พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ต.ไทยบุรี อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช รับฟังแนวทางการดำเนินงาน พบปะและพูดคุยกับนักศึกษา โดยกล่าวว่า ที่ผ่านมาเราลำบากมามากแล้ว จากนี้ต้องการนำพาอนาคตไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ส่วนเรื่องปาล์มน้ำมัน รัฐบาลได้เร่งแก้ไขปัญหา ซึ่งขณะนี้มีต่างชาติสนใจนำปาล์มจากไทยไปใช้เพิ่มขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยต้องอยู่อย่างสันติ ปรองดอง แบ่งแยกไม่ได้ ขณะที่ปัญหาความยากจน รายได้น้อย สิ่งต่างๆ เป็นปัญหามานาน วันนี้ต้องสร้างหลักคิด วางแนวทางการพัฒนา สร้างความรัก ความสามัคคี โดยเฉพาะภาคใต้ ทั้ง 14 จังหวัด ที่ต้องเชื่องโยงกัน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ โดยต้องเริ่มที่การสร้าง กฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทุน และต้องสนับสนุน เอสเอ็มอี และกลุ่มสตาร์ทอัพ และการสร้างอนาคตนั้น ต้องไม่ทำลายอัตลักษณ์ที่เรามีอยู่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ง่ายในการแก้ปัญหา เพราะมีหลากหลายความคิด มีหลายฝ่าย วันนี้ตนเปรียบเหมือนหัวหน้าครอบครัว ดูแลครอบครัว 68 ล้านคน จึงต้องสร้างรากฐานให้มั่นคง ให้ทุกคนมีความสุข ทุกอย่างต้องค่อยๆ แก้ไข ด้วยการปฏิรูปประเทศ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา ไม่ใช่แก้ให้เสร็จได้ในวันนี้  

"วันนี้การทำงาน ตนเองก็ทำคนเดียวไม่ได้ เปรียบเสมือนร่างกาย มือซ้ายต้องจับมือขวา และต้องเดินไปด้วยกัน ไปสู่ประชาธิปไตย ซึ่งตนเองไม่ขัดข้อง และเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง แต่ที่กังวล คือจะเดินต่อไปอย่างไรหลังเลือกตั้ง แต่อยากขอให้ทุกคนมีความสมานฉันท์ ปรองดอง และต้องรวมพลังเดินหน้าประเทศไปข้างหน้า"

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การใช้โซเชียลฯ ไม่ใช่เพียงใช้ถ่ายภาพ หรือ เพื่อพูดคุยกันอย่างเดียว ต้องค้นหาข้อมูลต่างๆ ด้วย เช่น เปิดดูผลงานรัฐบาลที่ได้ดำเนินการไปแล้ว รวมถึงการใช้งบประมาณ การปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งรัฐบาลนี้ได้พัฒนาให้เกิดสิ่งต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะระบบสาธารณูปโภคและขนส่งคมนาคมต่างๆ ขณะเดียวกัน ได้ปรับงบประมาณให้แต่ละจังหวัดเพิ่มขึ้น เพื่อดูแลประชาชน วันนี้มีกฎหมายเพื่อดูแลการใช้จ่ายงบประมาณอย่างเหมาะสม เหมือนกำลังต่อเติมเส้นเลือดของเราตามร่างกาย ทุกอย่างต้องแข็งแรงไปด้วยกัน 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการเมืองตนเองไม่ได้อะไรมาก เป็นเรื่องอนาคต เป็นเรื่องนโยบาย ถ้าได้ทำงานต่อก็ทำ และต้องสานต่อการดูแลประชาชน สิ่งสำคัญ คือ ถ้าทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนก่อนที่ตนจะเข้ามาทำหน้าที่ ถือว่าทุกอย่างจบทั้งหมด จากนี้ทุกคนต้องสร้างความพอใจแบบพอเพียง ให้มีภูมิคุ้มกัน เผื่อแผ่ให้คนอื่น สำหรับ วันหน้าถ้ามีโอกาสจะทำให้ ถ้าไม่มีโอกาส ก็ถือว่าพักผ่อน ไม่ได้ทวงบุญคุญกับใคร แต่ตนทำให้แผ่นดิน รัฐบาลต้องทำให้ประชาชน ไม่ใช่ให้เงินอย่างเดียว ยืนยันตนเองไม่เคยขัดแย้งกับใครเลย ขอทุกคนอย่าลืมอดีต ที่เป็นบทเรียนและสิ่งที่ทำวันนี้จะเป็นประวัติศาสตร์ใน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำงานจากนี้เป็นระบบสองสภาฯซึ่งมีทั้งดีและไม่ดี ระบบสภาฯก็ต้องมาจากคน จึงต้องให้โอกาสทำงานไปก่อน 

