพรรคอนุรักษนิยมประสบกับความพ่ายแพ้ หลังจากผลการเลือกตั้งออกมาว่า พรรคอนุรักษนิยมสูญเสียที่นั่งในสภาท้องถิ่นไปกว่าเกือบ 500 ที่นั่ง 

ความมั่นใจต่อการเป็นผู้นำของจอห์นสันถูกสั่นคลอน เข้าถูกสมาชิกพรรคอนุรักษนิยมเปิดมติไม่ไว้วางใจ แม้ว่าจอห์นสันจะยังคงได้รับคะแนนไว้วางใจในตอนนั้น แต่คณรัฐมนตรีของเขาหลายคนเริ่มทำการลาออก เพื่อกดดันให้จอห์นสันลาออกจากเก้าอี้หัวหน้าพรรค จนกระทั่งนายกรัฐมนตรีที่คว้าชัยชนะแลนด์สไลด์มาให้แก่พรรคอนุรักษนิยมได้เมื่อปี 2562 ต้องตัดสินใจลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคเสียเอง ก่อนที่สหราชอาณาจักรจะพบกับความวุ่นวายทางการเมือง ภายใต้การนำของ ลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีเดือนครึ่ง กับ ริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ที่ยังคงต้องเข้ามารับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยของประเทศ

ชัยชนะแลนด์สไลด์ในทางการเมืองเกิดขึ้นได้จากหลายแนวทาง ไม่ว่าการเป็นที่นิยมในฐานะตัวบุคคล การมีอุดมการณ์ที่ชัดเจน ผลงานความสำเร็จในอดีต ไปจนถึงพันธกิจที่พรรคการเมืองซึ่งลงรับเลือกตั้งสัญญาต่อประชาชนว่าตนจะบรรลุผลให้ได้ หากพรรคการเมืองชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย อย่างไรก็ดี ชัยชนะแลนด์สไลด์ไม้ได้เป็นผลลัพธ์ความสำเร็จของพรรคการเมืองเท่านั้น แต่ยังคงเป็นภาพสะท้อนฉันทมติของประชาชนว่า เจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริงต้องการอนาคตของประเทศอย่างไรกันแน่ เจ้าของอำนาจอธิปไตย ที่ไม่ได้ถูกแทรกแซงโดยปรสิตทางการเมือง