วันที่ 30 พ.ค. 2565 จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายในที่ประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2566 ว่า ตนอยู่สภาฯ มาไม่เคยเห็นการจัดทำงบประมาณได้น่าเกลียด เหยียบย่ำ กระเป๋าสตางค์คนไทย ที่เสียภาษี ทำประเทศไร้อนาคต ย่ำยี คนไทยให้ด้อยค่า ในเวทีโลกเสียเหลือเกิน จนครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีฉายาว่า 'พระบิดานักกู้แห่งมหาเอเชียบูรพา'
"ขอเตือนไปยังนายกรัฐมนตรีว่า ถ้าหากยังลอยตัว ชูตนเองว่าซื่อสัตย์สุจริต แต่บริวารว่านเครือสวาปามกันเป็นว่าเล่นไม่เจาะลึกหรือสอบถามรายกระทรวง ว่าแต่ละกระทรวงวางแผนงาบงบกันอย่างไร ชาตินี้นายกรัฐมนตรีก็จะถูกตราหน้าว่า เป็นบุรุษผู้ไร้น้ำยาในการปราบโกง แต่มีน้ำยาในเรื่องการกู้เพราะอยู่มา 8 ปี กู้มากจนติด 5 อันดับของโลก"
จิรายุ กล่าวอีกว่า พรรคได้มอบหมายให้ตนเกาะติดการใช้งบรายกระทรวง โดยพบว่า หลายกระทรวง มีปลัด และอธิบดีที่เตรียมตัวจะเกษียณในเดือน ก.ย.นี้จัดทำงบประมาณไว้หาเงินทอน 40-50% โดยวางแผนกับเอกชนเตรียมรับงาน ชนิดสวาปามงาบงบ โดยเตรียมฟาดงบฯ ไว้ เพื่อตุนเสบียงไว้ไปลงเลือกตั้ง เป็นการใช้เงินประชาชนแบบไม่ลงทุน ใช้เงินหลวง ใช้ของหลวง โดยเตรียมจะไปเล่นการเมืองอย่างน่าเกลียด ซึ่งตนได้รับข้อมูลจำนวนมากและจะนำมาแฉเพื่อให้องค์กรอิสระได้ดำเนินการเอาผิดต่ออธิบดีหลายคน
"อย่าคิดว่าชีวิตหลังเกษียณจะเอาเงินทอนไปเสวยสุขได้ หากเริ่มต้นด้วยการเบียดบังทรัพยากรของรัฐและภาษีของประชาชนรับรองได้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเมืองจะลงทัณฑ์” จิรายุ กล่าว