วันที่ 19 พ.ค.2565 ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 7 ขึ้นปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายก่อนจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค.นี้ โดยช่วงแรกได้ประกาศว่า ตนขอประกาศยุทธศาสตร์พระราชทานส่งเสริมคนดีให้ปกครองบ้านเมืองและกำจัดการทุจริตให้สำเร็จ เพื่อหักล้างยุทธศาสตร์ "ไม่เลือกเราเขามาแน่" ทั้งนี้ยุทธศาสตร์ส่งเสริมคนดีให้ปกครองบ้านเมือง เป็นพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ส่งเสริมให้คนดีได้ปกครองบ้านเมืองและควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจก่อความเดือดร้อนวุ่นวาย
รสนายังประกาศ 3 จุดยืนส่วนตัว คือ 1.จุดยืนในการยึดมั่นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมน้อมนำพระบรมราโชวาทในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่องการต่อต้านการทุจริต
2.จุดยืนต่อสถาบันทหาร ตนให้ความเคารพทหารที่ปกปักรักษาบ้านเมือง แต่ถ้าทหารที่มาเป็นนักการเมืองและอ้างมาปราบทุจจริต แต่ทุจริตเสียเอง ตนขอคัดค้านและต่อต้าน ส่วนจุดยืนที่ 3.ต่อการเมืองประชาธิปไตย ตนจึงคาดหวังว่านักการเมืองต้องไม่โกงกินภาษีประชาชน และพร้อมที่จะเข้ามาปลดล็อกเรื่องค่ารถไฟฟ้าทำให้ถูกลง รวมถึงพัฒนาเรื่องการศึกษา
นอกจากนี้ รสนา กล่าวถึงกรณีที่มีการปลุกกระแสคน กทม.ให้เลือกตามโพล ว่า เป็นการดูเสียงแค่หลักพัน แต่คน กทม.มีกว่า 4 ล้านคน เพียงเพราะหวังที่จะเอาชนะอีกฝ่าย คล้ายกับการเลือกตั้งครั้งก่อนที่เกิดวลี "ไม่เลือกเราเขามาแน่" ซึ่งเป็นมายาคติที่ฝ่ายการเมืองมีธุรกิจอยู่เบื้องหลังเพื่อแบ่งแยกเพื่อปกครองและนำไปสู่การโกงกินภาษีประชาชน แต่ถึงอย่างไรตนพร้อมประสานงานกับ ส.ก.ทุกพรรคเพื่อประโยชน์ของคนกรุงเทพฯ
ในช่วงท้าย รสนา ระบุว่า ถ้าไม่เลือก รสนา ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 มาแน่ ดังนั้นตนขอให้คน กทม.ที่เคยเทให้คะแนนตอนเป็น ส.ว.ออกมาเลือกตนอีกครั้งหนึ่ง