ไม่พบผลการค้นหา
ดุสิตโพลเผยหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจคนเทคะแนนฝ่ายค้าน 6.90 - รัฐบาล 5.01 เต็ม 10 ขณะที่คน 43.25% ไม่เชื่อมั่นรัฐบาล เบื่อประท้วงทำให้เสียเวลา

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศเฉพาะผู้ที่สนใจติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จำนวนทั้งสิ้น 1,712 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 17- 20 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อสะท้อนความคิดเห็นกรณีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล รวม 10 คน สรุปผลได้ ดังนี้

1. ประชาชนติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจจากช่องทางใด

อันดับ 1 ติดตามจากโซเชียลมีเดีย 43.81%

อันดับ 2 ติดตามการถ่ายทอดสด 29.20%

อันดับ 3 ติดตามข่าวจากสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ 26.99%

2. “จุดเด่น-จุดด้อย” ของ การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ คือ

จุดเด่น

1. ภาพรวมการซักฟอกของฝ่ายค้าน 52.64%

2. เนื้อหาที่นำมาอภิปรายเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ 51.50%

3. การเตรียมข้อมูล เอกสารต่างๆ ครบถ้วน 41.30%

4. เปิดโอกาสให้ทั้ง 2 ฝ่าย ได้แสดงความคิดเห็น 38.60%

5. ประธานสภาทำหน้าที่ได้ดี 33.19%

จุดด้อย

1. ประท้วงบ่อย ทำให้เสียเวลา 71.26%

2. ตอบข้อซักถามไม่ชัดเจน ไม่ตรงประเด็น 51.20%

3. พูดนอกเรื่อง พาดพิงบุคคลอื่น 50.62%

4. ใช้คำพูดไม่สุภาพ ไม่สำรวม ไม่ควบคุมอารมณ์ 46.98%

5. พูดจาโจมตีกันไปมา 42.40%

3. หลังการอภิปรายเสร็จสิ้นลง ประชาชนคิดว่าการเมืองไทยจะเป็นอย่างไร?

อันดับ 1 เหมือนเดิม 55.40%

อันดับ 2 น่าจะแย่ลง 30.28%

อันดับ 3 น่าจะดีขึ้น 14.32%

4. ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อ “รัฐบาล” หลังจากผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วเป็นอย่างไร ?

อันดับ 1 ไม่เชื่อมั่น 43.25%

อันดับ 2 เชื่อมั่นน้อยลง 23.28%

อันดับ 3 เชื่อมั่นเหมือนเดิม 20.57%

อันดับ 4 เชื่อมั่นมากขึ้น 12.90%

5. ภาพรวมการให้คะแนนของประชาชนต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล (คะแนนเต็ม 10)

ฝ่ายค้าน 6.90 คะแนน ฝ่ายรัฐบาล 5.01 คะแนน

พรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ 2 ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ประชาชนให้คะแนนฝ่ายค้านมากกว่าฝ่ายรัฐบาล เพราะเห็นว่าภาพรวมทำงานได้ดี มีเนื้อหาน่าสนใจ เตรียมข้อมูลเชิงลึกมาอภิปรายให้เห็นภาพ โดยมองว่าหลังจบอภิปรายครั้งนี้สถานการณ์การเมืองไทยก็น่าจะยังเหมือนเดิม และที่สำคัญประชาชนนั้นรู้สึก “ไม่เชื่อมั่น” ต่อรัฐบาล ถึงแม้ในสภา 10 รัฐมนตรีจะได้รับการไว้วางใจก็ตาม