วันที่ 4 พ.ค. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า - Progressive Movement กล่าวถึงกรณีการกิจกรรมคอนเสิร์ต MAYDAY วันกรรมกรสากล เพื่อนำรายได้จากการระดมทุนบริจาคเงิน ส่งต่อไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 คนละ 3,000 บาท โดยไม่ต้องพิสูจน์ความเดือดร้อน ว่า ขอขอบคุณและขอโทษทุกคน ยอมรับมีความผิดพลาดในการสื่อสารที่ไม่รัดกุมขอ ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งเข้าใจว่าทุกคนจะได้เงิน
ทั้งนี้ จะนำบทเรียนครั้งนี้ไปปรับปรุงการทำงานในอนาคต และตนเองตระหนักดีว่า การบริจาคและการกุศลบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้เพียงชั่วคราว เป็นเพียงผ้าซับน้ำตาและความจำเป็นเฉพาะหน้า ไม่สามารถผลักดันสังคมให้เท่าเทียมเป็นธรรมได้ จะสร้างสังคมที่เป็นธรรมอย่างยั่งยืน ต้องร่วมกันสร้างการเมืองที่อำนาจเป็นของประชาชนเท่านั้น
เนื้อหาทั้งหมดระบุผ่านเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ดังนี้
[ คำขอบคุณและคำขอโทษจากใจธนาธร ]
คอนเสิร์ตระดมทุน “MAYDAY MAYDAY เราช่วยกัน” จบลงแล้ว ผมขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณและขอโทษทุกท่านมา ณ ที่นี้
ช่วงสองเดือนที่ผ่านมา พวกเราได้รับฟังและสัมผัสความอัตคัดขัดสนแสนสาหัสของประชาชนด้วยตัวเราเอง มันทำให้เราทั้งรู้สึกเศร้าใจและเป็นเดือดเป็นร้อนแทนพวกเขา เพราะเราเชื่อว่าสังคมไทยควรจะดีกว่านี้ได้
คนจำนวนมากไม่เหลือทางเลือกในชีวิตมากนัก พวกเขาหวังเพียงจะมีกินมื้อต่อมื้อ บ้างต้องดูแลญาติที่พิการป่วยติดเตียง บ้างไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกิน บ้างไม่มีเงินผ่อนบ้าน หรือจ่ายค่าห้อง
พวกเราคุยกันว่าอยากจะเป็นตัวกลาง ทำอะไรสักอย่างที่พอจะช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากได้บ้าง เพื่อให้พวกเขามีกำลังใจ ไม่อดตาย ไม่ฆ่าตัวตาย และต่อชีวิตให้พวกเขาได้ก้าวเดินต่อไป
พวกเขาคือคนไทยที่รัฐต้องดูแลอย่างสุดกำลัง แต่กลับถูกเพิกเฉย ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
เราจึงจัดคอนเสิร์ตระดมทุนนี้ขึ้นมา ด้วยหวังว่าจะช่วยเหลือศิลปินที่ขาดรายได้จากการปิดเมือง, ร้องเพลงให้กำลังใจผู้ที่ท้อแท้, และระดมทุนจากผู้ที่มีทรัพยากร เพื่อแจกจ่ายให้ผู้ที่ต้องการ ตามกำลัง ตามศักยภาพที่แต่ละคนพอจะมี
เมื่อกิจกรรมสองวันจบลง เราระดมทุนได้ทั้งสิ้น 7,282,897.34 บาท ส่งผ่านให้กับผู้ขอรับสิทธิ์ได้ 2,427 คน โดยเรียงตามลำดับแบบมาก่อนได้ก่อน จนถึงตอนนี้ เราโอนเงินให้แล้วประมาณ 1 ใน 3 และจะเร่งโอนให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
ในตอนแรก เราตั้งใจจะจัดคอนเสิร์ตระดมทุนออนไลน์ครั้งนี้แบบเล็กๆ ในลักษณะที่เรียบง่าย อบอุ่นเป็นกันเอง ใครมีมากให้มาก มีน้อยให้น้อย คนละไม้คนละมือช่วยกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าในภาวะวิกฤตเช่นนี้ เราประชาชนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ช่วยเหลือกันเท่าที่แต่ละคนจะทำได้
เราตระหนักดีว่าเราไม่ใช่ภาครัฐ ทรัพยากรเรามีจำกัด และพยายามสื่อสารตลอดเวลาถึงข้อจำกัดดังกล่าว แต่การสื่อสารที่ไม่รัดกุมของเรา ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งเข้าใจว่าทุกคนจะได้เงิน และส่งข้อความหาเราจำนวนมาก
ผมขอใช้โอกาสนี้ “ขอโทษ” ทุกท่านจากใจจริง ว่าเราไม่ได้มีเจตนาเป็นอื่น และพยายามอย่างมากในการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา ใครที่เข้าใจเช่นนั้นและได้อ่านข้อความนี้ ผมขอโทษท่านอีกครั้ง และขอให้เข้าใจในเจตนาดีของพวกเราด้วยครับ
ผมเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่เราไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างมหาศาลได้ และรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในตนเองที่ไม่มีอำนาจพอที่จะบรรเทาความเดือดร้อนนั้น
