สำนักข่าวไทยรายงาน ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูตร อายุ 65 ปี ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลย ในความผิดฐาน มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯ พ.ศ.2490
โดยอัยการยื่นฟ้องคดี เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2561 ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 61 จำเลยกระทำผิดกฎหมายด้วยการมีอาวุธปืนยาวไรเฟิล 3 กระบอก และปืนแก๊บ 1 กระบอกไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตภายในบ้านพักเลขที่ 12/3 ซ.ศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ซึ่งนายเปรมชัยจำเลยได้รับการประกันตัวชั้นพิจารณาในวงเงิน 200,000 บาท โดยไม่มีการกำหนดเงื่อนไขใดๆ
คดีนี้ในชั้นสอบปากคำให้การจำเลย เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2561 นายเปรมชัย เคยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา นัดเริ่มสืบพยานโจทก์ นายเปรมชัย จำเลย ได้แถลงให้การรับสารภาพ พร้อมยื่นคำร้องประกอบต่อศาลเพื่อพิจารณา ศาลจึงมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจประวัติครอบครัว การศึกษา การทำงาน และอื่นๆ ของจำเลย และรายงานให้ศาลทราบภายใน 30 วันเพื่อประกอบการพิจารณา
โดยวันนี้ (20 ส.ค.) นายเปรมชัย เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมทนายความ และก่อนฟังคำพิพากษา นายเปรมชัยมอบอำนาจให้ทนายความ ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ลงโทษสถานเบา หรือรอลงอาญา โดยระบุว่า 1. จำเลยจะขออุปสมบท (บวช) ที่วัดบวรนิเวศหรือวัดอื่นเป็นเวลา 15 วันเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล 2. จำเลยจะบริจาคเงินส่วนตัว 3 ล้านบาทเพื่อเป็นการสาธารณประโยชน์ และ 3.จำเลยจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับอาวุธปืนอีกตลอดชีวิต
ขณะที่ศาล แจ้งให้ฝ่ายจำเลยทราบว่า อัยการโจทก์ได้ขอแก้ไขคำฟ้องโดยระบุเพิ่มเติมว่า ในการครอบครองยังมีกระสุนปืนไรเฟิลอีกจำนวน 3 นัด ซึ่งสอบถามฝ่ายจำเลยพร้อมตรวจสอบกับรายงานการตรวจพิสูจน์แล้วไม่คัดค้าน โดยจำเลยยังคงยืนยันให้การรับสารภาพ
อย่ารไรก็ดี ศาลพิเคราะห์รายงานสืบเสาะประวัติ ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวซึ่งผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษจำคุก 1 ปี ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7 ,72 วรรคหนึ่ง ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 6 เดือน แต่เนื่องจากจำเลย ยังมีโทษคดีอาญาจำคุกอีก 2 คดีในศาลจังหวัดทองผาภูมิและศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พฤติการณ์จึงไม่รอการลงโทษ
เมื่อมีคำพิพากษาแล้ว ศาลก็ได้อธิบายให้ นายเปรมชัย ฟังว่าคำร้องที่ นายเปรมชัยยื่นมาในวันนี้ระบุจะปฏิบัติ 3 ข้อนั้น หากปฏิบัติได้ก็ขอให้ทำต่อไปซึ่งเป็นการทำความดี แต่ในส่วนของการรอการลงโทษนั้นเนื่องจากนายเปรมชัย ยังมีคดีอาญาที่ศาลพิพากษาจำคุกอยู่ 2 คดีจึงไม่อาจที่จะรอการลงโทษได้
ทั้งนี้ ภายหลังศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกโดยไม่รอลงอาญานายเปรมชัยเป็นเวลา 6 เดือนแล้วทางทนายความก็ได้ยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี
ก.ล.ต. ชี้บริษัทและผู้ถือหุ้นเป็นผู้ชี้ขาด 'เปรมชัย' เหมาะสมนั่งบริหาร บจ. หรือไม่
นายธวัชชัย พิทยโสภณ ผู้ช่วยเลขาธิการสายกฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า กรณีที่มีสื่อมวลชนสอบถามเกี่ยวกับกรณีที่ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุกนายเปรมชัย กรรณสูต ในความผิดฐาน มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยไม่รอลงอาญานั้น
ก.ล.ต. ขอแจ้งว่า ลักษณะความผิดที่จะเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามการเป็นกรรมการและผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (บจ.) ต้องเป็นความผิดที่เกี่ยวกับหลักทรัพย์ การทุจริต ฉ้อโกง หรือเรื่องที่เกี่ยวกับการบริหารงานของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นมิได้เข้าลักษณะดังกล่าว
อย่างไรก็ดี การกระทำความผิดกฎหมายอื่น คงต้องเป็นการพิจารณาว่าเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมหรือแนวทางธรรมาภิบาลของบริษัทหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่บริษัทและผู้ถือหุ้นควรจะพิจารณาแนวการดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง