จิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุนสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย เบญจา แสงจันทร์ กรรมาธิการฯ และคณะลงพื้นที่ติดตาม ผลกระทบกรณีน้ำมันดิบรั่วไหล ในพื้นที่ จ.ระยอง ที่ห้องประชุม เทศบาล บ้านเพ จ.ระยอง จิรายุ กล่าวภายหลังการประชุม อธิบดีกรมควบคุมมลพิษยืนยันว่าการรั่วครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 25 มกราคม เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนผลการวิเคราะห์สารปรอท ในสัตว์น้ำ คุณภาพน้ำทะเล บริเวณชายหาดและแนวปะการัง คุณภาพน้ำทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ปกติแล้ว ในส่วนหาดแม่รำพึง (คลองหัวรถ) ที่มีค่าTPH เกินเกณฑ์ในช่วงคราบน้ำมันเข้าสู่ชายหาด เมื่อสองสัปดาห์ก่อนปัจจุบันมีค่าลดลงกำลังกลับคืนสู่สภาพปกติ
ส่วนสถานการณ์ พื้นที่เกิดรั่วไหล ซ้ำเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ จากการสอบสวน สาเหตุเกิดจากเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ได้ยกท่อในจุดที่เคยเกิดเหตุครั้งแรกเพื่อนำขึ้นมาตรวจสอบ แต่กลับประมาทไม่ดูว่ามีน้ำมันค้างอยู่ในท่อ จึงทำให้เกิดการรั่วไหลลงทะเลอีก แต่ไม่หนาแน่นเหมือนครั้งที่ผ่านมา
จากนั้น จิรายุ พร้อมคณะ ได้เดินทางพร้อมอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.)ไปที่จุดเกิดเหตุครั้งที่ 2 บริเวณทะเลมาบตาพุด จ.ระยอง พบว่ามีน้ำมันและคราบฟิล์มน้ำมันครอบคลุมพื้นที่ 0.5 ตร.กม. อยู่ห่างจากชายฝั่งหาดแม่รำพึง 7 กม. และห่างจากชายฝั่งเกาะเสม็ด 10 กม.ซึ่งคราบน้ำมันยังคงอยู่ตำแหน่งเดิม ไม่เคลื่อนตัวไปในทิศทางใด เนื่องจากไม่มีกระแสลมและคลื่น และขณะนี้มีเรือเฝ้าระวังประจำการอยู่ทั้งหมด 11 ลำ เป็นเรือทุ่นกันคราบน้ำมัน 6 ลำ และเรือพ่นสารเคมี 5 ลำ นอกจากนี้ยังมีเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือบินสนับสนุนการโปรยสารเคมีอีก 1 ลำ
ทั้งนี้สำหรับเหตุการณ์ทั้ง2ครั้ง จากการรับฟังรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรุปได้ว่าสถานการณ์สามารถควบคุมได้แล้ว ส่วนการดำเนินงาน ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) ยังมีการติดตามการเคลื่อนที่ของน้ำมันอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันทรัพยากรธรรมชาติ และติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อมทางทะเลและบริเวณที่มีทรัพยากร ทางธรรมชาติ
ในส่วนเรื่องการฟ้องร้องดำเนินคดี ทั้งทางแพ่ง และอาญา ทางกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) กรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง(ทช. ) และกรมเจ้าท่า ชี้แจงว่าได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้ว
ส่วนการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ขอให้จังหวัดระยอง พิจารณาว่าจะใช้งบประมาณส่วนใดในการเยียวยาเบื้องต้นส่วนระยะกลางและระยะยาวที่จะต้องใช้ขั้นตอนทางกฎหมายฟ้องร้องก็ขอให้เร่งแนะนำให้กับผู้ได้รับผลกระทบ และควรตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์ในสถานการณ์เพื่ออธิบายให้กับสังคมทราบเพราะจะมีผลกระทบอย่างมากทั้งๆที่ตนลงพื้นที่ตรวจสอบระยองยังท่องเที่ยวได้ทุกจุด
จิรายุ กล่าวอีกว่าในช่วงบ่ายวันนี้ ได้เชิญตัวแทนของบริษัทเอกชนที่ทำน้ำมันรั่วไหลและผู้แทนจากกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าประชุม เพื่อหาข้อสรุปในการชดเชยหรือเยียวยาและหาทางป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต ที่การนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง
ซึ่งในส่วนของการท่องเที่ยวจากที่ตนลงพื้นที่ โดยรอบเกาะเสม็ดถือได้ว่าวันนี้ไม่มีอะไรน่ากังวล นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อนช่วงนี้ได้ ทะเลที่ตนเห็นยังสวยงามเหมือนตอนที่ตนเป็นวัยรุ่นมาเที่ยวเกาะเสม็ดเมื่อ 20 ปีก่อน ดังนั้นขอแนะนำให้นักท่องเที่ยว สายเกาะ เตรียมตัวแบกเป้ลุยเกาะเสม็ดในช่วงซัมเมอร์นี้ได้เลย