ไม่พบผลการค้นหา
'อนุทิน' ลั่นหาก 'เพื่อไทย' ยังอุ้ม 'ก้าวไกล' ที่แก้ 112 อยู่ ภูมิใจไทยคงไม่ร่วมด้วย รวมไทยสร้างชาติ ชี้ 'ก้าวไกล' เดินไปไกลแล้ว แม้ลดเพดาน 112 ทุกพรรคก็รู้

อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ว่า ของพรรคภูมิใจไทย ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังเหมือนเดิม คือไม่แก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และไม่ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทย ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยจะมีเงื่อนไขอะไรหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า มีแนวทางอยู่ 2 ข้อ ที่เป็นเรื่องหลัก คือ เรื่องมาตรา 112 และไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะไม่ทำ    

เมื่อถามว่า มีการมองว่าหากพรรคลำดับที่ 2 จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ และเป็นพรรคลำดับที่ 3 มองอย่างไร อนุทิน กล่าวว่า รอให้เกิดขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้มันยังไม่เกิด ตอนนี้ยังอยู่ในกระบวนการที่พรรคอันดับ 1 ยังจัดตั้งรัฐบาลอยู่ ยังมาไม่ถึงพรรคลำดับที่ 2 เลย   

เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ยังจับมือกับพรรคก้าวไกลอยู่ พรรคภูมิใจไทยจะร่วมด้วยได้หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ก็พูดไปแล้ว คือไม่เอา ซึ่งตนก็ยังอยู่ในแนวทางไม่แตะมาตรา 112 และไม่เอาเสียงข้างน้อย เมื่อถามย้ำว่า แต่หากไม่มีพรรคก้าวไกลจะพิจารณารับข้อเสนอใช่หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า อย่าเพิ่งแต่ อย่าเพิ่งถ้า 

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีชื่อของ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ขึ้นมาแทนมพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล รับได้หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของแต่ละพรรคที่มีแคนดิเดตนายกฯ ตนขอบอกว่าทุกคนที่แต่ละพรรคเสนอ มีความเหมาะสมตามเหตุผลของพรรคนั้น ถ้าเราไปบอกคนนู้นไม่เหมาะคนนี้ไม่เหมาะ ซึ่งไม่มีสิทธิ์ที่จะไปพูด ถ้าเราไปบอกไม่เหมาะเดี๋ยวเขาจะบอกว่าเราฝั่งเราไม่เหมาะก็ยุ่งตาย

เมื่อถามว่าโดยส่วนตัวพร้อมชิงตำแหน่งนายกฯ หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า เอาไว้ให้มีความชัดเจนก่อน ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมสนับสนุนให้พรรคที่กำลังจัดตั้งรัฐบาลทำได้สำเร็จ

ปชป. เดินตามมติพรรคโหวตนายกฯ

ด้าน จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนเข้าประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ว่า วันนี้พรรคจะมีการประชุมหารือกัน จากนั้นจะได้ข้อสรุปถึงแนวทางการลงมติ ซึ่งอาจจะมี 2 เรื่อง เท่าที่ประเมินได้ คือ ถ้ามีการเสนอชื่อนายพิธา พรรคจะลงมติอย่างไร ซึ่งคราวที่แล้วพรรคมีมติงดออกเสียง สำหรับครั้งนี้จะได้พิจารณากันอีกครั้งว่าจะลงมติอย่างไร แต่คงจะไม่คล้อยไปในทางที่จะเห็นชอบ

ส่วนอีกเรื่องคือ ประเด็นว่าจะเสนอชื่อนายพิธา เป็นครั้งที่ 2 ได้หรือไม่ ถือเป็นการเสนอญัตติซ้ำหรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นที่ยังถกเถียงกันอยู่ เมื่อวานท่านประธานรัฐสภานัดประชุม ก็ยังหาข้อยุติไม่ได้เพราะมีความเห็นเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งก็บอกว่าไม่สามารถเสนอซ้ำได้ เพราะเสนอญัตติซ้ำไม่ได้ในสมัยประชุมเดียวกัน แต่อีกฝ่ายบอกว่าเสนอได้ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้ห้าม เรื่องนี้จึงต้องไปดูกัน แต่สุดท้ายก็คงจะถกกันในประเด็นที่ว่ามันเป็นญัตติหรือไม่ด้วย ซึ่งก็ยังไม่มีใครหาข้อยุติได้ว่ามันเป็นญัตติหรือไม่เป็น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่จะต้องไปฟังความเห็นจากที่ประชุมกัน 

