อธิบดีกรมการค้าภายในเผยเดือน ก.พ.อนุมัติส่งออกหน้ากากอนามัย 12.7 ล้านชิ้น

อธิบดีกรมการค้าภายใน เผยเดือน ก.พ. 2563 อนุมัติส่งออกหน้ากากอนามัย 12.7 ล้านชิ้น แก่ผู้ยื่นคำขอ 7 ราย ย้ำไม่ใช่หน้ากากอนามัยที่ใช้ในประเทศ เดินหน้าฟ้องโฆษกกรมศุลกากรฐานทำเสียชื่อเสียง ยันไม่เคยรู้จักกันส่วนตัว

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในเดือน ก.พ. 2563 คณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาการส่งออก ได้พิจารณาอนุญาตให้สามารถส่งออกหน้ากากอนามัยไปแล้ว รวม 34 คำขอจาก 7 บริษัท ได้แก่

บริษัท เอ็มเมอรัลด์ นอนวูเว่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
บริษัท สยามโคเค็น จำกัด
บริษัท ไทยฮอสพิทอล โปรดักส์ จำกัด
บริษัท โฟมเทค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
บริษัท คลีนสแตท (ประเทศไทย) จำกัด
สนง.พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
บริษัท ไอรีมา (ประเทศไทย) จำกัด

รวมจำนวนทั้งสิ้น 12,742,051 ล้านชิ้น หรือประมาณ 50 ตัน กระจายไปยัง 8 ประเทศ คือ ออสเตเลีย จีน ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เนเธอแลนด์ ฟิลิปปินส์ และเยอรมนี โดยตั้งแต่มีการประกาศห้ามส่งออกหน้ากากอนามัย มีการขออนุญาตส่งออกรวมทั้งสิ้น 53 ล้านชิ้น ยังไม่ได้มีการอนุมัติประมาณ 41 ล้านชิ้น ซึ่งในส่วนของจำนวนที่ให้ส่งออก อธิบดีกรมการค้าภายใน ให้เหตุผลว่า เป็นหน้ากากอนามัยที่ไม่ได้ใช้ในประเทศ คือ หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ใช้ในห้องผ่าตัด วัตถุดิบนำเข้าได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้รับสิทธิ์จากบีโอไอผลิตส่งออกทั้งหมด เป็นรุ่นที่มีลิขสิทธิ์ต่างประเทศ เป็นหน้ากากรุ่นเฉพาะผลิตจากโฟมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นหน้ากากชนิดบาง 2 ชั้นที่ใช้ในอุตสาหกรรม และส่งออกเพื่อทดสอบประสิทธิภาพและวิจัย "ยืนยันว่า ยังไม่มีการพิจารณาอนุญาตให้ส่งออกหน้ากากอนามัยที่ใช้ในประเทศไทย หรือหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ แม้แต่ชิ้นเดียว ส่วนการส่งออกในเดือน ม.ค. 2563 เป็นการค้าในระบบปกติ ที่ยังไม่ได้ประกาศเป็นสินค้าควบคุม ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอำนาจของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งในแต่ละปีมีการส่งออกหน้าอนามัยประมาณ 200 ล้านชิ้น" นายวิชัย กล่าว

อธิบดีกรมการค้าภายในแถลงปมหน้ากาก_๒๐๐๓๑๒__0.jpg

ส่วนกรณีที่ทางกรมศุลกากร ระบุว่า ยังมีการส่งออกหน้ากากอนามัยจำนวนมากนั้น อธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุว่า เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนและไม่เป็นความจริง เนื่องจากยอดที่แสดง 330 ตัน ไม่ใช่หน่วยที่ใช้นับหน้ากากอนามัย เพราะต้องนับเป็นชิ้น ซึ่งจำนวน 330 ตันตามที่กรมศุลกากรชี้แจงนั้นจะคิดเป็นจำนวนสูงถึง 80 ล้านชิ้น อีกทั้งหน้ากากอนามัยถือเป็นเครื่องมือแพทย์ห้ามไม่ให้บรรจุรวมกับสินค้าอื่นๆ เพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัย

พบ ปอท. ฟ้อง 'โฆษกศุลกากร' ฐานหมิ่นประมาท-เผยแพร่ข้อมูลเท็จ

ล่าสุดวันนี้ (12มี.ค.2563) อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้เดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ ปอท. เพื่อดำเนินการฟ้องร้องนายชัยวัฒน์ คำคุณ โฆษกกรมศุลกากร ในข้อหาหมิ่นประมาท และเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จกับสื่อมวลชน ฐานทำให้กรมการค้าภายในเสียหาย ยืนยันว่า ไม่รู้จักกับโฆษกกรมศุลกากรเป็นการส่วนตัว และไม่ได้มีความโกรธแค้นกันมาก่อน แต่จำเป็นต้องดำเนินการเพื่อให้เห็นว่าเป็นความผิดพลาดของกรมศุลกากร "ผมเป็นลูกหม้อของกรมการค้าภายใน จะไม่ยอมทำให้ใครทำให้เสียหาย ยืนยันว่าไม่มีปัญหาส่วนตัว และไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว ดังนั้นต้องแสดงให้เห็นว่าที่พูดเป็นสิ่งที่สร้างความเสียหาย จะชี้แจงอย่างเดียวไม่พอ" นายวิชัย กล่าว อธิบดีกรมการค้าภายใน ยังได้มีการเปิดเผยสถานการณ์การผลิตหน้ากากอนามัยในประเทศว่า ขณะนี้ได้ขอความร่วมมือให้โรงงานผลิตหน้ากากอนามัยให้เปลี่ยนสเปคมาผลิตแบบทางการแพทย์ที่ใช้ในประเทศเป็นหลัก ทำให้ในช่วง 2 วันที่ผ่านมามีจำนวนการผลิตหน้ากากเพิ่มขึ้นจาก 1.2 ล้านชิ้นเป็น 1.56 ล้านชิ้นแล้ว

เบื้องต้นจะมีการจัดสรรให้กระทรวงสาธารณสุขเพื่อกระจายไปให้บุคลากรทางการแพทย์เพิ่มเป็น 8 แสนชิ้น จากเดิมที่ 7 แสนชิ้น ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 7.6 แสนชิ้น จากเดิม 5 แสนชิ้น ของกรมการค้าภายในจะรับมาดูแลเพื่อจัดสรรไปจำหน่ายให้ภาคประชาชนในประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :