ไม่พบผลการค้นหา
'อนาคตใหม่' ขอทวงอำนาจร่างรธน.จากคณะรปห.ให้ประชาชน เตรียมเสนอร่างฉบับใหม่ก่อนรณรงค์ คนรุ่นใหม่แห่ฟัง 'ปิยบุตร' บรรยายเพียบ - เปรียบ รธน.'60 เหมือนระเบิดเวลา ต้องถอดสลัก

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุก่อนจะตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญตามที่ฝ่านค้านเสนอ ควรทำประชามติถามประชาชนก่อนว่าต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่า เรื่องนี้ไม่มีปัญหา เพียงแต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนไว้ว่า ในท้ายที่สุดถ้าแก้รัฐธรรมนูญในเรื่องใหญ่ เช่น แก้วิธีการแก้ หรือแก้เพื่อไปทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ มันต้องไปจบที่ประชามติอยู่ดี

เบื้องต้นทางพรรคอนาคตใหม่และพรรคร่วมฝ่ายค้านเพียงต้องการเริ่มต้นแคมเปญขึ้นมาเพื่อหาฉันทามติของสังคมให้ได้ว่าประเทศไทยพร้อมหรือยังที่จะเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ร่วมกัน จึงใช้ชื่อโครงการว่า “ทวงคืนอำนาจการจัดทำรัฐธรรมนูญของประชาชน” หลังจากตั้งแต่ปี 2549 คณะรัฐประหาร 2 ชุดเอาอำนาจเขียนรัฐธรรมนูญไป นี่จึงเป็นการทวงอำนาจกลับมาไว้ที่ประชาชน ส่วนจะเขียนในรูปแบบใดนั้น เป็นเวทีที่เปิดกว้าง สามารถพูดคุยกันได้

เมื่อถามว่า ขณะนี้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ถูกเสนอเข้าสู่ที่ประชุมร่วมของพรรคฝ่ายค้านแล้วหรือไม่ นายปิยบุตรกล่าวว่า ตอนนี้ที่พรรคฝ่ายค้านเสนอร่วมกัน มีหลักใหญ่คือกำหนดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญมาจากการเลือกตั้งของประชาชน และสภาร่างรัฐธรรมนูญนี้จะไปเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ จากนั้นจึงจัดให้มีประชามติ ส่วนรายละเอียดว่าสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) ควรมีกี่คน ประกอบด้วยใครบ้าง หรือมีที่มาอย่างไร เรื่องนี้สามารถพูดคุยปรับเปลี่ยนได้เสมอ แต่อย่างน้อยในการรณรงค์ต้องมีร่างที่หย่อนลงไปในสังคมเพื่อให้ขบคิดกันว่าจะเอาแบบไหน

ในการบรรยายสาธารณะความจริงประเทศไทย ในหัวข้อ “รัฐประหารกับการเปลี่ยนผ่านรัฐธรรมนูญไทย” นายปิยบุตร กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐธรรมนูญ 2560 มีลักษณะคล้ายระเบิดเวลา ที่รอวันทำลายตัวเอง เนื่องจากขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน เพราะในขั้นตอนยกร่างมีลักษณะชงเอง เขียนเอง กินเอง แม้ให้ประชาชนประทับตรารับรองในตอนท้าย แต่เขียนขั้นตอนที่ยากต่อการแก้ไข ซึ่งกรณีดังกล่าวขัดต่อหลักการที่ทำให้รัฐธรรมนูญอายุยืน ที่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนแบบมหาศาลและมีความเห็นร่วมกัน

ดังนั้นทุกคนต้องช่วยแก้ไขถอดสลักระเบิดเวลาดังกล่าว ซึ่งตนเชื่อว่าเมื่อประชาชนมีส่วนร่วมต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะทำให้รู้สึกหวงแหน 

"ภายใน 1-2 ปี รัฐธรรมนูญ 2560 และรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะถูกทดสอบ คนที่พูดบ่อยๆ ว่าไม่ทำรัฐประหาร ผมมองว่าหากจะทำหรือไม่ทำ ไม่ต้องส่งสัญญาณ คนที่เป็นนายทหารอาชีพ จะไม่พูดเรื่องการเมือง แม้จะพูดว่าไม่ต้องกังวล ผมว่าพูดแบบนี้ต้องยิ่งกังวล เพราะการส่งข้อความแบบนี้ไม่ใช่หน้าที่ของทหารอาชีพ คนที่เป็นทหารอาชีพ ต้องไม่มีเรื่องการรัฐประหารอยู่ในหัวและไม่พูดเรื่องการเมือง" นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวด้วยว่า รัฐธรรมนูญ 2560 ไม่เป็นไปตามขั้นตอนที่นำไปสู่การเปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐธรรมนูญประชาธิปไตย เพราะยังเป็นระบอบเผด็จการครึ่งใบ แม้มีการเลือกตั้งบางครั้ง แต่ผลเลือกตั้งได้คนเดิม และยังพบการสืบทอดอำนาจ ดังนั้นต้องเปลี่ยนรัฐธรรมนูญด้วยกระบวนการปฏิรูปที่ละมุนละม่อม ผ่านการสร้างฉันทามติจากประชาชนว่าไม่เอารัฐธรรมนูญ 2560 และนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยประชาชน 

แม้ในสังคมจะมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน แต่สภาพสังคมไทยสามารถพูดคุยร่วมกันได้ เพื่อให้เกิดความร่วมมือ โดยเฉพาะการใช้พลังของคนรุ่นใหม่ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่ผลักคนรุ่นใหม่ออกไปจากพื้นที่ เช่น การไล่ให้เข้าป่าเหมือนเหตุการณ์ในอดีต ดังนั้นใครก็ตามที่ครองอำนาจ ต้องคิดไกลและกว้างกว่าเดิม 

ทั้งนี้ บรรยากาศการบรรยายเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้ร่วมรับฟังกว่า 100 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ โดยก่อนที่นายปิยบุตรจะบรรยาย ได้กล่าวกับผู้ฟังว่า เวทีบรรยายนี้ เป็นข้อเท็จจริง ไม่ใช่เฟคนิวส์ และเป็นสิ่งที่ทำได้ตามกฎหมาย ที่กำหนดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องมีหน้าที่ส่งเสริมและให้ความรู้เรื่องการเมืองไทยในระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ ภายหลังการบรรยายเสร็จสิ้น ยังมีผู้ฟังเข้าแถวรอพูดคุยและถ่ายภาพร่วมกับนายปิยบุตรด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :