ไม่พบผลการค้นหา
สมาคมโรงแรมภาคเหนือ จี้รัฐเร่งจีทูจี ‘วัคซีนพาสปอร์ต’ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หวั่นล่าช้าไม่ทันการฤดูท่องเที่ยว ทำอุตสาหกรรมกระทบยาว เผยสถานการณ์ล่าสุดยังไม่สู้ดี โรงแรมปิดกิจการเพียบ ด้านสภาอุตสาหกรรมเที่ยวเชียงใหม่ วอน หน่วยงานรัฐจัดประชุมสัมมนาในพื้นที่หวังเพิ่มรายได้ ฝั่ง แอร์เอเชีย จ่อเปิดบินเต็มสล็อตต้นเดือนหน้า ขอความชัดเจนจัดงานสงกรานต์

ภาคการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้ฤดูกาลท่องเที่ยว หรือ High Season ช่วงปลายเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมาถึงเดือน ก.พ. 2564 ที่ผ่านมานั้นเรียกว่านักท่องเที่ยวแบบเป็นศูนย์ จากความกังวลโควิด-19 และมาตรการควบคุมการเดินทางเข้า-ออก

สะท้อนได้จากตัวเลขจากสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) ที่เปิดเผยว่า จำนวนห้องพักทั้งหมดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ประมาณกว่า 60,000 ห้อง จากผู้ประกอบการประมาณ 2,000-3,000 ราย ปัจจุบันเปิดให้บริการเหลือเพียง 20,000-30,000 ห้องเท่านั้น ขณะที่การจ้างงานเหลือเพียง 30% ของแรงงานในภาคโรงแรมทั้งหมด

 

โรงแรมปิดกิจการกว่าครึ่ง

‘ละเอียด บุ้งศรีทอง’ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) ระบุว่า จากผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้โรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ต้องเปิดกิจการไปกว่าครึ่ง ซึ่งมีทั้งที่ปิดเพื่อรอรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวใหม่ รวมถึงปิดแบบเลิกกิจการถาวร จึงอยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการดูแลและเยียวยาเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งการผ่อนปรนเงื่อนไขการเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการให้พยุงการจ้างงาน รวมถึงเร่งดำเนินมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 โดยเร็วที่สุด

ละเอียด บุ้งศรีทอง
  • ละเอียด บุ้งศรีทอง

 

จี้เร่ง ‘วัคซีนพาสปอร์ต’ ควบคู่ฉีดวัคซีนในประเทศ

นอกจากนี้นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) ต้องการให้รัฐบาลเร่งดำเนินมาตรการจีทูจี หรือ วัคซีนพาสปอร์ต (Vaccine Passport) ในการประสานงานหรือจับคู่กับประเทศที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว และมีนโยบายให้ประชาชนในประเทศสามารถเดินทางออกมาท่องเที่ยวได้ ควบคู่กับการเร่งฉีดวัคซีนในประเทศ

“ช่วงนี้เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะหากรัฐบาลดำเนินการล่าช้าไปมากกว่านี้จะทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทันกับฤดูการท่องเที่ยวของปีนี้ เนื่องจากการฉีดวัคซีนป้องกันต้องใช้ระยะเวลา และผู้ประกอบการต้องใช้ระยะเวลาในการเตรียมพร้อมพร้อมล่วงหน้า” ละเอียด กล่าว

 

‘ไมซ์’ ทางรอดท่องเที่ยวเชียงใหม่

ภาคเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ ปัญหาของจังหวัดเชียงใหม่ คือ ส่วนใหญ่พึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติค่อนข้างมาก หรือคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยสัดส่วน 30% นิยมเดินทางท่องเที่ยวเฉพาะตามฤดูกาลท่องเที่ยวเท่านั้น ทำให้รายได้จากท่องเที่ยวยังไม่สามารถทดแทนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไปได้

นอกจากนี้พฤติกรรมเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยกว่าครึ่งเดินนิยมทางท่องเที่ยวระยะใกล้ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่อหัวประมาณ 2,000 บาทต่อวัน น้อยกว่าเดินทางท่องเที่ยวข้ามภาคที่มีค่าใช้จ่ายต่อหัวประมาณ 3,000 บาทต่อวัน

‘พัลลภ แซ่จิว’ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่ ระบุว่า แนวทางที่ภาคเอกชนเห็นว่าจะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับภาคท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ได้ดีและเร็วที่สุด คือ การดึงกลุ่มประชุมสัมมนา หรือ ไมซ์ ที่จังหวัดมีความพร้อมอย่างมาก ไม่ต้องหวังรอช่วงเทศกาล

“เรามีความพร้อมค่อนข้างมากในการรับนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ แต่ปัญหาคือยังไม่เห็นนโยบายกระตุ้นให้กลุ่มข้าราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ รวมถึงหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ออกมาเท่าที่ควร” พัลลภ กล่าว

‘พัลลภ แซ่จิว
  • พัลลภ แซ่จิว


รัฐต้องเร่งสร้างความชัดเจนกระตุ้นท่องเที่ยว

ด้าน ‘สันติสุข คล่องใช้ยา’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า แอร์เอเชียเริ่มกลับมาทำการบินแล้วประมาณ 50% ซึ่งเริ่มพบสัญญาณว่านักท่องเที่ยวเดินทางเพิ่มมาขึ้น โดยภายในต้นเดือน เม.ย.นี้ สายการบินเตรียมที่กลับมาทำการเต็ม 100% โดยคาดหวังว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประชาชนจะเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

