ไม่พบผลการค้นหา
สภาฯ มีมติ 251 เสียงเห็นชอบให้ปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หลังฝ่ายค้านทักท้วงขอเปิดอภิปรายซักฟอก รมว.มหาดไทยต่อคนสุดท้าย ด้าน 'ศุภชัย' สั่งลงมติไม่ไว้วางใจใน 28 ก.พ.ทันที ขณะที่ 'ประยุทธ์' แจงปิดท้ายขอทุกคนเห็นอกเห็นใจอย่าขัดแย้งแบ่งปันทำความดีใต้ร่มพระบารมี

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 27 ก.พ. ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อขอลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ดำเนินมาถึงช่วงท้ายของวันสุดท้าย หลังจาก ส.ส.ฝ่ายค้านได้อภิปรายจนหมดเวลาแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ทำให้มีการพักประชุม 20 นาที เพื่อให้วิปสองฝ่ายหารือถึงข้อยุติในการอภิปรายที่ฝ่ายค้านหมดสิทธิการอภิปรายแล้วแต่ยังเหลือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ยังไม่มีการอภิปราย เมื่อเปิดประชุมสภาฯ อีกครั้ง นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ยืนยันต้องให้ฝ่ายค้านได้อภิปราย พล.อ.อนุพงษ์ก่อน ทางฝ่ายค้านจึงจะอภิปรายสรุปญัตติได้ ไม่เช่นนั้นการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีจะไม่มีความชอบธรรม 

ขณะที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ยืนยันว่าฝ่ายค้านหมดสิทธิอภิปรายแล้ว โดยนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุมได้เปิดทางให้ พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงต่อในส่วนภาพรวมของรัฐบาล แต่ถูก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ทักท้วงการสรุปของ พล.อ.ประยุทธ์ ทำไม่ได้ตามข้อบังคับฯ เพราะเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะทำหน้าที่สรุปญัตติ

โดยนายศุภชัย วินิจฉัยว่า เวลาของคณะรัฐมนตรียังเหลืออยู่และยังมีเวลาที่จะชี้แจงตามประเด็นที่ฝ่ายค้านได้อภิปรายไปเท่านั้น จึงกำชับให้นายกฯ ได้ชี้แจงในส่วนที่ ส.ส.อภิปรายเท่านั้น


วิรัช สมพงษ์ ฝ่ายค้าน วิปรัฐบาล อภิปรายไม่ไว้วางใจ สภา   0006.jpgประวิตร ประยุทธ์ อภิปรายไม่ไว้วางใจ สภา   27_0001.jpgประยุทธ์ ประวิตร อภิปรายไม่ไว้วางใจ สภา   ddd-63_200227_0001.jpgฝ่ายค้าน วอล์กเอาต์ อภิปรายไม่ไว้วางใจ สภา 55qqqq.jpg อภิปรายไม่ไว้วางใจ สภาddddd.jpg

'ประยุทธ์' วอนทุกฝ่ายเห็นใจอย่าขัดแย้ง แบ่งปันทำความดีในร่มพระบารมี

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชี้แจงว่า ตนเตรียมการรองรับเรื่องภัยแล้งและไวรัสโคโรนา แม้บางครั้งจะมีถ้อยคำรุนแรงก็ขออภัยประชาชนด้วย รัฐบาลยังมีเรื่องต้องทำต่อเนื่องเพื่อลูกเพื่อหลาน ไม่เช่นนั้นการแก้ปัญจะ ตนจะใช้อำนาจตามระเบียบบริหารราชการแผ่น ตนจะทำหน้าที่ต่อไปให้ดีที่สุด หากจะทำได้ตามสิ่งที่สมาชิกแนะนำ ตนจะทำงานไม่เลือกพื้นที่ ไม่เลือกภาค โดยตนมีแผนงานการดำเนินการจะดูแลให้ทั่วถึงทุกภาคทุกกลุ่มทุกจังหวัด ตลอดเวลา 5 ปี 7 เดือน รัฐบาลจะทำงานต่อเนื่อง และคำนึงถึงทุกกลุ่มทุกฝ่าย เราไม่ได้เป็นศัตรูกัน เรายังมีปัญหาเก่าและใหม่ ดังนั้น คนไทยยุคใหม่มีความคิดกระตือรือร้นจะเปลี่ยนแปลง และต้องสร้างความเข้าใจไม่ใช่ศัตรูกัน และต้องนำพาประเทศสงบสุข ขอบอกว่าต้องคำนึงถึงรัฐธรรมนูญ 

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ตนคิดว่าทุกคนที่ร่วมมือกันทุกคนต้องช่วยกันทำความเข้าใจ การเมืงอคือการเมืองการบริหาราชการแผ่นดินด้วย ในส่วนผู้เดือดร้อนเรามีมาตรการดูแล ถ้าทำทุกอย่างยั่งยืน ทุกอย่างจะแก้ไขได้ ดังนั้น ต้องแก้ปัญหาภัยแล้ง ดีกว่าจะมีความขัดแย้งต่อไป ทุกคนต้องเข้าใจเห็นอกเห็นใจ รักษาสิทธิ เคารพกฎหมาย แบ่งปันทำความดี ภายใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ด้าน นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และวิปรัฐบาล หารือต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า เมื่อไม่มีผู้ใดอภิปรายถือว่าปิดการอภิปราย แต่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ทักท้วงการเสนอญัตติปิดอภิปราย พร้อมระบุว่าใช้เสียงข้างมากปิดการอภิปรายฝ่ายค้าน จากนั้นนายวิรัช เสนอญัตติขอปิดการอภิปราย โดยมีสมาชิกรับรองถูกต้อง โดยนายศุภชัย ได้ชี้แจงนายจุลพันธ์ว่า "ปิดอะไร 4 วัน 4 คืนปิดปากอะไร" ทำให้นายจุลพันธ์ เสนอญัตติขอให้มีการอภิปรายต่อ ทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้านต่างใช้สิทธิวอล์กเอาต์เดินออกจากห้องประชุม

โดยที่ประชุมสภาฯ ได้ตรวจสอบองค์ประชุมปรากฎว่ามี ส.ส. แสดงตนครบองค์ประชุม 259 คน ถือว่าครบองค์ประชุม จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติ 251 เสียงเห็นด้วยกับการปิดอภิปราย งดออกเสียง 7 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง จากผู้แสดงตน 260 คน จากนั้นนายศุภชัยเห็นว่าฝ่ายค้านไม่ใช้สิทธิอภิปรายสรุปญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อ จึงสั่งพักการประชุมพร้อมนัดประชุมเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและ อีก 5 รัฐมนตรีในวันที่ 28 ก.พ. เวลา 09.30 ที่รัฐสภา เกียกกาย