เมื่อเวลา 15.20 น.วันที่ 18 พ.ย. 2566 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทวีตข้อความผ่าน X ถึงการช่วยเหลือคนไทยในเมียนมาว่า รัฐบาลไทยติดตามสถานการณ์และดำเนินการช่วยเหลือคนไทยในเมียนมาอย่างต่อเนื่อง ทางกระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือคณะคนไทยจำนวน 41 คนนั้น เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งหมดเดินทางข้ามพรมแดน จ.ท่าขี้เหล็ก เข้ามายัง อ.แม่สาย จ.เชียงราย และได้ขึ้นรถบัสมาถึงสโมสรค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงรายอย่างปลอดภัยแล้วครับ
ด้าน กระทรวงการต่างประเทศ ประกาศเกี่ยวกับคนไทย 41 คน ว่า เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน คนไทยกลุ่มดังกล่าว ได้เดินทางข้ามพรมแดน จ.ท่าขี้เหล็ก เข้ามายัง อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยปลอดภัยแล้ว และได้ขึ้นรถบัสของกองทัพบกเพื่อเดินทางไปยังสโมสรค่ายเม็งรายมหาราช จ.เชียงราย และได้เข้าสู่กระบวนการคัดกรอง โดยมีเจ้าหน้าที่ร่วมสอบปากคำ เพื่อคัดแยก กลุ่มที่เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ และกลุ่มที่เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ออกจากกัน
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศขอเรียนว่า ขั้นตอนในการช่วยเหลือกลุ่มคนไทยจากเมืองเล้าก์ก่ายทั้งที่กลับมาแล้ว และกลุ่มสองร้อยกว่าคนที่กำลังดำเนินการอยู่มีความซับซ้อนและมีกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กล่าวคือ
1. คนต่างชาติที่จะเข้าไปยังบริเวณเล่าก์ก่าย ล่าเซี่ยว และบริเวณดังกล่าว ต้องได้รับอนุญาตก่อนเข้าพื้นที่ จึงทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการเข้าเมืองผิดกฎหมายเมียนมา ดังนั้น จึงมีกระบวนการศาลเข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งใช้เวลานานในการพิจารณา และทางการเมียนมา ต้องยกเว้นการดำเนินคดีโดยอาศัย พรบ. ฉุกเฉิน
2. นอกจากนี้ กลุ่มคนส่วนใหญ่ที่ทำงานที่เล่าก์ก่ายโดยมากกลุ่มเป็น call center หรือ scam center ทำให้กลุ่มคนไทยอาจเข้าข่ายสมรู้ร่วมคิด หรือมีส่วนรู้เห็นในการหลอกลวง ฉ้อฉล เพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อโอนเงินให้ มีความผิด แต่มีเหตุยกเว้นโทษ หากถูกบังคับถูกทำร้ายร่างกาย ตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัว จึงต้องกระทำความผิด
ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้สั่งการให้ทุกฝ่ายเร่งรัดดำเนินการเพื่อช่วยเหลือคนไทยออกสู่พื้นที่ปลอดภัยโดยเร็วที่สุด ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้งและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้พยายามเจรจา ผลักดันและหารือกับทางการเมียนมาอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด เพื่อให้ถือว่ากลุ่มคนไทยดังกล่าวเป็นผู้หนีภัยจากการสู้รบ จึงสามารถทำให้ทางการเมียนมาเข้าใจและอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับไทยให้คนเหล่านี้ กระทรวงการต่างประเทศจึงขอขอบคุณรัฐบาลเมียนมา หน่วยงานและองค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ให้ความช่วยเหลือคนไทยทั้ง 41 คน ให้ได้กลับประเทศไทยอย่างปลอดภัย
สำหรับคนไทยกลุ่มสองร้อยกว่าคนนั้น ยังอยู่ในกระบวนการอพยพอยู่ ซึ่งมีความซับซ้อนและความละเอียดอ่อนในด้านต่างๆ จึงยังขอไม่แจ้งรายละเอียดในชั้นนี้