ไม่พบผลการค้นหา
'ชัชชาติ' เผยรับตำแหน่งมา 3 เดือนเห็นศักยภาพของ กทม. ไม่แพ้ชาติอื่นในโลก เชื่อทุกคนเปลี่ยนเมืองได้ ชี้ศักยภาพของเมืองในอนาคตมาจาก 'คน' มีส่วนทำให้เมืองเจริญได้

เมื่อเวลา 16.15 น. วันที่ 21 ก.ย. 2565 ที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “สร้างศักยภาพใหม่ให้เป็นจริง” ในงาน ESG FORUM โดย ชัชชาติ กล่าวว่า หลังจากเป็นผู้ว่าฯ กทม. มา 3 เดือน ถามว่าเห็นศักยภาพของกรุงเทพมหานครไหม ต้องตอบว่าเห็นมาก เห็นจริง ๆ โดยศักยภาพ หมายถึง อำนาจหรือคุณสมบัติที่แฝงอยู่ในสิ่งต่าง ๆ ที่อาจทำให้พัฒนา หรือทำให้ปรากฏขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งกรุงเทพมหานครเหมือนเพชรที่ยังไม่ได้รับการเจียระไน หากเจียระไนให้ดีคิดว่าคงเปล่งประกายไม่แพ้ชาติอื่น ไม่แพ้เมืองอื่นในโลก

“ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเราไม่ค่อยมีงบประมาณ เพราะเป็นช่วงปลายปีงบประมาณแล้ว ดังนั้น ศักยภาพที่แท้จริงของกรุงเทพมหานคร คือ ‘คน’ ถ้าเราสร้างแรงบันดาลใจได้ เป็นความหวังให้เขาได้ ผมว่ามีพลังมหาศาลเลย เชื่อว่าพวกเราทุกคนสามารถจะเปลี่ยนเมือง และทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า อุปสรรคของการเจียระไนเพชรเม็ดนี้มีหลายปัญหา อาทิ ภาวะความเป็นผู้นำ การสร้างแรงบันดาลใจ การกระจายอำนาจ ที่ผ่านมารัฐไม่ได้ให้อำนาจประชาชนในการตัดสินใจ การมีส่วนร่วม การนำความคิดสร้างสรรค์ประชาชนมาเป็นคำตอบให้เมือง รวมไปถึงเรื่องของความไว้วางใจ เป็นต้น

จากนั้น ชัชชาติได้บรรยายถึง 4 หัวข้อ ได้แก่ 1. ปัจจุบัน 2. อนาคต วิสัยทัศน์ และยุทธศาสตร์เมือง 3. สร้างศักยภาพใหม่ให้เป็นจริง และ 4. การสร้างเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน โดย ชัชชาติ กล่าวว่า ก่อนที่เราจะวางแผนอนาคตได้เราต้องรู้ว่าเราอยู่ตรงไหน เราต้องพูดถึงปัจจุบันก่อน เพื่อจะแก้ปัญหาของกรุงเทพมหานครให้ก้าวต่อไปในอนาคตได้

สำหรับจุดแข็งของ กทม. คือ เรื่องค่าครองชีพ โครงสร้างพื้นฐานครอบคลุม การเป็นพหุวัฒนธรรม ฯลฯ และจุดอ่อนได้แก่ เรื่องความโปร่งใส ความสะดวกในการขอใบอนุญาตต่าง ๆ ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ ทักษะกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ (critical thinking) ปัญหาฝุ่น PM2.5 การบริหารจัดการน้ำ การจราจร สัดส่วนพื้นที่สีเขียว การขาดอำนาจหน้าที่อย่างเต็มที่ในการบริหารจัดการเรื่องต่าง ๆ เป็นต้น

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า การที่เมืองจะเจริญได้ เมืองต้องดึง สร้างคนเก่ง ไม่มีเมืองใดที่ประสบความสำเร็จได้โดยไม่มีคนเก่งอยู่ในเมือง เพราะศักยภาพของเมืองจึงขึ้นอยู่กับ “คน” 

จากนั้นได้กล่าวถึงตัวเลข 1 และ 98 และวิสัยทัศน์ “กรุงเทพฯ : เมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน” 9 นโยบายหลัก 216 แผนปฏิบัติการ และเป้าหมายในการเป็น 1 ใน 50 อันดับเมืองน่าอยู่ของโลกภายในปี 2570 

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อไปว่า หน้าที่ของกทม. ประกอบด้วย 1. เพิ่มประสิทธิภาพของเมือง 2. ปรับปรุงคุณภาพชีวิต 3. สร้างโอกาสสำหรับทุกคน และ 4. สร้างความเชื่อมั่น พร้อมได้ยกตัวอย่างโครงการต่าง ๆ ที่เริ่มดำเนินการแล้ว เช่น การให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง สวน 15 นาที การแยกขยะอย่างเต็มรูปแบบ การคมนาคมที่ครอบคลุมเส้นเลือดใหญ่เส้น-เลือดฝอย วางแผนระยะยาวในการจัดการน้ำ การทำพื้นที่สาธารณะสำหรับทุกคน จัดการจราจรด้วยระบบเอไอ ฯลฯ

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า สิ่งสำคัญของเมืองคือเศรษฐกิจ และเมืองคือตลาดแรงงาน หน้าที่ของ กทม.จึงต้องสร้างงานที่ดี มีผู้จ้างที่ดี เพื่อที่จะมีคนมาจ่ายภาษี นำรายได้มาหมุนเวียนพัฒนาเมืองต่อไปได้ โดยทิศทางส่งเสริมศักยภาพใหม่ให้กับเมือง มีด้วยกัน 7 ด้าน ได้แก่ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ การท่องเที่ยว ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ อัญมณี ธุรกิจ MICE ศูนย์กลางของ MNCs โครงการ EEC ที่ขยายออกไป

“ปัจจัยแห่งความสำเร็จ คือ ต้องทำงานร่วมกันทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล วิชาการ เอกชน และประชาชน หากเราสามารถสร้างความศรัทธาและความหวังในระบบประชาธิปไตย จะเป็นการสร้างศักยภาพสำคัญของเมืองในอนาคต เพราะ ‘คน’ คือศักยภาพที่สำคัญที่สุดของเมือง” ชัชชาติ กล่าวในตอนท้าย

ชัชชาติ -B978-4E0E-AB72-C9335D5119C5.jpeg