ช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนให้ใจไปหมดแล้ว หัวใจตนเท่ากำปั้น แต่ยิ่งใหญ่ หัวใจของคนปกติมี 4 ห้อง แต่สำหรับตนมีหัวใจ 68 ล้านห้อง ส่วนขณะนี้ถูกจับตา ก็รู้สึกอึดอัดเหมือนกัน แต่ต้องทำงานต่อ จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ และขออย่าเกลียดตนเอง 

นายกฯ ร้องเพลง “เราจะทำตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นาน” พร้อมบอกว่า 5 ปี สำหรับประเทศไทยไม่ถือว่านาน เพราะอย่างไรก็ต้องนาน จากนั้น นายกรัฐมนตรี เดินทักทายประชาชน พร้อมบอกว่า 24 มี.ค.นี้ ขอให้เลือกให้ดี และที่มาไม่ได้มาหาเสียง นอกจากนี้ พระสงฆ์ได้มอบ ตาพรานบุญ วัดยางใหญ่ ให้กับนายกรัฐมนตรีด้วย

ตลอดการเดินทักทาย ประชาชน ได้มอบดอกกุหลาบ และตะโกน “ลุงตู่ สู้ๆ” โดยนายกฯ บอกให้สู้ไปด้วยกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินพบปะประชาชนชาว จ.นครศรีธรรมราช ที่ ศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์นั้น มีชาวบ้านที่เป็นชาวประมงนำปูดำปูทะเล ใส่กระเช้า ห่อกระดาษบางๆ มามอบให้นายกรัฐมนตรี โดย พล.อ.ประยุทธ์ เอามือไปจับ บนกระดาน โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นปู ทำให้นายกรัฐมนตรีรับชักมือออก พร้อมกล่าวแบบตกใจว่า "ปูหรอ เดี๋ยวมันก็หนีบผมสิ"

จากนั้น นายกรัฐมนตรี เป็นประธานส่งมอบบ้านและให้กำลังใจผู้ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึก ที่ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยรับฟังบรรยายสรุป การฟื้นฟูและก่อสร้างบ้านให้กับประชาชนผู้ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึก ที่มีการก่อสร้างบ้านให้ประชาชนใหม่ จำนวน 316 หลัง 

นายกรัฐมนตรี กล่าวทักทายชาวบ้าน ว่า “แล่งใต้ หรอยแรงๆ” และขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ช่วยเหลือประชาชน วันนี้มาแสดงความยินดีที่ได้รับบ้านใหม่ ที่ถึงจะสร้างด้วยเวลาไม่นาน แต่ก็แข็งแรง ขออย่าเกลียดเจ้าหน้าที่เพราะถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่ ก็ไม่มีใครมาช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติ และวันหน้าต้องมีการเตรียมการ เมื่อมีการแจ้งเตือนจากภาครัฐ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความสูญเสียจำนวนมาก 

นายกฯ กล่าวว่า ได้มีโอกาสไปไหว้พระธาตุฯ อธิษฐานขอให้ประชาชน คนนครศรีธรรมราช คนภาคใต้ คนทั้งประเทศ และบ้านเมือง เดินหน้าไปด้วยความปลอดภัย ปรองดอง สันติ และยั่งยืน 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกคนต้องอยู่ด้วยสังคมพหุวัฒนธรรม และยืนยันกำลังทำยุทธศาสตร์ 20ปี ให้กับเด็ๆ ซึ่งเป็นอนาคตของประเทศ และรัฐบาลทำให้กับทุกคน ทั้งคนที่รักและไม่ได้รัก จากนี้จะต้องดูปัญหาการจัดสรรที่ดิน ป่าชายเลน ที่ต้องปลดล็อกให้ แต่ต้องหามาตรการที่เหมาะสม และไม่อยากใช้กฎหมายบังคับไปทุกเรื่อง ทั้งนี้ต้องทำชีวิตคนรุ่นใหม่ให้ดีกว่าเดิม วันนี้เป็นการนับหนึ่งให้ประชาชน หากไม่ทำะไรเลยแล้วจะอยู่กันอย่างไร และอย่าให้ใครนำพาให้ทะเลาะกันอีก 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.นครศรีธรรมราช ครั้งนี้ เป็นการลงพื้นที่หลังจากพรรคพลังประชารัฐ ได้ปราศรัยใหญ่ที่ภาคใต้ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 17 มี.ค.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• นายกฯ ขอบคุณประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า-แนะใช้สติปัญญาเลือกคน