ไม่พบผลการค้นหา
โลกออนไลน์เปิดแคมเปญล่ารายชื่อถอดถอน "ปิยบุตร แสงกนกกุล" ออกจาก ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ อ้าง "เป็นภัยต่อประเทศร้ายแรง" แต่ก็มีแคมเปญ 'หนุนปิยบุตร' #savepiyabutr สวนกลับ ย้ำ ถูกตัดต่อคลิปใส่ร้ายป้ายสี

ชาวโลกออนไลน์ ชื่อ nanari hongdoo ได้สร้างแคมเปญในเว็บไซต์ change.org รณรงค์เรียกร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ด้วยการขอร่วมลงชื่อถอดถอนนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โดยผู้ตั้งแคมเปญดังกล่าวให้เหตุผลว่า นายปิยบุตร เป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อประเทศร้ายแรง ไม่ควรมีบุคคลที่คิดจะล้มล้างสถาบันฯ อยู่ในระบบราชการของประเทศไทยเด็ดขาด ซึ่งขณะนี้มีผู้ลงชื่อสนับสนุนแคมเปญนี้แล้วประมาณ 11,399 คนจากการสำรวจล่าสุดช่วงเช้าวันที่ 3 เม.ย.2562

เหตุผลส่วนใหญ่ของผู้ที่ลงชื่อสนับสนุนแคมเปญนี้ บอกว่า นายปิยบุตร มีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไร้คุณสมบัติของการเป็น ส.ส. บางคนบอกว่าคนที่มีความคิดในเชิงนี้ เป็นอันตราย สร้างความแตกแยก สร้างความไม่ปกติสุขแก่สังคมไทยมากกว่าสร้างสรรค์สังคม 

อย่างไรก็ตาม มีผู้เริ่มการณรงค์สนับสนุนนายปิยบุตรผ่านทาง change.org เช่นกัน โดยใช้ชื่อแคมเปญว่า #SavePiyabutr ต้านลงชื่อถอดถอนปิยบุตร ซึ่งได้นำข้อความชี้แจงที่นายปิยบุตรโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวมาประกอบการรณรงค์ เนื่องจากมีการเผยแพร่คลิปการบรรยายทางวิชาการและรูปของนายปิยบุตร พร้อมคัดบางประโยคมาประกอบ จนทำให้ประชาชนเข้าใจผิด และนำมาซึ่งความเกลียดชังต่อกัน

โดยข้อชี้แจงต่อกรณีดังกล่าว ย้ำว่า คลิปที่ถูกตัดมาเพียงบางตอนนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการบรรยายทางวิชาการในหัวข้อ “การเมือง ความยุติธรรม สถาบันกษัตริย์” เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2556 จัดขึ้นที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ซึ่งขณะรั้รนายปิยบุตรยังคงดำรงตำแหน่งเป็นอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำงานวิชาการ บรรยาย ศึกษาค้นคว้า เรื่องกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถาบันการเมือง ประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศไทยและประเทศต่างๆ

หัวข้อหนึ่งที่นายปิยบุตรสนใจ คือ สถาบันกษัตริย์กับประชาธิปไตย การปรับตัวของสถาบันกษัตริย์ในประเทศไทย และประเทศต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับประชาธิปไตย และข้อความในท่อนที่ตัดมาเผยแพร่ทางคลิปบิดเบือนนั้น ไม่ได้พูดถึงสถาบันกษัตริย์ในราชอาณาจักรไทย แต่เป็นการบรรยายถึงหลักการตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ

ซึ่งนายปิยบุตรอธิบายว่า หากพิจารณาจากระบอบประชาธิปไตยตามสากลแล้ว พระมหากษัตริย์ต้องอยู่เหนือการเมือง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และโดยธรรมชาติของตำแหน่งพระมหากษัตริย์ที่มาจากการสืบทอดทางสายโลหิต ไม่ได้มาจากการเลือก จึงจำเป็นต้องจัดวางตำแหน่งแห่งที่ให้สอดคล้องกับประชาธิปไตย ซึ่งประเทศต่างๆ ที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตย และยังคงรักษาสถาบันกษัตริย์ไว้ได้อยู่สามารถทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