'เวนิส' หรือ 'เมืองแห่งสายน้ำ' สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในทะเลเอเดรียติกซึ่งเป็นเมืองหลักของแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี เป็นที่อยู่อาศัยของประชากรราว 270,000 คน กำลังจมอยู่ใต้น้ำที่มีความสูงราว 1 เมตร ซึ่งถือเป็นเหตุการน้ำท่วมขังที่ไม่รุนแรงแต่ผิดปกติ เนื่องจากเกิดขึ้นในฤดูร้อน โดยทั่วไปเหตุการณ์น้ำท่วมขังที่เรียกว่า "Acqua Alta" ซึ่งหมายถึง High Water หรือ "ระดับน้ำขึ้นสูง" นั้นมักจะเกิดขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงไปจนถึงฤดูหนาวของทุกๆ ปี 

จากภาพ นักท่องเที่ยวทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างกำลังเพลิดเพลินกับการเล่นน้ำและถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนาน ณ จตุรัสเปียซซาซานมาร์โคอันโด่งดังของเวนิส ที่ระดับน้ำเพิ่มสูงราว 1 เมตรภายในระยะเวลาชั่วข้ามคืนของวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา 

อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำที่กำลังสูงขึ้นในทุกๆ ปีอันมีสาเหตุมาจากภาวะโลกร้อน และการเดินทางด้วยเรือภายในตัวเมือง สร้างความเสียหายอย่างมากให้กับอาคารบ้านเรือนที่กำลังเสี่ยงจมน้ำในทุกขณะ โดยชั่นล่างของอาคารมากมายจมอยู่ใต้น้ำจนไม่วามารถใช้งานได้อีกต่อไป และในเดือน พ.ย. 2562 เวนิสได้รับความเสียหายจาก "Acqua Alta" นี้ไปเป็นเม็ดเงินหลายล้านยูโร

'เวนิส' คือเมืองมรดกโลกที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวราว 25-30 ล้านคนในแต่ละปี (สำรวจโดย Telegraph 2018) เมืองที่มีขนาดเพียง 8 ตารางกิโลเมตรนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ ในทะเลสาบเวนิเทียซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลเอดรียติกเข้าด้วยกัน 

ทางการเวนิสทุ่มงบประมาณหลายล้านยูโรในหลากหลายโครงการ นับตั้งแต่ปี 2546 เช่นโครงการประตูเหล็กระบบไฮดรอลิกกันน้ำทะเลไม่ให้เข้าสู่ตัวเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อป้องกันอาคารบ้านเรือนไม่ให้จมและถูกทำลายจากคลื่นและน้ำทะเลที่กำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ บวกกับการเกิดน้ำท่วมขังนับร้อยครั้งต่อปี และการมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่หนาแน่นเกินกว่าที่เมืองจะรับไหว