“มันก็มี 2 ทางเลือกเท่านั้นเอง ถ้าสมมติว่าไม่ได้ให้ความเห็นชอบ ก็คงงดออกเสียง หรือว่าไม่เห็นชอบ ผมขอฟังที่ประชุมนิดนึงก่อน ไม่อยากตอบคนเดียว และเมื่อประชุมแล้วก็คงจะเห็นไปในทางเดียวกันว่าจะลงมติอย่างไร กับอีกอันหนึ่งก็คือประเด็นว่าจะเสนอชื่อนายพิธา เป็นครั้งที่ 2 ได้หรือไม่ ถือเป็นการเสนอญัตติซ้ำหรือไม่ เพราะฉะนั้นอันนี้ก็จะต้องไปดูกัน

แต่สุดท้ายก็คงจะถกกันในประเด็นที่ว่ามันเป็นญัตติหรือไม่ด้วยประเด็นนี้ ซึ่งก็ยังไม่มีใครหาข้อยุติได้ว่ามันเป็นญัตติหรือไม่เป็น ฝ่ายที่บอกว่าเสนอซ้ำไม่ได้ ก็บอกมันเป็นญัตติแล้ว เสนอซ้ำไม่ได้ ฝ่ายที่บอกว่าเสนอซ้ำได้ บอกว่ามันไม่ได้เป็นญัตติ อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ผมคิดว่าก็ต้องไปฟังความเห็นในที่ประชุมกัน” จุรินทร์กล่าว 

ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการที่มีพรรคก้าวไกลพยายามติดต่อพรรคประชาธิปัตย์นั้น มีความคืบหน้าอย่างไร จุรินทร์ กล่าวว่า ตนได้ตอบไปแล้ววานนี้ว่า ประชาธิปัตย์ไม่ได้ไปเจรจาจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ชัดเจนไปแล้ว ส่วนเรื่องที่สื่อถามถึงกรณีเกิดการพลิกขั้วการเมืองขึ้น จุรินทร์ ก็ตอบว่า ตนตอบล่วงหน้าไม่ได้และมันยังไม่เกิดขึ้นด้วย มีแต่การคาดการณ์ เราจะไปให้คำตอบในสิ่งที่เป็นการคาดการณ์และยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง จะทำให้เกิดความสับสนได้ ขณะนี้ก็ต้องถือว่าก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคที่เหลือ 312 เสียงอยู่ ก็ต้องให้โอกาสเขาในการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล

บอก 'ก้าวไกล' เดินไปไกลแล้ว แม้ลดเพดาน 112 ทุกพรรคก็รู้ 

ธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวยืนยันเหมือนเดิมในหลักการ ยืนยันว่าไม่เห็นชอบให้ พิธา แม้รัฐบาลที่มีพรรคก้าวไกลอยู่ด้วย เราก็ไม่สนับสนุนอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อวานพรรครวมไทยสร้างชาติ มีมติไปแล้ว เห็นว่าไม่สามารถเสนอญัตติซ้ำได้ 

ที่ผ่านมาตนเห็นสมาชิกและแฟนคลับ ของพรรคก้าวไกลไปบลูลี่ ส.ว.ตนไม่เห็นมีใครออกมาทำความเข้าใจ ว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่ถูกต้อง โดยหลักการแล้ว ผู้ที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีของทุกคน ไม่ใช่ปล่อยให้ความขัดแย้งความแตกแยกบานปลายออกไป และวันนี้ก็ไปขอเสียง ส.ว.อีก ตนคิดว่าเป็นวิธีที่เดินเกมส์ไม่ถูก ไปขอเสียงเขาก็ต้องหาวิธีการเจรจาที่นิ่มนวล มีเหตุมีผล อย่างนี้ตนคิดว่ามันก็ยาก 

ส่วนหากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเราก็คงมีการพูดคุยกันในพรรค แต่ที่ตนย้ำก็คือเราไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล พรรคที่มีแนวคิดแก้ไขมาตรา 112 ส่วนพรรคการเมืองอื่นๆ คิดว่าพูดคุยกันได้อยู่แล้ว แต่ทุกอย่างต้องเป็นมติพรรคขณะเดียวกันเราก็พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านเช่นเดียวกัน  

ส่วนหากพรรคก้าวไกลยอมลดเพดานมาตรา 112 แสดงว่าเราพร้อมที่จะสนับสนุนหรือไม่ ธนกร ระบุว่าเราคิดว่าถูกพรรค เขาเข้าใจ ท่านเดินหน้าไปไกลแล้ว ท่านไม่ถอยหลังหรอก มันเป็นจุดยืนของท่าน ในสังคมวันนี้ ซึ่งตนก็ไม่เห็นด้วยตั้งแต่ตอนเลือกตั้ง ตนก็ต้องเดินหน้าไปเหมือนกัน ดังนั้นตนก็ต้องเดินหน้าไปเหมือนกัน