ไม่พบผลการค้นหา
ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวกับชาวเกาหลีใต้ว่า หัวใจของเขาเจ็บปวดเมื่อนึกถึงความทุกข์ทรมานและความเจ็บปวด ระหว่างการปกครองอาณานิคมของญี่ปุ่น ขณะที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นพยายามที่จะสมานสัมพันธ์ ท่ามกลางภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ ทั้งนี้ การเยือนทวิภาคีของคิชิดะในวันอาทิตย์ (7 พ.ค.) ถือเป็นครั้งแรกของผู้นำญี่ปุ่นที่เดินทางเยือนกรุงโซลในรอบ 12 ปี

การเยือนกรุงโซลของคิชิดะในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ ยุนซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่เดินทางไปยังกรุงโตเกียวเมื่อเดือน มี.ค. เนื่องจากพวกเขาพยายามปิดฉากความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์ที่ครอบงำความสัมพันธ์ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้มานานหลายปี

คิชิดะระบุกับผู้สื่อข่าวในการบรรยายสรุปหลังการประชุมสุดยอด โดยคิชิดะประกาศการยุติการแถลงคำขอโทษอย่างเป็นทางการครั้งใหม่ สำหรับความผิดที่เกิดขึ้นในเกาหลีภายใต้การยึดครองของญี่ปุ่นในปี 2453-2488 แต่นายกรัฐมตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า รัฐบาลของเขาได้สืบทอดจุดยืนของฝ่ายบริหารชุดก่อนหน้านี้ ซึ่งบางส่วนได้ออกมากล่าวขอโทษต่อเกาหลีใต้

“สำหรับผมโดยส่วนตัวแล้ว หัวใจของผมเจ็บปวดเมื่อนึกถึงผู้คนมากมาย ที่ต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัสและโศกเศร้า ภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบากในเวลานั้น” คิชิดะกล่าวโดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม ในอีกทางหนึ่ง ยุนกล่าวว่าปัญหาทางประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้รับการแก้ไข ไม่ควรหมายความว่าจะไม่มีการก้าวไปข้างหน้า เพื่อกระชับความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง เมื่อเผชิญกับวิกฤตการณ์ระหว่างประเทศที่กำลังเติบโต และเขาต้องการทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองชาติดีขึ้นกว่าที่เคย

เจ้าหน้าที่อาวุโสในสำนักงานประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าวว่า คำพูดของคิชิดะไม่ได้ถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า และยุนขอบคุณเขาที่ “แสดงจุดยืนที่จริงใจ แม้ว่าจะไม่มีการร้องขอเช่นนั้นก็ตาม” และกล่าวว่าสิ่งนี้จะ “เป็นประโยชน์อย่างมาก สำหรับความร่วมมือในอนาคต” ทั้งนี้ ความแตกต่างทางประวัติศาสตร์ระหว่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่น เป็นเรื่องคุกคามความสัมพันธ์ที่เบ่งบานระหว่างผู้นำทั้งสอง

ภายใต้รัฐบาลของทั้งสองประเทศก่อนหน้ายุคสมัยของยุนและคิชิดะ ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่นตกต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ทั้งนี้ ชาวเกาหลีใต้กล่าวหาว่าญี่ปุ่นใช้แรงงานบังคับในช่วงที่ปกครองอาณานิคม รวมถึงการละเมิดอื่นๆ โดยข้อพิพาทดังกล่าวทวีความรุนแรงขึ้นในปี 2561 เมื่อศาลเกาหลีใต้มีคำสั่งให้บริษัทญี่ปุ่น 2 แห่งจ่ายเงินชดเชย ให้กับอดีตพนักงานชาวเกาหลีสูงอายุบางส่วนจากการบังคับใช้แรงงาน ส่งผลให้ทั้งสองประเทศประกาศมาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจกันไปมา

ในความพยายามเพื่อการแก้ไขความสัมพันธ์ ยุนได้เสนอให้ธุรกิจของเกาหลีใต้ที่ไม่ใช่บริษัทของญี่ปุ่น ทำการชดเชยผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของแรงงานในช่วงสงคราม โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ก่อให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงจากเหยื่อบางราย รวมถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ยุนทำให้เกาหลีใต้เสียมากกว่าได้จากความพยายามในการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับญี่ปุ่น


ที่มา:

https://www.aljazeera.com/news/2023/5/7/japans-kishida-visits-s-korea-to-boost-ties-amid-n-korea-threat?fbclid=IwAR2OTkqmQ41HWXv3mEkuiQ9GcGX9i0oUXKN-vaYMhTHTkInJouA3t21WoG0