สืบเนื่องจากวันที่ 20 ก.ค. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล วันที่สอง ระหว่างการอภิปรายของสมาชิกสภาฯ นั้น เวลาประมาณ 23.20 น. จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นกล่าวต่อ สุชาติ ตันเจริญ ที่ปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาในขณะนั้นถึงกรณีของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าราษฎร ได้จัดกิจกรรมแคมป์ปิ้งหน้าสภาฯ เพื่อรับฟังการลงมติ และอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล
โดย จุลพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ด้านนอกสภาฯ มีฝนตกหนัก และน้ำท่วมขังรุนแรง มีพี่น้องประชาชนจำนวนหนึ่งที่มารับฟังคู่ขนานการอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ ด้วยความสงบ จึงอยากให้ประธานสภาฯ ได้โปรดดำเนินการดูแลความปลอดภัย และหาหนทางเพื่อที่จะช่วยเหลือให้เขาเหล่านั้นอยู่อย่างไม่ลำบาก เพราะเขาคือประชาชนที่มารับฟังการทำงานของสภาผู้แทนราษฎร
ขณะที่ ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ก็ได้ลุกขึ้นกล่าวกับประธานสภาฯ ในประเด็นเดียวกันว่า เนื่องจากสภาพอากาศด้านนอกมีฝนตกหนัก และมีพี่น้องประชาชนกำลังลำบากอย่างหนัก พื้นที่ที่ทางสภาฯ เตรียมไว้ให้ค่อนข้างมีปัญหา จึงอยากจะรบกวนประธานสภาฯ ให้สั่งการเจ้าหน้าที่สภาฯ เข้าไปดูแลประชาชน หากตรงไหนที่เดือดร้อนก็จะได้ขยับขยายกันได้
ด้าน สุชาติ ตันเจริญ ในฐานะประธานสภาในการประชุมขณะนั้น กล่าวว่า เมื่อสักครู่ รองเลขาฯ หน้าบัลลังก์ประธานสภาฯ ได้นำเรื่องมารายงาน และตนได้อนุญาตให้ประชาชนใช้อุโมงค์ด้านหน้ารัฐสภาเพื่อเป็นที่หลบฝน และได้ฝากเรียนกับกลุ่มประชาชนที่มาติดตามฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า อย่ายึดพื้นที่บริเวณอุโมงค์เป็นฐานที่มั่น ถ้าหากฝนหายแล้วก็ให้ย้ายกลับที่เดิม
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลเป็นวันแรกนั้น กลุ่มที่เรียกตัวเองว่าราษฎร ได้มาปักหลักพื้นที่บริเวณลานประชาชน หากแต่ ว่าที่เรือตรี ยุทธนา สำเภาเงิน ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ในฐานะโฆษกประจำสำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร ได้ชี้แจง ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากสำนักงานฯ ในฐานะผู้ว่าจ้างก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ยังไม่ได้รับมอบพื้นที่ตามสัญญาจ้างจากบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้รับจ้างก่อสร้าง ประกอบกับระเบียบรัฐสภาว่าด้วยการบริหารจัดการพื้นที่และอาคารรัฐสภา พ.ศ. 2565 ได้กำหนดหลักการไว้ว่า ในการใช้งานพื้นที่หรืออาคารรัฐสภาจะต้องเป็นไป เพื่อการปฏิบัติหน้าที่นิติบัญญัติ หรือการบริหารราชการฝ่ายรัฐสภา ด้วยเหตุนี้ สำนักงานเลขาธิการ จึงยังไม่อาจอนุญาตตามความประสงค์ในขณะนี้ได้