แต่ทั้งนี้ขอให้รัฐบาลมีความชัดเจนว่าเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้จะสามารถดำเนินการอะไรได้ หรือไม่ได้ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เตรียมความพร้อมรองรับประชาชนที่จะเดินทางล่วงหน้า รวมถึงให้ประชาชนได้มีเวลาในการวางแผนเดินทางท่องเที่ยว เพราะขณะนี้ถือว่าความชัดเจนยังไม่เป็นรูปธรรม และบางครั้งค่อนข้างช้าอยู่

“ผมคิดว่าเขาคงผ่อนคลาย แต่วิธี รูปแบบจะเอาอย่างไรบอกให้ชัด คนจัดคนเตรียมจะได้เตรียมตัวถูก เพราะต้องจองที่ จองดารา จองเครื่องดนตรี ขณะเดียวกันคนเที่ยวเขาก็จะได้จองตั๋วและจองโรงแรม” สันติสุข กล่าว

แอร์เอเชีย
  • สันติสุข คล่องใช้ยา

 

สงกรานต์จัดแน่ แต่รอสรุปรายละเอียด

ขณะที่ ‘ยุทธศักดิ์ ศุภสร’ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้เตรียมหารือกระทรวงวัฒนธรรมและพื้นที่ต่างๆเพื่อหาแนวทางจัดงานเทศกาลสงกรานต์ตามจุดจัดงานสำคัญ อย่างเช่น เชียงใหม่ รวมถึงวันไหลพัทยา เป็นต้น แต่เบื้องต้นยังต้องรอสรุปรายละเอียดก่อน คาดว่าจะเป็นรูปแบบวิถีใหม่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งค่อนข้างมั่นใจว่าหลายพื้นที่จะสามารถจัดกิจกรรมสงกรานต์ได้แน่นอน เชื่อว่าจะทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น แต่ทั้งนี้ยังรอประเมินตัวเลขทั้งหมดอีกครั้ง

ส่วนความคืบหน้าการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น ผู้ว่าฯ ททท. คาดว่า จะสามารถรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ โดยใช้กลไกสำคัญของวัคซีนพาสปอร์ต (Vaccine Passport) เนื่องจากหลายประเทศทั่วโลกสถานการณ์คลี่คลายและได้รับการฉีดวัคซีนแล้วและพร้อมเดินทาง เช่น รัสเซีย รวมถึงจีน

ส่วนแนวทางการฉีดวัคซีนให้กับพนักงานโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ Area Quarantine 5 พื้นที่นำร่อง คือ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ เกาะสมุย กระบี่ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ อยู่ระหว่างการหารือกับผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุขผู้ดูแลโดยตรง แต่เบื้องต้นคงไม่ทันล็อตแรก

 

จ่อชง ‘เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3-ทัวร์เที่ยวไทย’ สัปดาห์หน้า

ขณะที่ในวันนี้ (5 มี.ค. 2564) คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ฯ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะมีการพิจารณาเพื่อขยายเวลาโครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ที่จะสิ้นสุดในช่วงเดือน เม.ย.นี้ ไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ค. 2564 โดยจะมีการเพิ่มให้อีก 2 ล้านสิทธิ รวมของเดิมเป็น 8 ล้านสิทธิ

อย่างไรก็ตามอาจจะมีการปรับเงื่อนไขของโครงการฯให้รัดกุมมากขึ้น เช่น การเรียกตรวจยอดจองล่วงหน้า 14 วัน จากเดิมเรียกตรวจล่วงหน้า 3 วัน และ การเรียกตรวจสอบเอกสารหลักฐานการใช้สิทธิเช็คอินก่อนโอนเงินให้โรงแรมที่พัก จากเดิมที่ธนาคารกรุงไทยจะโอนเงินเข้าระบบตามอัตโนมัติ เป็นต้น

นอกจากนี้จะเสนอแคมเปญ ‘ทัวร์เที่ยวไทย’ หรือชื่อเดิม ‘เที่ยววัยเก๋า’ เพื่อหนุนคนไทยเที่ยววันธรรมดา ผ่านบริษัทนำเที่ยว โดยให้สิทธิประชาชนอายุ 18 ปี ขึ้นไป แต่ไม่จำกัดเพดานอายุ รวม 1 ล้านสิทธิ ซึ่งจะให้โควตาบริษัทนำเที่ยวรับนักท่องเที่ยวได้ 3,000 คนต่อบริษัท โดยรูปแบบ คือ รัฐช่วยออกค่าใช้จ่ายส่วนต่างให้ 40% หรือไม่เกิน 5,000 บาทต่อคน ซึ่งทั้ง 2 โครงการคาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในสัปดาห์หน้า

ททท.-แอร์เอเชีย

ล่าสุด ททท. ร่วมกับสายการบินแอร์เอเชีย จังหวัดเชียงใหม่ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นกระตุ้นความมั่นใจในการท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจที่จะเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น หลังทางจังหวัดผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้า-ออกไม่ต้องกักตัว ยกเว้นจังหวัดสมุทรสาคร

พร้อมยืนยันถึงความพร้อมด้านต่างๆ โดยเฉพาะมาตรการคุมเข้มทั้งในที่พักและที่เที่ยว เพื่อให้สถานการณ์การท่องเที่ยวกลับมาเป็นปกติ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งทุกภาคส่วนก็ได้แต่หวังว่าการสร้างความมั่นใจ รวมถึงการดำเนินมาตรการของรัฐ จะเป็นปัจจัยหนุนให้นักท่องเที่ยวเดินทางเพิ่มมากขึ้น