ไม่พบผลการค้นหา
อธิบดีกรมควบคุมโรค แจงหญิงไทยเตรียมตัวเดินทางไปต่างประเทศ ตรวจพบแค่ซากเชื้อโคโรนาไวรัสเท่านั้น ไม่เสี่ยงแพร่ระบาด อีกเคสรอผล

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวชี้แจงกรณีมีผู้สงสัยเชื้อติดไวรัสโควิด-19 ที่ รพ.รามาธิบดี โดยทั้ง 2 เคสที่มีรายละเอียดดังนี้

ผู้ติดเชื้อรายแรก เป็นเพศหญิง 34 ปี จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เดินทางกลับไทยวันที่ 2 มิ.ย. 2563 ไม่มีอาการ เข้ารับการกักตัว 14 วัน โดยตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครั้งแรกวันที่ 5 มิ.ย. พบสารพันธุกรรมปริมาณน้อย สรุปผลกำกวม (inconclusive)

ตรวจครั้งที่สองในวันที่ 13 มิ.ย. ไม่พบเชื้อ และได้รับอนุญาตเดินทางกลับภูมิลำเนา จ.ชัยภูมิ และพักแยกตัวที่บ้านจนครบ 30 วัน 

ต่อมาในวันที่ 17 ส.ค. เนื่องจากเจ้าตัวต้องเตรียมตัวไปต่างประเทศ จึงได้มาตรวจสุขภาพ ที่ รพ.รามาธิบดี 

ผลตรวจออกมาในวันที่ 18 ส.ค. พบสารพันธุกรรมของเชื้อโควิด-19 ปริมาณน้อย ขณะเดียวกันตรวจเลือดตรวจพบมีภูมิคุ้มกันแล้ว ขณะนี้ แพทย์รับไว้ดูแล 

โดยสรุป 'เคสแรก' เป็นผู้ติดเชื้อรายเดิม และพบซากเชื้อ รวมถึงรายนี้ได้กักตัวครบตามมาตรการ จึงถือว่า ไม่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค

ผู้ติดเชื้อรายที่สอง เป็นหญิงอายุ 35 ปี ทำงานที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เดินทางกลับไทยในวันที่ 24 มิ.ย. และได้กักตัวใน State Quarantine ครบ 14 วัน โดยระหว่างกักตัว ได้รับการตรวจเชื้อสองครั้ง ไม่พบเชื้อ ได้รับอนุญาตกลับภูมิลำเนา จ.เลย 

จากนั้น เมื่อ 16 ส.ค. ได้เดินทางเข้ากรุงเทพมหานครด้วยรถยนต์ส่วนตัว เพื่อเตรียมตัวไปทำงานต่างประเทศ และได้เข้ารับการตรวจสุขภาพที่ รพ.รามาธิบดี ในวันที่ 18 ส.ค. ผลการตรวจ พบสารพันธุกรรมเชื้อโควิด-19 โดยขณะนี้ รพ.รามาธิบดี ได้ติดตามนำตัวมาดูแลที่โรงพยาบาลแล้ว

โดยจากข้อมูลทางระบาดวิทยา คาดว่า เป็นการติดเชื้อในประเทศได้น้อยมาก แต่ต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งนี้ประสานหน่วยงานติดตามคนในครอบตรัว คนใกล้ชิด เฝ้าระวังเพิ่มเติมแล้ว