สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ได้แถลงข่าวเปิดตัวเข้าร่วมทำงานกับพรรคชาติพัฒนา เตรียมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า และที่ประชุมใหญ่ประจำปีของพรรคชาติพัฒนา ก็ได้มีการหารือระดับแกนนำเบื้องต้น โดยเห็นตรงกันให้กรณ์ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค พร้อมกับจะเปิดตัวบุคคลจากพรรคกล้าที่จะตามมาอยู่กับพรรคชาติพัฒนาอีกจำนวนหนึ่งด้วยนั้น

ในเรื่องนี้ สุวัจน์ กล่าวว่า เป็นอีกกลไกหนึ่งในการสู้กับวิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพราะส่งผลกระทบไปถึงประชาชนทุกกลุ่มทุกอาชีพ และยังไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ประกอบกับรัฐบาลจะหมดวาระในราวเดือน มี.ค. 2566 หรืออย่างช้าที่สุดก็จะมีการเลือกตั้งในช่วงนั้นหรือก่อนหน้านั้น จึงเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่จะเตรียมตัวและอาสาเข้ามาแก้ไขปัญหา ซึ่งปัญหาที่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน ก็คือเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสินค้าราคาแพง

พรรคชาติพัฒนาจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมในส่วนนี้ ซึ่งพรรค เคยมีพื้นฐานความสำเร็จเรื่องการแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจมาแล้วในอดีต ฉะนั้นการเลือกตั้งที่จะมาถึงเร็วๆนี้ ทางพรรคก็ตั้งใจที่จะมีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และจะมีทีมที่เข้มแข็ง เชื่อถือได้ เข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้กับพี่น้องประชาชน จึงได้เชิญกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ที่ถือว่าเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ และเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้ที่มีภาพลักษณ์ที่ดี และเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ มาร่วมกันทำงานเพื่อที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต่างๆให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งได้มีการแถลงไปแล้ว และกรณ์ ได้บอกกับตนมาว่า สัปดาห์หน้าจะพาทีมเศรษฐกิจมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติพัฒนา ก็ถือว่าได้ผู้ร่วม งานที่ดีที่จะทำให้พรรคชาติพัฒนาเข้มแข็งขึ้น และจะสามารถเป็นที่คาดหวังของพี่น้องประชาชนได้ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ

วันนี้ พรรคชาติพัฒนายังอยู่ตามปกติ แต่มีผู้มาร่วมทำงานกับพรรคมากขึ้น และต่อไปก็จะมีกลไกอื่นๆ เข้ามาเพิ่มอีก เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง เช่น การปรับปรุงโครงสร้างพรรค หรือตำแหน่งที่ว่างเว้นอยู่ ตอนนี้ที่จำเป็นเร่งด่วนคือประธานสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง และก็มีรองหัวหน้าพรรค กับกรรมการบริหาร อีกประมาณ 7 คน ทางพรรคจึงต้องจัดสรรและหาคนเข้ามาเติมตำแหน่งให้เต็ม เป็นการปรับโครงสร้างพรรค และจะต้องปรับภาพลักษณ์ของพรรค เป็นการรีแบรนด์ เพื่อให้สมาชิกพรรคและประชาชนเกิดความเชื่อมั่น จากนี้ไป ทางพรรคก็มีความเคลื่อนไหวเป็นระยะๆ เพื่อจะเตรียมข้าสู่สนามเลือกตั้ง แต่ตอนนี้ เทวัญ ลิปตพัลลภ ยังคงเป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาอยู่ และสัปดาห์หน้า จะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อกำหนดวันจัดประชุมใหญ่ภายในเดือนกันยายนนี้ โดยการประชุมใหญ่ จะมีวาระสำคัญ 2 วาระ คือ การเลือกประธานสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง และการแต่งตั้งผู้ที่เหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งที่ว่างลง

สุวัจน์ กล่าวเพิ่มเติมถึง กรณ์ ว่า ถือเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และเก่งทางเรื่องเศรษฐกิจ ตนจึงเชื่อมั่นว่า เมื่อมาร่วมงานกับพรรคชาติพัฒนาแล้ว ก็จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ส่วนตำแหน่งที่เหมาะสมจะเป็นตำแหน่งใด ก็เป็นเรื่องของสมาชิกพรรคที่จะได้พิจารณาร่วมกันต่อไป แต่โดยส่วนตัวแล้ว ตนมองว่า เป็นบุคคลที่มีศักยภาพในการที่จะทำงาน และมีความรู้ความสามารถ ฉะนั้น ก็ต้องมีสถานภาพ มีตำแหน่งที่เหมาะสมมารองรับเพื่อให้สามารถเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในพรรคชาติพัฒนาให้สำเร็จลุล่วงได้ด้วย โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ส่วนจะเป็นตำแหน่งใดนั้น ก็เป็นเรื่องการดำเนินการต่อไปในพรรค ส่วนทีมเศรษฐกิจของกรณ์ ที่จะเข้ามาสมัครเป็นสมาชชิกพรรคชาติพัฒนา ตอนนี้ตนยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ฉะนั้น ก็ถือว่าพรรคชาติพัฒนายังอยู่ และมีกรณ์ กับทีมเข้ามาร่วมทำงานด้วย ส่วนทางพรรคก็จะมีการปรับปรุงโครงสร้างพรรค จัดทำนโยบายพรรค มีการรีแบรนด์ภาพลักษณ์ต่างๆของพรรค เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อไป ซึ่งตนเชื่อว่า จะช่วยให้พรรคมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เพราะการเมืองในยุคนี้ ต้องมีการผสมผสาน และมีความครบเครื่องในเรื่องของการแก้ไขปัญหา ทั้งวิกฤติการเมือง วิกฤติเศรษฐกิจ