นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 นครพนม เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอนาแก อำเภอปลาปาก และอำเภอวังยาง จ.นครพนม ในช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พบว่าชาวนากำลังวิพากษ์ วิจารณ์ พ.ร.บ.ข้าว ซึ่งรัฐบาลนี้ได้เห็นชอบและเสนอต่อ สนช.พิจารณาผ่านวาระที่ 1 ไปแล้ว โดยมีสาระสำคัญที่ชาวนารับไม่ได้อยู่ในมาตรา 27/1 และมาตรา 33/2 สรุปว่า "การจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าว ที่ยังไม่ได้รับการรับรองพันธุ์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

โดยนายไสว พลชัย ข้าราชการบำนาญ ซึ่งผันตัวมาเป็นชาวนาบ้านจอมมณี ตำบลพิมาน อำเภอนาแก ได้กล่าวกับตนว่า ปกติทุกปีตนจะเก็บพันธุ์ข้าวไว้ปลูกในปีต่อไป รวมทั้งจำหน่ายจ่ายแจกเกษตรกรบางส่วนซึ่งขายข้าวแบบตกเขียวไปจนหมด อย่างนี้ตนจะต้องรับโทษถึงขั้นติดคุกด้วยหรือ

การจะมีใบอนุญาตรับรองพันธุ์ได้ ก็คงจะมีแต่นายทุนผลิตเมล็ดพันธุ์ขนาดใหญ่เท่านั้น ต่อไปก็จะเป็นการผูกขาด และปิดกั้นการพัฒนาพันธุ์โดยเกษตรกรอย่างสิ้นเชิง ยังสงสัยว่า ชาวนาที่รวมตัวกันเป็นวิสาหกิจชุมชนจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าว ตลอดจนโรงสี คงได้รับผลกระทบจาก พ.ร.บ.ข้าว ฉบับนี้อย่างแน่นอน  

โดยนายชวลิต ตั้งคำถามรัฐบาล 2 ข้อ ดังนี้   

1. ในการเสนอ พ.ร.บ.ข้าวต่อ สนช. รัฐบาลได้ทำตาม กม.รธน.มาตรา 77 ในการนำร่าง พ.ร.บ.ข้าว ไปฟังความเห็นชาวนาอย่างทั่วถึงหรือไม่

 2. ใช้หลักคิดอะไรถึงทำกับเกษตรกร ชาวนา ชาวไร่ เสมือนเป็นอาชญากร เพราะหากฝ่าฝืนไม่ซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ไม่มีใบอนุญาตรับรองพันธุ์ มีโทษถึงขั้นจำคุก        

อย่างไรก็ตาม ช่วงเดือน 3 เป็นช่วงบุญกองข้าว หรือบุญประทายข้าวเปลือก ชาวนาต่างจับกลุ่มวิพากษ์ วิจารณ์เรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง บางคนถึงกับกล่าวว่า รัฐบาลออกกฎหมายบังคับชาวนาอย่างนี้เอื้อประโยชน์นายทุนขนาดใหญ่ชัด ๆ น่าจะเหมือนกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ที่เงินไม่กระจายในตำบล หมู่บ้าน เมื่อคนจนรูดบัตรปรื๊ด เงินก็ไหลเข้านายทุนขนาดใหญ่ที่เป็นเจ้าของกิจการเครื่องอุปโภค บริโภค จึงไม่แปลกใจว่า ภายใต้การบริหารของรัฐบาลนี้มีคำกล่าวอย่างกว้างขวางว่า "รวยกระจุก จนกระจาย"       

"ถ้าการเมืองปกติ พรรคเพื่อไทยจะต่อสู้ในสภา ฯ ปกป้องผลประโยชน์ของชาวนาอย่างถึงที่สุด โดยจะคัดค้านร่างกฎหมายนี้ไม่ให้มีผลบังคับใช้อย่างแน่นอน แม้ขณะนี้จะไม่มี ส.ส.ในสภา ฯ ตนก็จะขอร่วมคัดค้านกับชาวนาไม่ให้ พ.ร.บ.ข้าว ซึ่งมีบทลงโทษชาวนาเหมือนอาชญากรมีผลบังคับใช้ โดยจะต่อสู้ คัดค้านตามแนวทางประชาธิปไตยอย่างถึงที่สุด"