ส่วนเรื่องข้อกังวลว่าเราใช้เงินระดมทุนอย่างไม่โปร่งใส เรายืนยันด้วยเกียรติยศของพวกเราว่า เงินทุกบาทที่ได้รับบริจาคมา ส่งถึงมือประชาชนทั้งหมด ไม่มีหักค่าใช้จ่ายแม้แต่สตางค์เดียว และจะเปิดเผยหลักฐานการโอนเพื่อแสดงความจริงใจหลังจากที่เราโอนเงินให้กับประชาชนครบถ้วนสมบูรณ์
ในขณะเดียวกัน ผมจำเป็นต้องขอบคุณพลังของคนอีกหลายคนที่มีส่วนทำให้กิจกรรมครั้งนี้สำเร็จลงได้
ท่ามกลางประชาชนที่รอการช่วยเหลืออีกจำนวนมหาศาล เราสามารถเป็นพลังเล็กๆ ในการประสานมือจากผู้มีกำลังสู่ผู้ประสบปัญหา ช่วยเหลือครัวเรือนอีก 2,427 ครัวเรือน ที่เราหวังว่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้พวกเขา ให้พวกเขาพอมีรายได้ ประทังชีวิตและความหวังไว้จนกว่าพวกเขาจะหางานได้หรือมีรายได้อีกครั้ง
ผมขอขอบคุณศิลปินนักร้องทุกท่าน ที่มาร่วมแสดงน้ำหนึ่งใจเดียวกันในงานคอนเสิร์ตครั้งนี้ เสียงเพลงของคุณได้ส่งกำลังใจให้กับคนเป็นล้านคนทั่วประเทศ ในเวลาที่ทุกคนต้องการกำลังใจเช่นนี้
ขอบคุณแกรมมี่ที่เห็นอกเห็นใจประชาชน ก้าวร่วมกับพวกเราในโครงการนี้ ให้ใช้เพลงลิขสิทธิ์ในราคาและเงื่อนไขที่เป็นมิตร
ผมขอขอบคุณศิลปินนักวาดภาพทุกท่านที่บริจาคเงินรายได้จากการขายภาพวาดให้กับโครงการนี้ ศิลปินเหล่านี้ ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยแต่พวกเขาก็ขอมีส่วนร่วมด้วยการนำผลงานของตนเองมาช่วยเหลือในงาน
ขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับคุณไลลา พิมานรัตน์ และทีมงานจากห้องภาพศิลปะ Many Cuts Art Space ที่นอกจากจะเป็นตัวกลางในการเชื่อมศิลปินกับงานนี้แล้ว ยังช่วยประสานงานด้านอื่นอย่างแข็งขัน
ผมขอบคุณทีมงานอดีตพรรคอนาคตใหม่ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นทีมจังหวัดหรือ ส.ส. ที่ช่วยเป็นหน้าด่าน รับฟังความเดือดร้อนและชี้แจงรายละเอียดให้กับประชาชนที่ติดต่อเข้ามา
ผมขอบคุณทีมบริหารเวที และทีม LIVE ที่ทำงานด้วยความเป็นมืออาชีพ ถ่ายทอดสดและบริหารเวทีอย่างต่อเนื่องไม่มีติดขัด
ขอขอบคุณทีมงานหลังบ้านเป็นพิเศษ ท่ามกลางข้อมูลข่าวสารหลั่งไหล พวกเขายังตั้งสติและสมาธิ รับมือกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี และถึงเวลานี้ก็ยังทำงานหามรุ่งหามค่ำโอนเงินให้แก่ประชาชน ความใส่ใจในงานของพวกคุณเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้งานนี้ประสบความสำเร็จได้
หากหลายท่านผิดหวัง หรืองานนี้มีความผิดพลาดใด นับเป็นความผิดพลาดของผมเอง ผมขอน้อมรับคำติชมทั้งหมด และจะนำบทเรียนครั้งนี้ไปปรับปรุงการทำงานในอนาคต ตอบสนองความต้องการของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น
ผมตระหนักดีว่า การบริจาคและการกุศลบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้เพียงชั่วคราว เป็นเพียงผ้าซับน้ำตาและความจำเป็นเฉพาะหน้า ไม่สามารถผลักดันสังคมให้เท่าเทียมเป็นธรรมได้
จะสร้างสังคมที่เป็นธรรมอย่างยั่งยืน ก็มีแต่ต้องร่วมกันสร้างการเมืองที่อำนาจเป็นของประชาชนเท่านั้น
ดังนั้น ผมขอจบด้วยการยืมคำพูดของเพื่อนร่วมงานของผม ปิยบุตร แสงกนกกุล ที่กล่าวในงานดังนี้
“ขอให้ทุกท่านเปลี่ยนเอาความเศร้าโศกเสียใจมาเป็นความคับแค้นแล้วหล่อเลี้ยงด้วยความหวัง เพื่อที่จะยืนยันว่าพวกเราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ดีกว่านี้
ใครที่เศร้าใจรู้สึกหมดหนทางแล้วคิดจะฆ่าตัวตาย ผมขออย่างตรงไปตรงมา เก็บชีวิตอันมีค่าของท่านไว้ดีกว่า แล้วประคับประคองไปให้รอดวิกฤตการณ์ครั้งนี้
ชีวิตของท่านมีคุณค่ามากกว่าจะปลิดชีวิตตนเองไป เพียงเพื่อจะสังเวยกับความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลคณาธิปไตย ชีวิตของท่านมีคุณค่าสำหรับการลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยกัน เพื่อเปลี่ยนแปลงรัฐบาลคณาธิปไตยชุดนี้ให้กลายเป็นประชาธิปไตยให้สำเร็จให้จงได้”
ขอให้ทุกคนอย่าหมดหวังหมดกำลังใจ