ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ยันเซ็นคำสั่งเปลี่ยน คกก.ทำประชามติใหม่ เหตุกฤษฎีกาท้วง สส.เป็นไม่ได้ ย้ำกับสื่อจีนเรียกความเชื่อมั่น ไทยยังต้อนรับ นทท.จีน คมเข้มอาวุธปืน-มาตรการรักษาความปลอดภัย

วันที่ 6 ต.ค. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีเซ็นคำสั่งเปลี่ยนคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560   โดยระบุว่าเป็นเรื่องข้อกฎหมายเพราะ สส. มาเป็นคณะกรรมการไม่ได้ งั้นก็ต้องฟังเมื่อกฤษฎีกาท้วงติงมาก็ต้องฟัง ยืนยันไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับตัวบุคคลว่า สส.เป็นได้หรือไม่ได้ 

ขณะที่ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวจีนได้ได้สอบถามนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการเรียกความเชื่อมั่น ให้กับการท่องเที่ยวและให้นายก กล่าวกับนักท่องเที่ยวจีน นายกฯระบุว่าเรายังต้อนรับชาวจีน และเรายังมีมาตรการที่ต้องดูแล ส่วนที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมา จึงต้องมีมาตรการในการควบคุมอาวุธ ที่จะต้องดูแลให้ถูกต้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงนามยกเลิกคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 256/2566 เรื่อง คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ลงวันที่ 3 ตุลาคม และลงนามคำสั่งนายกฯ ที่ 264/2566 แต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวใหม่ จำนวน 34 คน โดยได้มีการปรับเปลี่ยนตัวบุคคลบางส่วนที่จะเข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการ ภายหลังจากที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ไม่ส่งตัวแทนเข้าร่วม

สำหรับรายชื่อบุคคลใหม่ที่จะเข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการ ประกอบด้วยวุฒิสาร ตันไชย จะเข้ามาเป็นรองประธานกรรมการคนที่ 1 สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ชวลิต วิชยสุทธิ์ นายเจือ ราชสีห์ และ กฤช เอื้อวงศ์ เป็นกรรมการ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับบุคคลที่ถูกปรับเปลี่ยน ประกอบด้วย ชูศักดิ์ ศิรินิล นายนพดล ปัทมะ ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ เดชอิศม์ ขาวทอง ธนกร วังบุญคงชนะ และ ฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทั้งนี้ ในส่วนของตำแหน่งประธานรองประธาน กรรมการ เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ ยังเป็นบุคคลเดิมทึ่ได้รับแต่งตั้งไปก่อนหน้านี้