ไม่พบผลการค้นหา
รมว.กห.สหรัฐฯ เยือนไทยพบ 'ประยุทธ์' ถกปัญหาทะเลจีนใต้และเมียนมา - นายกฯ ย้ำหนุนทางแก้ด้วยสันติวิธี -โฆษก กห. เผยรับฟังเสียง 'จตุพร' ห่วงบทบาทไทยกับอเมริกา

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 13 มิ.ย. 2565 ที่ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมให้การต้อนรับ ลอยด์ เจ. ออสติน รมว.กลาโหม สหรัฐอเมริกาในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกในฐานะแขกของกระทรวงกลาโหม ในระหว่าง 12 - 14 มิ.ย.นี้

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า สองฝ่ายกล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-สหรัฐฯ ที่มีพัฒนาการแน่นแฟ้นอย่างต่อเนื่องยาวนาน และขอบคุณการสนับสนุนความร่วมมือทางทหาร พร้อมทั้งได้แลกเปลี่ยนมุมมองร่วมกันต่อสถานการณ์ความมั่นคงของภูมิภาค อาทิ ปัญหาทะเลจีนใต้และเมียนมา โดยไทยสนับสนุนการดำรงบทบาทที่สร้างสรรค์และการปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ การแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีและยืนยันในท่าทีของอาเซียน โดยที่ผ่านมาไทยได้ให้การช่วยเหลือผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบเมียนมาตามหลักมนุษยธรรมต่อเนื่องมา และไม่ต้องการให้เกิดปัญหาขัดแย้งที่ไม่พึงประสงค์ของภูมิภาค 

ขณะที่สหรัฐฯ ยืนยันและพร้อมผลักดันการสนับสนุนพัฒนากองทัพไทยให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ทั้งการฝึก ศึกษา ยุทโธปกรณ์และการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยเฉพาะ การพัฒนาศักยภาพร่วมกันด้านไซเบอร์และอวกาศ ซึ่งในปี 2566 หลังผ่านความท้าทายของโควิด-19 จะได้มีความร่วมมือกัน จัดการฝึกร่วมผสมคอบบร้าโกลด์ เต็มรูปแบบ โดยจะมีการฝึกด้านไซเบอร์และอวกาศ เพื่อยืนยันและสะท้อนความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างกัน 

โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีกลุ่ม จตุพร พรหมพันธ์ุ ประธาน นปช. ได้จัดเสวนาทางวิชาการที่ผ่านมา และเดินทางมาแสดงเจตนารมณ์ยื่นหนังสือกังวลต่อบทบาทของสหรัฐฯ ที่มีต่อไทยบริเวณหลังกระทรวงฯ ในวันเดียวกัน ว่า ขอบคุณ จตุพรและกลุ่มผู้เสวนา ที่แสดงความห่วงใยต่อประเทศ และมีข้อสังเกตร่วมกันต่อปัญหาหรือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยได้เดินทางมาแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในวันนี้ด้วยความเรียบร้อย  ซึ่งถือเป็นสิทธิตามกฎหมายที่สามารถทำได้ และเป็นเรื่องดีที่สังคมตื่นตัว ตระหนักและมีส่วนร่วมงานด้านความมั่นคงและเรียนรู้ไปด้วยกัน กระทรวงกลาโหมพร้อมรับฟังความคิดเห็นและข้อสังเกตดังกล่าวด้วยใจจริง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการดำเนินงานอย่างรอบคอบ

โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการลงนาม ในแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมระหว่าง ไทย-สหรัฐฯ ว่าด้วยการเป็นพันธมิตร ด้านการป้องกันประเทศ 2020 ที่ผ่านมา เป็นเพียงกรอบแนวคิดและจุดยืนที่มีร่วมกัน มิได้เป็นสนธิสัญญา หรือมีข้อผูกพันทางกฎหมายที่ต้องปฏิบัติแต่อย่างใด ทั้งนี้เป็นการปรับปรุงจากแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วม 2012 เดิมที่เคยมีอยู่ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เน้นย้ำ ความยึดมั่นร่วมกันของไทยและสหรัฐฯ ในการเป็นพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศที่มีร่วมกันมายาวนาน ภายใต้ 5 เสาหลัก ได้แก่ ความเป็นหุ้นส่วน การดำรงบทบาท ความร่วมมือด้านความมั่นคงที่ยั่งยืน ความเป็นผู้นำ และกลไกความมั่นคงในภูมิภาค เพื่อป้องปรามและตอบสนองความท้าทายร่วมกัน จึงขอให้เชื่อมั่นการทำหน้าที่ในภารกิจป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหมที่ยังยึดมั่นและให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ชาติและความมั่นคงของประเทศเป็นหลัก

ประยุทธ์ กลาโหม สหรัฐอเมริกา -2E21-4215-B4F9-28A513764062.jpegประยุทธ์ สหรัฐอเมริกา กลาโหม -2A57-4E4A-864F-D517D7DF9AD9.jpeg