นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน โดยให้ตัดสัญญาณโทรศัพท์ของไทยทั้งหมดที่คนร้ายลักลอบนำมาใช้ ในการโทรเข้ามาหลอกลวง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนคนไทย รวมทั้งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างมาก
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปอส.ตร. เปิดยุทธการ “ทำลายสะพานของคนชั่ว” โดยปฏิบัติการร่วมกับสำนักงาน กสทช. , ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เครือข่าย AIS DTAC TRUE NT และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ตัดสัญญาณโทรศัพท์ ทำลาย “เสา สาย ซิม” ที่คนร้ายลักลอบใช้ในประเทศเพื่อนบ้านใกล้กับแนวชายแดน ทั้งประเทศเมียนมา ลาว และกัมพูชา อย่างเด็ดขาด
พล.ต.ท.ธัชชัย ฯ กล่าวว่า ปฏิบัติการ “ทำลายสะพานของคนชั่ว" จะเริ่มในเขตพื้นที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งคนร้ายได้มีฐานปฏิบัติการในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ บริเวณโดยรอบคิงส์โรมัน ประเทศลาว โดยปัจจุบัน คิงส์โรมันเป็นสถานบันเทิงครบวงจร มีทั้งโรงแรม คาสิโน ศูนย์การค้า สนามกอล์ฟ สถานบันเทิง และสนามบิน รองรับนักท่องเที่ยวจากไทย ลาว และเมียนมา ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าวจะให้มีผลกระทบต่อประชาชนคนไทยที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนในการใช้สัญญาณโทรศัพท์ให้น้อยที่สุด
นอกจากนี้ จะมีการขยายผลจับกุมดำเนินคดีกับผู้ให้บริการ เช่น ตู้ซิม ฯลฯ ที่ช่วยเหลือกลุ่มคนร้ายในการลงทะเบียนซิมมาหลอกลวงประชาชน รวมทั้งจัดการกับกลุ่มคนร้ายที่เป็นชาวต่างชาติและคนไทยที่ร่วมกันมาหลอกลวงทำร้ายคนไทยด้วยกันให้ถึงที่สุด
นอกจากนี้ นายกฯเศรษฐา ยังได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย วันนี้ (19 ก.ค.2567) ว่า 'เมื่อเวลา 20:30 น. ที่ผ่านมา ผมได้โทรศัพท์หารือท่านนายกรัฐมนตรี ฮุน มาแนต ของกัมพูชา ในประเด็นการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเรามีความเห็นตรงกันที่จะมีการปราบปรามเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของทั้งสองประเทศ ร่วมกันหาแนวทางและปราบปรามให้เห็นผลภายใน 60 วัน และผมพร้อมที่จะบินไปเพื่อที่จะหาทางออกเรื่องนี้ร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมต่อไปครับ'